ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1830
เซียวเวยเวยทอดถอนหายใจอยู่ข้างๆ: “น่าเสียดาย หม่าหลันจะถูกส่งไปขุดถ่านหินที่เหมืองถ่านหินดำในไม่ช้า จางกุ้ยเฟินยังไม่ออกมา รอหลังจากที่เธอออกมา ชาตินี้อาจจะไม่ได้เจอกับหม่าหลันแล้ว”
“นั่นนะสิ!”นายหญิงใหญ่ก็ถอนหายใจเช่นกัน: “แต่ก็ไม่เป็นไร รอหม่าหลันไปถึงที่เหมืองถ่านหินดำ ที่นั่นมีความยากลำบากรอเธออยู่อย่างไม่รู้จบ!”
ในเวลานี้ สถานที่กักขังผู้หญิงในเมืองจินหลิง
จางกุ้ยเฟินที่กำลังเดินเล่นอยู่ก็จามอย่างกะทันหัน
ผู้ติดตามหลายคนรีบเข้าใกล้ และถามอย่างใส่ใจ: “พี่กุ้ยเฟิน พี่เป็นอะไรน่ะ? เป็นหวัดเหรอ?”
จางกุ้ยเฟินขยี้จมูก: “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่แน่อาจมีใครคิดถึงฉัน”
นักโทษหญิงข้างๆที่ชื่อว่าหลี่เยว่ฉินยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า: “นักโทษที่ไม่มีไร้ญาติขาดมิตรอย่างพวกเรา ใครจะคิดถึงพวกเรา!”
“นั่นนะสิ”นักโทษอีกคนหนึ่งชื่อว่าต่งหยู้หลิงก็พูดเสริมตามว่า: “นี่ก็จะปีใหม่แล้ว คนในครอบครัวของฉันก็ยังไม่มีใครมาเยี่ยมฉันเลย ทำให้ฉันใจหายจริงๆ!”
หลังจากพูดจบ เธอมองไปทางจางกุ้ยเฟิน และเอ่ยปากถามว่า: “พี่กุ้ยเฟิน พี่ยังเหลือเวลาอีกนานแค่ไหนที่จะถูกปล่อยออกไปเหรอ?”
จางกุ้ยเฟินจุปากพูดว่า: “เฮ้อ อีกห้าถึงหกเดือน!”
“งั้นก็ใกล้แล้ว ฉันตั้งแปดเดือน…”
“ฉันอีกสี่เดือน เร็วกว่าพวกเธอสองคนเล็กน้อย…”
“เฮ้อ ปีนี้ไม่ได้ฉลองตรุษจีนที่บ้าน ปีหน้าก็น่าจะไม่มีปัญหา!”
จางกุ้ยเฟินถอนหายใจ: “แม่ของฉันจากไปแล้ว สามีของฉันก็หนีไปกับนังจิ้งจอกแล้ว ทั้งครอบครัวน้องชายของฉันก็ชั่วช้าสารเลว ฉันอยู่บนโลกใบนี้แม้แต่ญาติพี่น้องคนหนึ่งก็ไม่มี…”
เมื่อพูดอย่างนี้ ดวงตาของจางกุ้ยเฟินก็แดงขึ้นมาอย่างกะทันหัน และพูดด้วยความสะอื้น: “เฮ้อ! นี่ก็จะตรุษจีนแล้ว ฉันก็ไม่ได้เผากระดาษเงินกระดาษทองให้แม่เฒ่า ไม่รู้ว่าเธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจะเป็นยังไงบ้างเงินพอใช้หรือเปล่า อากาศก็หนาวแล้ว ไม่รู้ว่าเธอมีเงินฉลองตรุษจีนกับพ่อของฉันหรือเปล่า…”
“พี่กุ้ยเฟิน พี่ไม่ต้องคิดเรื่องเหล่านี้แล้ว รอหลังจากที่ออกไป มีโอกาสที่เผากระดาษเงินไปให้พ่อแม่ของพี่!”
จางกุ้ยเฟินพยักหน้าเบาๆ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วพูดว่า: “อันที่จริงแล้วฉันยังคิดถึงนายหญิงใหญ่เซียวคนนั้นมาก เมื่อเห็นท่าทางที่เธอถูกรังแกแบบนั้น ฉันก็นึกถึงท่าทางที่น่าสงสารของแม่ฉันตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ถูกน้องสะใภ้ของฉันรังแก ในใจนี้ ก็เจ็บปวดเป็นพักๆ…”
หลังจากที่พูดจบ เธอถามคนอื่นอีกหลายคน: “พวกเธอว่า ตอนนี้นายหญิงใหญ่เซียวจะเป็นยังไงบ้าง? ตอนที่เธอเข้ามา ขนาดที่นอนก็ยังไม่มี ตอนนี้มีใช้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง? คงไม่ใช่ว่ายังเร่ร่อนตามท้องถนนนะ?”
ขณะที่พูด ผู้คุมเดินเข้ามาอย่างกะทันหัน และเอ่ยปากพูดกับพวกเธอหลายคนว่า: “จางกุ้ยเฟินกับหลี่เยว่ฉินและต่งหยู้หลิง พวกเธอสามคนเก็บข้าวเก็บของ เตรียมตัวออกจากคุก!”
ทั้งสามคนตกตะลึงจนตาค้างในทันที!
จางกุ้ยเฟินถามด้วยความประหลาดใจ: “เตรียมตัวออกจากคุกเหรอ?! ฉันยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอ?”
ผู้คุมพูดว่า: “มีคนทำเรื่องการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดีของพวกเธอแล้ว วันนี้พวกเธอก็สามารถออกจากคุกได้แล้ว!”
“หา?!”จางกุ้ยเฟินพูดด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก: “ฉันก็ไม่ได้รู้จักกับใครเลย ใครจะช่วยฉันทำเรื่องการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดีเหรอ?”
ผู้คุมพูดอย่างราบเรียบว่า: “คือนายหญิงใหญ่เซียวคนรู้จักเก่าของเธอขอให้คนมาช่วยทำเรื่องให้ และเธอจ่ายเงินประกันให้พวกเธอสามคนไม่น้อย!”
จางกุ้ยเฟินก็ยิ่งประหลาดใจจนพูดอะไรไม่ออกมา เธออ้าปากคิดอยู่นานมาก ถึงได้ถามอย่างเหลือเชื่อว่า: “นายหญิงใหญ่เซียวเหรอ?! เธออนาถมากไม่ใช่เหรอ? จะเอาเงินจากไหนมาช่วยทำเรื่องการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดีของพวกเราได้?!”
ผู้คุมพูดด้วยรอยยิ้ม: “ตอนนี้นายหญิงใหญ่เซียวเก่งกาจมาก ได้ยินมาว่าธุรกิจของตระกูลฟื้นฟูคืนกลับมา ยิ่งไปกว่านั้นคนทั้งครอบครัวก็ย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์สุดหรูในTomson Riviera ว่ากันว่าประกันพวกเธอออกมา ก็เพื่อให้พวกเธอไปใช้ชีวิตที่ดีที่Tomson Riviera!”