ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1805
อันที่จริงหม่าหลันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเย่ฉางหมิ่นเป็นใครกันแน่
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเย่ฉางหมิ่นนามสกุลอะไร ชื่ออะไร มาจากที่ไหน
เหตุผลที่หม่าหลันพูดว่าเย่ฉางหมิ่นเป็นอาหญิงของเย่เฉิน เพราะเธอพูดโกหก
เหตุผลที่เธอพูดแบบนี้ เพราะว่าเธอหวาดกลัวมากๆจากคำพูดของอู๋ตงไห่ที่พูดเมื่อสักครู่
หม่าหลันกลัวว่าอู๋ตงไห่จะฆ่าตัวเอง ดังนั้น เธอก็ครุ่นคิดอยู่ในใจ:”ในเมื่ออู๋ตงไห่ต้องการฆ่าญาติสนิทสายเลือดเดียวกันกับเย่เฉินเพื่อแก้แค้น ถ้างั้นฉันก็หักหลังผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังของฉัน! ทำอย่างนี้ไม่เพียงทำให้ตัวเองปลอดภัยมากขึ้น ยังสามารถแก้แค้นผู้หญิงคนนั้นที่ทะเลาะกันฉันและทำให้ฉันต้องอับอายด้วย!”
“ผู้หญิงบ้าๆคนนี้ กล้ามาเสแสร้งต่อหน้าฉัน!เธอยังเอาเช็คปลอมมาหลอกฉันอีก บอกให้ฉันเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวหย่ากับเย่เฉิน เพราะเหตุผลนี้ ฉันใส่ร้ายว่าเธอเป็นอาหญิงของเย่เฉิน มันก็สมเหตุสมผลเหมือนกัน!”
หม่าหลันก็คาดคิดไม่ถึงเหมือนกัน ตัวเองจะพูดถูก!
อู๋ตงไห่ยิ่งคาดคิดไม่ถึงเหมือนกัน ผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังหม่าหลัน จะเป็นอาหญิงของเย่เฉินจริงๆ เขาถามด้วยความประหลาดใจ:”หม่าหลัน คุณพูดว่าเขาเป็นอาหญิงของเย่เฉิน คุณไม่ได้แกล้งผมใช่ไหม?”
“ฉันไม่ได้แกล้งคุณแน่นอน!”หม่าหลันรีบพูดออกมาทันที:”ผู้หญิงคนนี้เป็นอาหญิงของเย่เฉินจริงๆ เมื่อสักครู่เธอมาหาฉันที่ร้านเสริมสวย บอกว่าจะให้เช็คมูลค่าหนึ่งร้อยล้านหยวน เพื่อให้ลูกสาวของฉันหย่ากับเย่เฉิน!”
เมื่ออู๋ตงไห่ฟังจบ เดินมาข้างหน้าเย่ฉางหมิ่นอย่างรวดเร็ว มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
ถึงแม้เขาจะมองเห็นเย่ฉางหมิ่นแต่งตัวไม่ธรรมดา เมื่อมองดูแล้วก็ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่เขารู้สึกว่าไม่คุ้นหน้าของเธอเลย
จะโทษว่าเขาโง่เขลาก็ไม่ได้ เพราะตระกูลเย่แห่งเย่นจิงถึงแม้จะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่คนในตระกูลเย่ไม่ค่อยปรากฏตัวในสายตาของสาธารณชนเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง
นอกจากสังคมชนชั้นสูงของเย่นจิงแล้ว คนธรรมดาทั่วไปไม่เคยเห็นคนของตระกูลเย่เลย
สื่อจากทุกสำนักก็ไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคนในตระกูลเย่
ดังนั้น ถึงแม้ว่าอู๋ตงไห่จะรู้จักตระกูลเย่แห่งเย่นจิง และได้ยินชื่อเสียงของตระกูลนี้มาเยอะ แต่เขาไม่รู้จักใครในตระกูลเย่เลยสักคน
แน่นอนว่าเขาไม่รู้จักเย่ฉางหมิ่นที่อยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว
ดังนั้น เขาก็เลยดึงผ้าขนหนูที่อุดอยู่ในปากของเย่ฉางหมิ่นออก และถามด้วยความเย็นชา:”คุณเป็นอาหญิงของเย่เฉินเหรอ?”
เย่ฉางหมิ่นหวาดกลัวจนตัวสั่น และส่ายหัวปฏิเสธทันที:”ไม่ใช่! ฉันไม่ใช่อาหญิงของเย่เฉิน! ฉันไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเย่เฉินเลย!”
หม่าหลันตะโกนทันที:”คุณพูดไร้สาระ! ถ้าคุณไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเย่เฉิน ทำไมต้องให้ลูกสาวของฉันหย่ากับเย่เฉิน?!”
เย่ฉางหมิ่นรู้สึกประหม่าและไม่รู้จะตอบยังไง
เธอได้ยินคำพูดของอู๋ตงไห่ด้วยตัวเอง เขาจะฆ่าญาติสนิทสายเลือดเดียวกันกับเย่เฉิน ถ้าเขารู้ว่าตัวเองเป็นอาหญิงของเย่เฉินจริงๆ เขาคงไม่พูดอะไรและฆ่าตัวเองทันที
ดังนั้นเธอรู้ว่าตัวเองห้ามยอมรับความสัมพันธ์นี้เด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่กล้าเปิดเผยว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลเย่ เพราะถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลเย่ พวกเขาคงไม่ฟังอะไรเลยและฆ่าฉันให้ตายเพื่อไม่ให้เกิดความหายนะตามมาทีหลัง
อู๋ตงไห่เห็นว่าเธอไม่พูดอะไรเลยมาสักพัก เขาเดินขึ้นไปข้างหน้าและตบหน้าเย่ฉางหมิ่นหนึ่งที เขากัดฟันและพูดด้วยความโกรธ:”ไม่ยอมพูดเหรอ?! ได้! ฉันจะฆ่าคุณเลย! ยังไงซะฆ่าผิดคน ก็ดีกว่าปล่อยคนหนีไป!”
ใบหน้าของเย่ฉางหมิ่นขาวซีด พูดด้วยเสียงสะอื้น:”อันที่จริงฉันไม่ใช่ญาติของเย่เฉินเลย ฉันแค่รู้สึกว่าเย่เฉินมีรูปร่างหน้าตาดี และมีความสามารถ ดังนั้นฉันก็เลยอยากได้เขามาเป็นลูกเขย…”