ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1908
เซียวฉางเฉียนพูดขึ้นด้วยนัยน์ตาแดงก่ำว่า:“แม่ครับรอให้ผมหายดีคล่องตัวแล้ว ผมจะออกไปรับจ้างทำงานข้างนอก ต่อให้ต้องแบกโคนในโครงการก่อสร้าง ผมก็จะหาทุกวิธีเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว จะไม่ยอมให้แม่ที่อายุมากขนาดนี้แล้วต้องไปวิ่งเต้นอย่างลำบากอยู่ข้างนอก!”
ปากของเซียวไห่หลงก็พูดอย่างเบลอๆไม่ชัดเจนว่า:“คุณย่าครับ ถึงตอนนั้นผมก็จะไปด้วยครับ!”
นายหญิงใหญ่เซียวพยักหน้า:“พวกคุณทั้งสองรักษาตัวให้ดีเถอะ รอให้พวกคุณทั้งสองหายดีก่อน ต่อไปฉันก็ต้องฝากความหวังกับคุณทั้งสองดูแลยามแก่จนกระทั่งเสียชีวิตแล้ว!”
ในที่สุดก็เป็นเวลาที่ครอบครัวตระกูลเซียวทั้ง4คนกินอาหารจนอิ่ม เฉียนหงเย่นร้องไห้อยู่ในห้องของตนจนน้ำตาเหือดแห้ง
ในสภาวะที่ทั้งหิวและหนาว เฉียนหงเย่นสิ้นหวังกับคนในตระกูลเซียว ก็ได้ตัดสินใจเตรียมที่จะจากไป
หล่อนไม่คิดที่จะอาศัยอยู่ที่นี่อีกต่อไป และไม่คิดที่จะอยู่ที่เมืองจินหลิงต่อไปอีก
หล่อนคิดจะกลับไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ของตน
แม้ว่าบ้านพ่อแม่ของตนจะไม่ได้มีเงินทองอะไร แถมยังมีพี่ชายที่เกาะกินอยู่กับพ่อแม่ แต่อย่างน้อยบ้านพ่อแม่ของหล่อนก็คงจะให้ข้าวกิน ไม่ปล่อยให้หล่อนต้องตกอับแบบนี้
เพียงแต่ว่าบ้านพ่อแม่ของเธออยู่ห่างไกลจากที่นี่ นั่งรถไฟเบาะนั่งธรรมดาต้องใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ค่าตั๋วรถไฟต้องใช้เงินร้อยกว่าหยวน และค่าเดินทางในการกลับบ้านก็เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเฉียนหงเย่น
หลังจากที่คิดไปคิดมา หล่อนตัดสินใจหาวิธีเอาจากนายหญิงใหญ่เซียว
ค่ำคืนนี้ เนื่องจากนายหญิงใหญ่เซียว ทำงานใช้แรงมาทั้งวัน จึงหลับสนิท
ช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงประมาณตีสาม เฉียนหงเย่นค่อยๆแอบย่องเข้าห้องของเธอ แอบหยิบเงินจำนวน2ร้อยหยวนในกระเป๋าเสื้อของเธอออกมา
เงิน2ร้อยหยวนนี้ ร้อยหยวนแรกเป็นค่าแรงของนายหญิงใหญ่ ส่วนอีกร้อยหยวนเป็นเงินที่นายหญิงใหญ่ถูกตบ
เมื่อเห็นธนบัตรสองใบนี้ ในใจของเฉียนหงเย่นก็ดีใจเป็นอย่างมาก
เงิน2ร้อยหยวนแม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอที่หลังจากฟ้าสางหล่อนจะไปหาข้าวเช้ากินสักมื้อ จากนั้นก็นั่งรถไปกลับไปบ้านพ่อแม่เพื่อเฉลิมฉลองในคืนก่อนวันตรุษจีน!
ดังนั้น หล่อนจึงไม่คิดมากรีบคว้าเงินนั้นใส่กระเป๋าของตนทันที จากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าสองสามตัวและของใช้ส่วนตัว ในขณะที่ฟ้ายังไม่สาง ก็รีบลากกระเป๋าออกไปจากTomson Riviera
ก่อนที่จะจากไป หล่อนทิ้งกระดาษโน๊ตไว้ในห้องของตนแผ่นหนึ่ง โดยเขียนคำไว้4คำว่า:“ไม่พบกันอีก”
…
ในวันส่งท้ายปีเก่าตอนเช้าตรู่
ในที่สุดเซียวชูหรันก็เริ่มต้นวันหยุด
แต่ว่าเธอตื่นเช้าจนชิน ดังนั้นไม่ถึงเจ็ดโมงเธอก็ตื่นล้างหน้าแปรงฟัน
เย่เฉินเห็นว่าภรรยาของตนตื่นนอนแล้ว ตนก็รีบลุกจากเตียง วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ที่บ้านยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมาก ไม่เพียงแต่จะต้องทำอาหารค่ำของคืนส่งท้ายปีเก่า ทั้งยังต้องเตรียมทำไส้เกี๊ยวไว้ก่อน รอจนกระทั่งกินอาหารค่ำของคืนส่งท้ายปีเก่าเรียบร้อยแล้ว ทุกคนจะได้ดูชุนหว่านไปด้วยห่อเกี๊ยวไปด้วย
และในเวลานี้เอง จู่ๆโทรศัพท์ของเซียวชูหรันก็ดังขึ้น เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประหลาดใจว่า:“ไอหยา รั่งหลินโทรหาฉันแต่เช้าเลย มีธุระอะไรหรือเปล่า”
เย่เฉินยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“ภรรยาที่รัก คุณรับสายก็รู้เองแหระ”
เซียวชูหรันพยักหน้า พลางรับโทรศัพท์:“ฮัลโหล รั่งหลิน ทำไมถึงโทรมาแต่เช้าเลยล่ะ?”
ต่งรั่งหลินยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“ฉันหยุดงานแล้วหน่ะสิ!วันนี้วันหยุด ตอนกลางวันก็เลยจะนั่งเครื่องบินกลับเย่นจิงไปกินอาหารมื้อค่ำวันสิ้นปีกับที่บ้าน”
ขณะที่พูดก็พูดต่ออีกประโยคว่า:“อีกสักพักคุณว่างไหม?เดี๋ยวฉันจะไปเยี่ยมที่บ้าน สวัสดีปีใหม่กับคุณลุงคุณป้า”
เซียวชูหรันยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“สะดวกแหละ แต่คุณห้ามซื้ออะไรมาฝากนะ เพราะฉันยังไม่มีเวลาเตรียมของขวัญให้ครอบครัวคุณเลย ดังนั้นพวกเรามีสัมพันธ์ที่ดีกันขนาดนี้ก็อย่ายึดติดในแบบแผนเลย”
“ได้!”ต่งรั่งหลินยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“เรื่องนี้ก็เอาตามที่ฉันว่าก็แล้วกัน?”
เมื่อพูดจบต่งรั่งหลินก็พูดเสริมประโยคหนึ่งว่า:“ใช่แล้วชูหรัน ฉันจะพาพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไปด้วย ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”