ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1819
เมื่อเผชิญหน้ากับเย่ฉางหมิ่นที่กำลังโกรธจัด เย่เฉินยิ้มอย่างเฉยเมยและถามเธอทันที:”ใกล้จะถึงวันตรุษจีนแล้ว ทำไมคุณไม่อยู่เย่นจิงและเตรียมตัวฉลองตรุษจีน คุณมาที่เมืองจินหลิงเพื่อมาหาเรื่องฉัน เกลี้ยกล่อมแม่ยายของฉันและทำให้ภรรยาหย่ากับฉัน ในเมื่อคุณกล้าทำเรื่องเลวๆแบบนี้ ทำไมฉันจะแกล้งคุณบ้างไม่ได้?”
สีหน้าของเย่ฉางหมิ่นปรากฏความเขินอายเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็กัดฟันและพูด:”ฉันทำเรื่องนี้ก็เพราะคุณ! ดูภรรยาของคุณสิ ครอบครัวของเธอจนขนาดนั้น เธอเหมาะสมกับคุณเหรอ?”
เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:”ภรรยาของฉันเหมาะสมกับฉันหรือเปล่า เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องเข้ามาก้าวก่าย เรื่องในวันนี้เป็นแค่การสั่งสอนบทเรียนเล็กๆให้คุณ ถ้าเข้าใจแล้วก็รีบกลับไปที่เย่นจิงเลย มิฉะนั้น ฉันจะกักขังคุณไว้ฉลองตรุษจีนที่เมืองจินหลิง”
เย่ฉางหมิ่นโกรธจัดขึ้นมาทันที!
เธอพยายามดิ้นรนเพื่อลุกขึ้น แต่ก็ถูกชายชุดดำที่อยู่ข้างๆกดไว้ เธอทำได้เพียงกัดฟันและตะโกนว่า:”เย่เฉิน! คุณกล้าขู่ฉันเหรอ?!”
เย่เฉินพยักหน้าและตอบด้วยสีหน้าปกติ:”ตอนนี้ฉันแค่ข่มขู่คุณ ถ้าคุณกล้าทำให้ฉันรำคาญมากไปกว่านี้ ฉันอาจจะทำร้ายคุณก็ได้”
“คุณกล้าเหรอ!”เย่ฉางหมิ่นกัดฟันพูด:”ถ้าคุณกล้าทำร้ายฉัน ฉันจะแลกชีวิตกับคุณ!”
เย่เฉินเปล่งเสียงเย็นชาออกมาและพูด:”แม้แต่ลูกน้องของฉันยังตบหน้าคุณได้เลย มีอะไรที่ฉันไม่กล้าทำอีก? เหตุผลที่ฉันไม่ทำร้ายคุณ เพราะฉันไม่อยากให้มือของตัวเองสกปรก”
เย่ฉางหมิ่นตะโกนเสียงดังทันที:”คนที่กล้าตบฉัน ฉันจะฆ่าเขาไม่ช้าก็เร็ว! ยังมีแม่ยายของคุณด้วย! ผู้หญิงคนนั้นกล้าทำร้ายฉัน! ฉันจะหันศพของเธอให้เป็นหมื่นๆชิ้น!”
เย่เฉินขมวดคิ้วชั่วครู่ ยักคิ้วและพูด:”ทำไม? คุณยังกล้าหยิ่งยโสอีกเหรอ? ได้ ถ้างั้นคุณก็ไม่ต้องกลับไปแล้ว อยู่ฉลองตรุษจีนที่เมืองจินหลิงเลย!”
เย่ฉางหมิ่นถามทันที:”คุณคิดจะกักขังฉันเหรอ?!”
“ใช่”เย่เฉินพยักหน้า:”คุณใช้คำพูดนี้ได้ดีมาก ฉันจะกักขังคุณจริงๆ!”
เย่ฉางหมิ่นโกรธมากๆและตะโกนออกมา:”คุณกล้าทำเหรอ!”
เย่เฉินพูดเบาๆ:”ฉันกล้าอยู่แล้ว และฉันก็ตัดสินใจแล้ว คุณไม่พอใจใช่ไหม? ได้ งั้นรอจนคุณพอใจ ฉันถึงจะปล่อยคุณกลับไป!”
เย่ฉางหมิ่นตะโกนอย่างบ้าคลั่ง:”เย่เฉิน! ยังไงฉันก็เป็นญาติผู้ใหญ่ของคุณ! เป็นอาหญิงแท้ๆของคุณ! คุณไม่ควรมาทำอวดดีกับฉันแบบนี้!”
“ญาติผู้ใหญ่?”เย่เฉินถามทันที:”คุณพูดมาเต็มปากว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของฉัน เป็นอาหญิงของฉัน งั้นฉันขอถามคุณหน่อย ตอนที่ฉันอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คุณอยู่ที่ไหน?”
เย่ฉางหมิ่นพูดอะไรไม่ออกทันที
เย่เฉินถามอีกครั้ง:”ฉันถามคุณหน่อย หลังจากที่ฉันโตแล้ว และทำงานที่ไซต์งานก่อสร้าง คุณอยู่ที่ไหน?”
เย่ฉางหมิ่นพูดอะไรไม่ออกอีกครั้ง
เย่เฉินถามอีก:”ยังมีอีก ตอนที่ฉันแต่งงาน คุณที่เป็นอาหญิงของฉัน อยู่ที่ไหน?”
สีหน้าของเย่ฉางหมิ่นไม่ค่อยดี เธออยากจะโต้เถียง แต่ไม่รู้จะเถียงยังไง
ในเวลานี้ เย่เฉินพูดอีกครั้ง:”อาหญิงอย่างคุณ ไม่เคยห่วงใยฉันเลย ไม่ช่วยฉันก็ไม่เป็นไร เพราะชีวิตของคนมันก็เป็นแบบนี้ พึ่งภูเขาก็จะทำให้ภูเขาล้ม พึ่งคนอื่นก็จะทำให้คนอื่นหนี ทุกคนต้องรู้จักพึ่งตัวเอง แต่คุณไม่เพียงไม่ช่วยเหลือฉัน ยังมาทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับภรรยา คุณมีเจตนาอะไรกันแน่?!”
“ฉัน…ฉัน…”เย่ฉางหมิ่นเถียงทันที:”เรื่องที่ฉันทำให้เซียวชูหรันหย่าร้างกับคุณ เพราะหวังดีกับคุณ! ผู้หญิงคนนั้นไม่เหมาะสมกับคุณ!”
เย่เฉินพยักหน้าและพูด:”ถ้างั้นฉันกักขังคุณไว้ที่เมืองจินหลิง ดัดนิสัยของคุณ ก็เพราะหวังดีกับคุณเหมือนกัน เพราะนิสัยแบบนี้ของคุณ ถ้าไม่ถูกดัดนิสัยให้ดีขึ้น คุณอาจจะทำเรื่องร้ายๆอันใหญ่หลวงในอนาคตก็ได้ บางทีคุณอาจจะเสียชีวิตเพราะนิสัยแย่ๆของคุณก็ได้!”
เย่ฉางหมิ่นกัดฟันพูด:”คุณกล้าเหรอ! เอาโทรศัพท์เครื่องหนึ่งมาให้ฉัน ฉันจะโทรศัพท์หาคุณปู่ของคุณ!”
เย่เฉินยื่นโทรศัพท์ให้เธอย่างเฉยเมยและพูด:”ใช้เครื่องนี้ ใช้โทรศัพท์ของฉันและโทรตอนนี้เลย!”
เมื่อพูดจบ เขาก็พูดกับชายชุดดำที่อยู่ข้างๆเธอ:”ถอดกุญแจมือของเธอออก”
ชายชุดดำรีบทำตามทันที
เมื่อมือทั้งสองข้างของเย่ฉางหมิ่นเป็นอิสระ เธอรีบหยิบโทรศัพท์จากมือของเย่เฉินและกดหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นก็โทรออก
หลังจากได้ยินเสียงรอสายชั่วครู่ ก็มีเสียงคนชราดังออกขึ้นทันที:”ฮัลโหล ใครครับ?”
เมื่อเย่ฉางหมิ่นได้ยินเสียงชายชราก็ร้องไห้และพูด:”พ่อ ฉันเอง!”