ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1828
เย่เฉินก็มองไปทางอู๋ตงไห่: “จากนี้ไปทุกอย่างต้องรายงานให้หงห้า อย่าได้ทำการก่อกวนอะไรก็ตาม เข้ามั้ยใจมั้ย?”
อู๋ตงไห่รีบกราบคารวะอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า: “คุณชายเย่วางใจเถอะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะทำตามคำสั่งการทุกอย่างของคุณและหงห้า…”
เย่เฉินพูดอีกว่า: “ใช่แล้ว Tomson Riviera A04 แกเป็นคนซื้อใช่มั้ย?”
อู๋ตงไห่พูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า: “ใช่ครับ ผมซื้อเอง…”
เย่เฉินถามเขา: “แกซื้อคฤหาสน์นี้ ให้คนของตระกูลเซียวอาศัยอยู่ เพื่อที่จะทำให้ฉันขยะแขยงใช่มั้ย?”
“ใช่”อู๋ตงไห่พูดอย่างประหม่าสุดขีดว่า: “คุณชายเย่ เรื่องนี้ผมไม่ดีเอง คุณวางใจเถอะ ผมจะรีบเอาคฤหาสน์คืนกลับมาเดี๋ยวนี้ แล้วให้คนของตระกูลเซียวไสหัวออกไป!”
“อย่า!”เย่เฉินโบกมือ และเอ่ยปากพูดว่า: “ไสหัวออกไปก็ไม่สนุกนะสิ แกทำแบบนี้ หยุดงานทั้งหมดของบริษัทเซียวซื่อ ถอนเงินลงทุนที่แกให้กับพวกเขากลับมาทั้งหมด ฉันยังต้องการให้พวกเขากลับไปเหมือนเมื่อก่อนนี้แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในTomson Riviera แต่ความเป็นจริงอยู่ในสภาพที่ไม่มีอะไรเลย”
อู๋ตงไห่พูดอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า: “ได้ครับคุณชายเย่ วันนี้ผมจะไปจัดการให้!”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ: “เอาล่ะ หงห้า นายจัดการคุณอาของฉันให้เรียบร้อย อู๋ตงไห่ไปจัดการเรื่องราวของบริษัทเซียวซื่อให้เรียบร้อย สำหรับเซียวฉางเฉียนและเซียวไห่หลง ก็ไม่ต้องส่งไปที่แผนกที่เกี่ยวข้อง แต่ส่งที่โรงพยาบาลเถอะ”
ทั้งสองคนรีบตกปากรับคำด้วยความเคารพ
สีหน้าท่าทางของเย่ฉางหมิ่นที่อยู่ข้างๆดูไม่ดีอย่างไม่มีอะไรเทียบได้
แต่ว่าดูไม่ดีก็ส่วนของดูไม่ดี ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะมีอารมณ์ต่อต้านอะไรทั้งนั้นแล้ว
ดังนั้น เธอทำได้เพียงพูดด้วยความแค้นใจว่า: “เฉินเอ๋อ นายดูอาก็ได้รับบาดเจ็บด้วย ฟันก็หักไปสองซี่ ไม่งั้นนายก็ให้คนส่งฉันไปที่โรงพยาบาลก่อนเถอะนะ…”
เย่เฉินพยักหน้า: “ส่งไปที่โรงพยาบาลก็ได้ แต่ว่าคุณอย่าได้คิดหาวิธีชั่วร้ายอะไรทั้งนั้น ไม่อย่างนั้น ก็ไม่ได้ง่ายดายเหมือนกับแค่ให้คุณใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจินหลิงเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ไม่แน่อาจจะให้คุณอยู่ในเมืองจินหลิงระยะเวลาหนึ่งปี”
เมื่อเย่ฉางหมิ่นได้ยินเช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย
เย่เฉินจัดการให้ตัวเองอยู่ในหมู่บ้านชุมชน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีอะไรแตกต่างกับการถูกกักบริเวณ สภาพแวดล้อมที่นั่นคงจะเลวร้ายอย่างยิ่ง อยู่เป็นเวลาหนึ่งวันก็เป็นการทรมานมาก หนึ่งอาทิตย์แทบจะบ้าตายแน่ๆ ถ้าเป็นหนึ่งปี ตายไปยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ซะอีกจริงๆเลย
ดังนั้น เธอทำได้เพียงพูดอย่างว่าง่ายว่า: “นายสบายใจได้ ในเมื่ออาบอกว่าจะฟังคำสั่งของนาย ก็ไม่มีทางทำเรื่องเหลวไหลเชื่อไม่ได้อย่างแน่นอน…”
เย่เฉินตอบอือคำหนึ่ง ก็พูดกับหงห้าว่า: “งั้นก็จัดการให้อาของฉันไปที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน เรื่องใส่ฟันเทียมก็ไม่ต้องทำที่เมืองจินหลิงแล้ว ให้เธอกลับไปที่เย่นจิงค่อยใส่”
หงห้ารีบรับปากในทันที: “ได้ครับอาจารย์เย่!”
ต่อจากนั้น หงห้าก็ให้คนจับเย่ฉางหมิ่นและอู๋ตงไห่รถยนต์คนละคัน แล้วก็ให้คนไปที่โกดัง เตรียมหามเซียวฉางเฉียนและเซียวไห่หลงสองคนพ่อลูกที่แขนขาหักออกมา
ในเวลานี้ ผู้ชายทั้งสองคนนอนอยู่บนพื้นคอนกรีตที่เย็นยะเยือก และทรุดตัวลงอย่างสมบูรณ์แล้ว สองคนพ่อลูกร้องไห้อยู่ในโกดังเป็นเวลานาน แทบจะร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง
ในใจของเซียวไห่หลงมีความหดหู่มากแค่ไหนก็หดหู่มากแค่นั้น ร้องไห้สะอึกสะอื้นคิดในใจว่า: “ตอนแรกต้องการจะสั่งสอนหม่าหลัน เอาใจอู๋ตงไห่ กลับคาดไม่ถึงว่า ผู้หญิงแก่ที่ถูกพวกเขาจับตัวมาพร้อมกับหม่าหลันคนนั้น จะเป็นอาชญากรนักต้มตุ๋นข้ามชาติ!”
“ยิ่งไปกว่านั้นอาชญากรนักต้มตุ๋นคนนี้แมร่งสามารถที่จะแต่งเรื่องมั่วซั่วได้เกินไปจริงๆ ยังกุเรื่องมาหนึ่งมุขกับให้เย่เฉินเรียกว่าเป็นฐานะคุณชายในตระกูลยักษ์ใหญ่…ทำให้ฉันกับพ่อต่างก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง…”
“ถึงขนาด ขนาดอู๋ตงไห่ก็เชื่อคำพูดบ้าๆของผู้หญิงสารเลวนั้น!”
“สุนัขแก่อย่างอู๋ตงไห่ แกว่าแกเชื่อก็เชื่อไปสิ แต่ก็ไม่จำเป็นเพื่อเอาใจเขา หักแขนขาพวกเราสองคนพ่อลูก! พวกเราสองคนพ่อลูกต่างก็รับใช้แก ไม่ว่ายังไงแกก็ไม่ควรทำแบบนี้กับพวกเรา! แบบนี้มันคืออะไรกันเนี่ย!”