ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1936
หม่าหลันกล่าวอย่างจริงจังว่า “นี่มันจะเป็นอะไรไป? ในตอนนี้การเป็นดาราไม่จำเป็นต้องมีทักษะการแสดงและเสียงที่ดี เพียงแค่มีรูปร่างหน้าตาที่ดีก็พอแล้ว! คุณดูสิซูเปอร์สตาร์ที่กำลังมาแรง เสียงก็ไม่ได้ดียังสามารถออกอัลบั้มได้เลย แม้แต่บางคนยังพูดไม่ชัดเลยยังสามารถแสดงละครได้เลย เพราะอะไรล่ะ? ก็เพราะว่ามีรูปร่างหน้าตาที่ดีไง!”
เซียวชูหรันส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “แม่ คุณอย่าพึ่งพูดอะไรเลย ปล่อยให้ฉันดูรายการให้จบดีๆ ……”
หม่าหลันไม่ลืมที่จะกล่าวเสริมไปอีกหนึ่งประโยคว่า “ชูหรัน สิ่งที่แม่พูดเป็นความในใจทั้งหมด และแม่ก็คิดว่าแม่คุณสามารถทำได้จริงๆ ……”
ในเวลานี้ กู้ชิวอี๋ก็กำลังเริ่มร้องเพลงแล้ว
ทันทีที่เธอร้องออกเสียง หม่าหลันก็อดไม่ได้ที่จะอุทานว่า “โอ๊ย! เสียงของผู้หญิงคนนี้ดีจริงๆ!”
เซียวชูหรันรีบโบกมือ “แม่คุณอย่าพึ่งพูดอะไร!”
เย่เฉินก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับเสียงของกู้ชิวอี๋ แม้ว่าเธอจะดูเหมือนเป็นแค่ดาราไอดอล แต่ทันทีที่เธอร้องออกเสียง ก็แสดงถึงทักษะการร้องเพลงที่ดีมากของเธอ มืออาชีพสุดๆ ไปเลย
ทำนองของเพลงนี้ไพเราะ สดใส และประณีต และสวยงามคล้ายกับเพลง “Legend” ที่ร้องจากราชินีสวรรค์ในปีนั้น
เย่เฉินก้อดไม่ได้ที่จะเพลิดเพลินไปอยู่ในนั้นด้วย
ห้านาทีต่อมา หลังจากที่กู้ชิวอี๋ร้องจนจบเพลง เย่เฉินก็ยังคงจมอยู่ในบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมซึ่งเกิดจากการร้องเพลงของเธอในตอนเมื่อกี้นี้
เซียวชูหรันยิ่งฟังจนดวงตากลายเป็นสีแดงเล็กน้อย และปรบมือโดยไม่รู้ตัวขึ้นมา และพูดด้วยอารมณ์ว่า “กู้ชิวอี๋ร้องเพลงได้ดีจริงๆ !เพลงนี้สามารถทำให้หัวใจของคนสั่นไหวไปหมดเลย!”
หลังจากที่พูด เธอก็พูดกับเย่เฉินอีกครั้งว่า “สามี อีกไม่กี่วันกู้ชิวอี๋ก็จะมาจัดคอนเสิร์ตอยู่ในเมืองจินหลิง คุณไปชมเป็นเพื่อนฉันได้ไหม?”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอักอ่วนอยู่ในใจ เมื่อได้ยินเรื่องนี้
กู้ชิวอี๋ก้ได้เชิญตัวเองไปดูคอนเสิร์ตของเธอแล้วจริงๆ แต่ถ้าตัวเองไปกับเซียวชูหรันแล้วก็ เรื่องนี้มักจะรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่ในใจว่า “แม้ว่าผมไม่เคยคิดที่จะหย่ากับชูหรัน และไปทำตามสัญญาการแต่งงานที่พ่อแม่จัดไว้ให้สำหรับผมกับหนานหนาน แต่ผมก็ทนไม่ได้ที่จะพาชูหรันไปดูคอนเสิร์ตของหนานหนานเลย นี่มันไม่ยุติธรรมต่อหนานหนานเล็กน้อย…..”
ในขณะที่เย่เฉินกำลังลังเลอยู่ เซียวชูหรันก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างแอ๊บแบ้วว่า “สามี คุณก็ไปดูเป็นเพื่อนฉันสักครั้งเถอะนะ ได้หรือไม่ ขอร้องคุณแล้วล่ะ…..”
หลังพูดจบแล้ว เธอก็พูดเสริมไปอีกว่า “ถึงเวลาฉันก็จะไปแย่งซื้อตั๋วเอง ถ้าแย่งซื้อมาไม่ได้ฉันก็จะไปซื้อกับแก๊งขายตั๋วผี!คุณไม่ต้องทำอะไรเลย? ถึงเวลานั้นแค่ตัวคุณไปก็พอแล้ว!”
เมื่อเย่เฉินได้ยินเช่นนี้ และก็รู้ว่าการตัดสินใจของเซียวชูหรันที่จะไปดูคอนเสิร์ตของกู้ชิวอี๋นั้นต้องแน่วแน่มากอย่างแน่นอน แม้ว่าตัวเองจะไม่รับปาก แต่เธอก็จะไปด้วยตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเองก็ได้สัญญากับกู้ชิวอี๋ไปแล้ว ว่าจะไปดูคอนเสิร์ตของเธอ และจะผิดสัญญาในตอนนั้นไม่ได้อย่างแน่นอน
หากเป็นเช่นนั้น ตัวเองก็ทำได้เพียงตอบตกลงเท่านั้น
ดังนั้น เขาจึงพูดกับเซียวชูหรันว่า “ภรรยา คุณไม่ต้องกังวล ถึงเวลานั้นผมจะไปกับคุณอย่างแน่นอน”
ขณะที่พูด เขาก็พูดอีกว่า “โอ้ใช่แล้ว เรื่องของตั๋วเข้าชมคุณไม่ต้องกังวลไปแย่งซื้อตั๋วอีกแล้ว ครั้งที่แล้วผมยังได้ไปดูฮวงจุ้ยให้ที่บ้านของคุณกู้เลย ไม่ว่ายังไงคุณกู้ก็น่าจะพอให้หน้าผมบ้าง ถึงเวลานั้นผมไปหาเธอและขอตั๋วเข้าแถวนั่งหน้าสักสองใบคงไม่น่ามีปัญหาหรอก”
เซียวชูหรันถามด้วยความประหลาดใจว่า “สามี คุณพูดจริงหรือไม่?! คุณจะสามารถไปหาคุณกู้และขอตั๋วแถวหน้าได้จริงๆ เหรอ? ตั๋วแถวหน้าสำหรับคอนเสิร์ตของคุณกู้นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก และโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีการปล่อยสู่ภายนอกเลย แก๊งขายตั๋วผีนำออกมาขาย ราคาก็ถูกเพิ่มขึ้นหลายเท่าหรือหลายสิบเท่าเลยทีเดียว ในครั้งหนึ่ง ณ คอนเสิร์ตที่เย่นจิง ตั๋วแถวแรกถูกอัพราคาไปจนถึงใบละหนึ่งแสน ซึ่งสูงเท่าระดับเดียวกับราชินีสวรรค์หว่องในปีนั้นแล้ว!”
เย่เฉินหัวเราะและพูดว่า “คุณกู้ยังคงเป็นคนที่ใจกว้างมาก ผมเชื่อว่าจะให้ความสะดวกนี้แน่นอน”
เซียวชูหรันพูดอย่างตื่นเต้นว่า “งั้นก็เยี่ยมมากจริงๆ เลย! ขอบคุณสามีที่สนับสนุนอาชีพติดตามดาราของฉันขนาดนี้!”
เย่เฉินถอนหายใจอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้ ในขณะนี้ โทรศัพท์มือถือก็ได้รับข้อความจากวีแชท และกู้ชิวอี๋ส่งข้อความมาว่า “พี่เย่เฉิน คุณได้ดูการแสดงของฉันที่หน้าทีวีอยู่หรือไม่?”