ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 200 คนจนก็คือคนจน(2)
บทที่ 200 คนจนก็คือคนจน(2)
จางเจวียนก็ถูกทำร้ายจนผมเผ้ายุ่งเหยิง โดนตบจนปากเบี้ยว ส่วนเกาจวิ้นเว่ยก็ตัวอ่อนปวกเปียก เจ็บปวดอย่างที่สุด
หลังจากทำร้ายทั้งสองคนจนสาแก่ใจแล้ว หลี่โม่ก็สั่งให้คนลากพวกเขาออกไปจากศูนย์นิทรรศการ
เกาจวิ้นเว่ยนอนบนพื้นคอนกรีต ตะโกนด่าขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “เย่เฉินเป็นคนอะไรกันแน่”
จางเจวียนพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “เขาเป็นแค่เขยแต่งเข้าคนหนึ่ง ฉันว่ามากสุดเขาก็เป็นได้แค่คนขับรถ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นอาจารย์เย่”
เกาจวิ้นเว่ยถูกตบจนปากบวมมีเลือดไหล พูดขึ้นว่า “ไอ้คนจน ผมจะไม่ปล่อยคุณไว้อย่างแน่นอน”
พูดเสร็จ แล้วเขาก็กัดฟันพูดขึ้นด้วยท่าที่เยือกเย็นว่า “ยังมีเซียวชูหรัน ก็อย่าคิดที่จะหนีไปจากเงื้อมมือของผมได้”
ทางนี้ แอสตันมาร์ตินONE77ได้ถูกขับออกมาจากศูนย์นิทรรศการแล้ว
รถสปอร์ตสุดหรู เป็นที่สนใจของผู้คนมากมายบนท้องถนน
เป็นครั้งแรกที่นั่งอยู่บนรถแอสตันมาร์ตินONE77 เซียวชูหรันรู้สึกแปลกใหม่มาก
ยังไงก็เป็นซูเปอร์คาร์อันดับต้นๆของโลก คนหนุ่มสาวเกือบทั้งหมด ต่างก็หวังว่าจะได้มีโอกาสได้สัมผัสสักครั้ง
แต่ความแปลกใจที่เซียวชูหรันรู้สึก ก็แค่อยากได้ลิ้มลองเท่านั้น
เย่เฉินยังไม่ทันได้ขับออกไปไกล เซียวชูหรันก็พูดกับเขาว่า “เราขับรถกลับไปกันเถอะ อย่าต้องทำให้รถหรูของคนอื่นเกิดปัญหาเลย”
เย่เฉินพูดขึ้นว่า “จะต้องกลัวอะไร ประธานฉินคนนี้เป็นคนคุยง่าย”
“อย่างนั้นก็ไม่เหมาะสม” เซียวชูหรันพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ยังไงก็ได้ลองแล้ว เราเอารถไปคืนเขา แล้วก็กลับบ้านเถอะ”
เย่เฉินเห็นเธอมุ่งมั่น จึงพยักหัวตอบตกลง
ไม่นาน เขาก็ขับรถกลับมาในงานนิทรรศการ แล้วก็จอดอยู่บนเวที
เพิ่งลงจากรถ หลี่โม่ก็รีบเข้ามาถามอย่างให้ความเคารพว่า “อาจารย์เย่ รู้สึกอย่างไรบ้าง? พอใจไหม?”
เย่เฉินพยักหัว แล้วกระซิบพูดว่า “สองคันนี้คุณช่วยหาที่เก็บดีๆเก็บไว้ให้ผมก่อน รออีกหลายวันเมื่อผมอยากได้แล้วผมค่อยไปรับกับคุณ”
หลี่โม่ไม่กล้าถามมาก รีบพยักหัวพูดว่า “อาจารย์เย่วางใจ ผมจะช่วยดูแลรักษาไว้ให้ท่านอย่างดี”
เย่เฉินยิ้มพูดขึ้นอย่างพอใจว่า “งั้นผมกลับบ้านกับภรรยาผมก่อน”
“ให้ผมไปส่งอาจารย์เย่ไหมครับ”
“ไม่เป็นไร”
……
ระหว่างทางกลับบ้าน เซียวชูหรันถอนหายใจพูดขึ้นว่า “เดิมยังอยากที่จะคุณรับงานออกแบบต่อเติมศูนย์นิทรรศการ แล้วก็เรียนเชิญพวกเขาไปร่วมงานเปิดกิจการในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ก็แห้วเสียแล้ว”
เย่เฉินถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ที่รัก สตูดิโอของคุณพร้อมที่จะประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วหรือ?”
“ใช่ค่ะ” เซียวชูหรันพูดขึ้นว่า “เตรียมตัวมาตั้งนานหลายวันขนาดนี้ อีกนิดเดียวก็พร้อมที่จะเปิดอย่างเป็นทางการได้แล้ว”
พูดถึงตรงนี้ เซียวชูหรันก็พูดขึ้นอย่างค่อนข้างโศกเศร้าเล็กน้อยว่า “เสียดาย ฉันไม่สามารถเชิญคนที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานของเราได้ ฉันแค่เชิญเพื่อนสมัยเรียนเพียงไม่กี่คน ถึงตอนนั้นคุณกับพ่อแม่ก็มาด้วย”
เย่เฉินพยักหัว ในใจกลับคิดว่า ไม่สามารถเชิญคนที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานได้? ผมช่วยคุณหาไง
หวังเฟยเสว่ตี้เหากรุ๊ป ซ่งหวั่นถิงคุณหนูใหญ่ตระกูลซ่ง ฉินกางผู้นำตระกูลฉิน หวังเจิ้งกางผู้นำตระกูลหวัง ท่านหงห้าผู้มีอิทธิพลในวงการใต้ดิน ยังมีเจินเป่าเก๋อเจ้าของร้านเป่าฟู่กุ้ย….
คนที่มีชื่อเสียงมีอิทธิพลมากมายในจินหลิงที่ตนรู้จัก และพวกเขาต่างก็เรียกตนว่าอาจารย์เย่ ถึงตอนนั้นขอเพียงแค่ตนมีคำสั่ง ก็สามารถเรียกให้พวกเขามาร่วมงานเปิดกิจการสตูดิโอของภรรยาได้ เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจการของภรรยา ถึงตอนนั้นกิจการสตูดิโอของภรรยาจะต้องมีชื่อเสียงที่สุดจินหลิง
คิดได้ถึงตรงนี้ เขาก็รีบเรียบเรียงข้อความหนึ่ง แล้วก็ส่งไปให้กับพวกเขาเหล่านั้นว่า
“กิจการการสตูดิโอของภรรยาผมจะเปิดกิจการในพรุ่งนี้ช่วงเช้า ขอจัดสรรเวลาว่างมาร่วมงานด้วย ที่อยู่คือ…”