ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1804
ครั้งนี้เมื่อได้ยินว่าเซียวฉางเฉียนต้องการลงมือทำร้ายแม่ยายของเย่เฉินก่อน ทำให้อู๋ตงไห่ดีใจมากๆ กลัวว่าตัวเองจะพลาดเหตุการณ์นี้ไป ดังนั้นเขาก็เลยให้ลูกน้องขับรถยนต์พาตัวเองมาดูการถ่ายทอดสดเหตุการณ์นี้
ทันทีที่เขามาถึง เซียวไห่หลงวิ่งออกมาเปิดประตูโกดังด้วยตัวเอง ให้รถยนต์โรลส์รอยซ์ที่อู๋ตงไห่นั่งมาขับเข้ามาในโกดัง
เซียวฉางเฉียนเดินไปที่ประตูรถยนต์ด้วยความตื่นเต้น และเปิดประตูเบาะหลังให้อู๋ตงไห่ทันที
เมื่อประตูถูกเปิดออก เซียวฉางเฉียนก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อมและพูด:”ประธานอู๋ คุณมาแล้วเหรอ!”
อู๋ตงไห่พยักหน้า เมื่อเห็นหม่าหลันที่ถูกมัดรวมกับเย่ฉางหมิ่น เขาก็พูดอย่างเย็นชา:”คนๆนี้คือแม่ยายของเย่เฉินใช่ไหม?”
“ใช่ครับ!”เซียวฉางเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงอาฆาตเล็กน้อย:”ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนอารมณ์ร้ายปากจัดที่สุดในโลก เป็นผู้หญิงที่เลวมากๆด้วย! เดี๋ยวผมจะสั่งให้ลูกน้องจัดการเธอ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับประธานอู๋!”
เมื่อหม่าหลันได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอหวาดกลัวและรีบอ้อนวอนทันที:”ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ได้มีความแค้นอะไรกับพวกคุณ ทำไมพวกคุณต้องทำกับฉันแบบนี้…”
อู๋ตงไห่พูดอย่างเย็นชา:”ไม่มีความแค้นกับฉัน? คุณรู้หรือเปล่าว่าเย่เฉินที่เป็นลูกเขยของคุณ เป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกับฉัน?! วันนี้คุณตกมาอยู่ในมือของฉัน อย่าโทษว่าฉันโหดเหี้ยมอำมหิต ต้องโทษที่พวกคุณเอาเขามาเป็นลูกเขย!”
หม่าหลันใกล้จะเป็นบ้าแล้ว เธอร้องไห้และพูด:”ฉันโดนปรักปรำ!เย่เฉินไม่ใช่ลูกเขยที่ฉันเป็นคนหามาเอง แต่เป็นพ่อของเซียวฉางเฉียนเป็นคนหา ตอนแรกฉันคัดค้านเรื่องนี้อย่างรุนแรง แต่คุณพ่อไม่ฟังที่ฉันพูดเลย!”
อู๋ตงไห่พูดอย่างดูถูก:”อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ ขอแค่เป็นคนใกล้ชิดของเย่เฉิน ก็เป็นหนามยอกอกของฉันทั้งหมด!”
ขณะพูด สีหน้าของเขาก็ตื่นเต้นเล็กน้อย และก็พูดด้วยความเสียดายว่า:”น่าเสียดายจริงๆ คุณก็เป็นแค่แม่ยายของเย่เฉิน ไม่ใช่ญาติสนิทของเย่เฉิน ถ้าสามารถหาญาติสนิทของเย่เฉินได้หนึ่งคน หลังจากนั้นก็ฆ่าเขาต่อหน้าเย่เฉิน มันคงรู้สึกดีมากๆอย่างแน่นอน!”
เมื่ออู๋ตงไห่พูดคำเหล่านี้ออกมา ทำให้หม่าหลันรู้สึกว่าผู้หญิงที่มัดรวมกันอยู่ข้างหลัง ตัวสั่นอย่างรุนแรง
เย่ฉางหมิ่นกลัวจนฉี่จะราด
เดิมทีเธอคิดว่า ตัวเองซวยมากๆที่เจอศัตรูของผู้หญิงเลวๆอย่างหม่าหลัน
แต่ตอนนี้เธอพึ่งจะเข้าใจ ว่าเรื่องที่ตัวเองกำลังเจออยู่ ไม่ใช่ศัตรูของหม่าหลัน แต่เป็นศัตรูของเย่เฉิน!
นอกจากนี้ อีกฝ่ายยังรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสฆ่าญาติสนิทของเย่เฉิน…
ตัวเองเป็นญาติสนิทของเย่เฉินไม่ใช่เหรอ? เพราะตัวเองเป็นอาหญิงของเย่เฉิน!
ในเวลานี้ อู๋ตงไห่มองไปที่เซียวฉางเฉียนและพูด:”เหล่าเซียว เมื่อไหร่คุณจะลักพาตัวภรรยาของเย่เฉิน?”
เมื่อเซียวฉางเฉียนได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อยและพูด:”ประธานอู๋ เซียวชูหรันเป็นหลานสาวแท้ๆของฉัน ฉันทำใจลงมือไม่ได้…”
อู๋ตงไห่โบกมือ:”ฉันไม่ได้ต้องการฆ่าภรรยาของเขา! ฉันจะเก็บภรรยาของเขาไว้รองสุดท้าย ก่อนที่จะฆ่าเย่เฉิน ฉันจะฆ่าเธอต่อหน้าเย่เฉิน!”
ขณะพูด อู๋ตงไห่ก็หยุดไปชั่วครู่และถาม:”ความหมายของฉันคือ ให้ฆ่าสมาชิกในครอบครัวที่เป็นสายเลือดเดียวกับเย่เฉินก่อนเพื่อความสะใจ ถึงแม้เย่เฉินจะไม่มีพ่อแม่ เขาไม่มีลุงอาหญิงน้าอาเลยเหรอ?”
เซียวฉางเฉียนคิดอย่างรอบคอบและพูด:”เย่เฉินเป็นเด็กกำพร้ามาโดยตลอด ฉันไม่เคยได้ยินว่าเขามีญาติสนิทที่เป็นสายเลือดเดียวกัน ญาติสนิทของเขาน่าจะตายหมดแล้วมั้ง!”
อู๋ตงไห่ถอนหายใจ:”เป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆ!”
ในเวลานี้ จู่ๆหม่าหลันก็เกิดความคิดและพูดทันที:”ฉันรู้ฉันรู้! เย่เฉินมีญาติสนิทที่เป็นสายเลือดเดียวกัน! ผู้หญิงที่มัดรวมกับฉันคนนี้ เธอเป็นอาหญิงของเย่เฉิน! ถ้าพวกคุณเกลียดชังเย่เฉิน ก็ฆ่าเธอได้เลย การฆ่าเธอ มันต้องมีประโยชน์มากกว่าฆ่าฉัน!”
เย่ฉางหมิ่นหวาดกลัวจนหัวใจใกล้จะวาย!
เธอร้องไห้ในใจอย่างสิ้นหวัง:”ก่อนที่ฉันจะออกมา คุณพ่อได้กำชับฉันแล้ว อย่าให้หม่าหลันทราบว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลเย่ กลัวว่าหม่าหลันทราบว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลเย่แล้ว เธอจะเกิดความโลภและขออะไรมากจนเกินไป… แล้วหม่าหลันรู้ได้ยังไงว่าตัวเองคืออาหญิงของเย่เฉิน?!”