ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1991
บทที่ 1991
เมื่ออิโตะนานาโกะได้ยินว่าเย่เฉินต้องการขบวนรถยนต์ที่อลังการและรีบพูดด้วยรอยยิ้ม:”เย่เฉินซ้ง ฉันคิดว่าขบวนรถยนต์ยั่งอลังการไม่
พอหรอก? ถ้างั้นฉันจะส่งเฮลิคอปเตอร์หลายลำไปดีกว่า!”
เย่เฉินหัวเราะเบาๆ:”คนนั้นพักอยู่ที่โรงแรมบุรีในโตเกียว ถ้าส่งเฮลิคอปเตอร์ไปในตัวเมือง มันจะไม่เหมาะสมหรือเปล่า?”
อิโตะนานาโกะยิ้มและพูดอย่างจริงจัง:”เย่เฉินซ้ง เรื่องเล็กแค่นี้ สำหรับตระกูลอิโตะ ไม่มีคำว่าไม่เหมาะสม ถ้าคุณต้องการละก็ คุณก็ให้
นานาโกะจัดการเรื่องนี้ทั้งหมด นานาโกะจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง!”
เย่เฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็พยักหน้าและรับปาก เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า:” งั้นคงต้องรบกวนนานาโกะจัดการเรื่องนี้แล้ว จุดประสงค์
ของฉันมีข้อเดียวคือ ทำให้เขาตกตะลึง”
อิโตะนานาโกะพูดด้วยรอยยิ้ม:”เย่เฉินซังโปรดวางใจ ฉันจะสั่งสอนประสบการณ์ครั้งนี้ให้เขาเอง!”
ณ โรงแรมบุรี
ซ่งหรงวี่ให้เลขาคนสวยของตัวเอง ติดปลาสเตอร์หลายชิ้นมือของตัวเอง
ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงเป็นเลขาของเขา ยังเป็นคนรักของเขาและเป็นลูกน้องคนสนิทด้วย
หลังจากที่เธอทำแผลให้ซ่งหรงวี่จนเสร็จ พูดด้วยความปดใจ:”ประธานซ่ง คุณอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามอย่างนี้อีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณก็
ต้องดูแลร่างกายของตัวเองด้วย!”
ซ่งหรงวี่พูดด้วยสีหน้าโศกเศร้า”คุณไม่เข้าใจ ฉันไม่ได้ทำอะไรบ่มบ่าม แต่เย่เฉินคนนั้นเป็นคนที่ต่อกรด้วยยากจริงๆ เขามาที่โตเกียว
สำหรับฉันมันเป็นปัญหาใหญ่มากๆ!”
เลขารีบพูดท้นที:”ประธานซ่ง จะจัดการคนแบบนี้ อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องยากเลย? ให้ฮาชิโมโตะชินคิจิหานักฆ่าหลายๆคน หาโอกาส
ลอบสังหารเขาให้ตายไปเลย”
ซ่งหรงวี่โบกมือและถอนหายใจ:”เห้อ คุณไม่เข้าใจ คุณไม่รู้ความสามารถของเย่เฉิน คนๆนี้มีความสามารถจริงๆ คนทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้
ของเขา”
“นอกจากนี้ ถ้าพวกเราบุ่มบ่ามและไปหาเรื่องเขา อาจจะเผยพิรุธของตัวเองออกมา ถ้าเป็นอย่างนั้นมันได้ไม่คุ้มเสีย”
เลขาถามอีกครั้ง:”ประธานซ่ง ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี? หรือว่าพวกเราต้องทำตามที่คุณท่านบอกจริงๆ ทำตามคำสั่งทุกอย่างของ
เขาเหรอ?”
ซ่งหรงวี่พยักหน้าและพูดอย่างเย็นชา:”ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ พวกเราไม่มีทางเลือก คงต้องสแสร้งร่วมมือกับเขา จากนั้นก็หวังว่าเขา
จะไม่พบพิรุธอะไรจากฉัน”
ขณะพูด เขาก็ถอนหายใจ และพูดอย่างไม่มั่นใจว่า:”ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถสงบสติอารมณ์และไม่เผยพิรุธต่อหน้าเขาได้หรือ
เปล่า คนๆนี้ฉลาดมากๆ ถ้าฉันประมาท เขาอาจจะมองออกก็ได้”
เลขารีบพูดทันที:”ประธานซ่ง คุณเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอ ฉันเชื่อว่าคุณจะไม่เผยพิรุธอะไรออกมาอย่าง
แน่นอน”
ซ่งหรงรี่พยักหน้าเล็กน้อย:”ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น!”
ขณะพูด จู่ๆโทรศัพท์ของซ่งหรงวี่ก็ดังขึ้นทันที
ในสายโทรศัพท์มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น:”ไม่ทราบว่าใช่คุณซ่งหรงวี่หรือเปล่า?”
ซ่งหรงวี่รับปากและพูด:”ใช่ ฉันเอง”
ผู้หญิงคนนั้นพูด”สวัสดีค่ะ คุณซ่ง ฉันคือคนที่คุณเย่ส่งมาเพื่อรับคุณ ไม่ทราบว่าคุณพร้อมที่จะเดินทางหรือยัง?”
ซ่งหรงวี่พูด:”ฉันพร้อมแล้ว จะให้ฉันไปเจอคุณที่ไหนเหรอ?”
ผู้หญิงคนนั้นพูด:”คุณน่าจะเข้าพักที่โรงแรมบุรีใช่ไหม?”
ซ่งหรงวี่พูด”ใช่ ฉันพักอยู่ห้องชุดเพรสซิเดนสูทในโรงแรมบุรี”
ซ่งหรงวี่จงใจพูดห้องชุดเพรสซิเดนสูท เพื่อให้ตัวเองรู้สึกอยู่เหนือกว่าอีกฝ่าย
เขารู้ว่าเย่เฉินเป็นคนมีความสามารถไม่มากก็น้อย แต่ขารู้สึกว่าความสามารถของเย่ฉินอาจจะใช้ได้แค่ในเมืองจินหลิง ถ้าออกจากเมือง
จินหลิง มาถึงญี่ปุ่น มันก็ต้องลดลงอย่างแน่นอน
ดังนั้น เขาไม่ได้มองเพื่อนของเย่เฉินอยู่ในสายตาอยู่แล้ว
ในมุมมองของเขา เย่เฉินก็เหมือนกับพวกร่างทรง เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จักผู้มีอำนาจในประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว
คาดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นแค่ชนชั้นกลางของโตเกียวเท่านั้น