ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2011
บทที่ 2011
คุณท่านซ่งรู้สึกทอดถอนหายใจอย่างกะทันห้น ทำให้ซ่งเทียนหมิงค่อนข้างร้อนตัวไม่มากก็น้อย
แต่ทว่า เขาสังกตดูคุณท่านซ่งอย่างละเอียด พบว่าคุณท่านไม่ได้มีตรงไหนที่ไม่ซอบมาพากล ดังนั้นก็วางใจ
เขารู้สึกว่า ปกติตัวเองแทบจะไม่มีเจตนาที่จะอกตัญญคุณท่านมาก่น ต่อให้เขาจะสละตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ซ่งหวั่นถิง ตัวเองก้ไม่ได้
แสดงท่าทีที่ต่อต้านอย่างรุนแรงมาก ดั่งนั้นคุณท่านน่าจะไม่มีทางที่จะสงสัยตัวเอง
ดังนั้น เขายิ้มล็กน้อย และพูดด้วยใบหน้าที่ต็มไปด้วยความกตัญญูว่า: “ฟอ อดื่มมากๆหน่อยตอนที่ยังร้อนอยู่ ตอนเย็นผมจะให้ตุ๋นพระ
กระโดดกำแพงให้พ่อหนึ่งชาม บำรุงร่างกายดีๆ”
คุณท่านซ่งพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร แต่ทานรังนกในชามหมดในคราวเดียว
เมื่อเห็นคุณท่านทานรังนกในชามจนหมด ในใจของซ่งเทียนหมิงก็โล่งใจไปอย่างสมบูรณ์ สยะยิ้มในใจว่า: “ซ่งหวั่นถึงเป็นหรือตายก็
ไม่รู้ ไอ้แก่กลายเป็นโรคอัลไซมอร์ ตระกูลซ่งก็จะไม่มีใครที่เป็นศัตรูกับตัวเองได้อิก! ไอ้แก่ ตั้งแต่สมัยโบราณล้วนเป็นลูกชายคนโตที่รับ
สืบทอดบัลลังก์ แกจะเล่นไม่นี้กับฉัน งั้นก็อย่าโทษว่าฉันโหดเหี้ยมอำมหิต!”
ต่อจากนั้น เขาพูดกับคุณท่านด้วยยิ้มว่า: “พ่อ พ่อพักผ่อนเยอะๆอีกสักพัก ผมจะออกไปโทรหาซ่งหรงรี่ ถามเขาว่าตอนนี้ความคืบหน้า
เป็นยังไง”
คุณท่านพยักหน้าเบาๆ: “ไปเถอะ”
ซ่งเทียนหมิงก้าวออกจากห้องของคุณท่าน ไม่ได้โทรหาซ่งหรงวี่จริงๆในทันที แต่หาคนสนิทของตัวเองในทันที
เรียกมาถึงในห้องของตัวเอง และพูดอย่างจริงจังว่า: “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของคุณท่าน คุณท่านทำอะไรพูดอะไร
ก็ต้องบอกกับฉันอย่างละเอียดทุกอย่าง เข้าใจมั้ย?”
อีกฝ่ายพยักหน้า: “เข้าใจแล้วครับคุณชาย”
ในขณะนั้น คุณท่านช่งที่นอนอยู่บนเตียง จู่ๆก็รู้สึกปวดห้วขึ้นมาอย่างฉับพลัน เจ็บจนราวกับทั้งหัวสมองถูกคนถอดออกไปทั้งเป็นใน
ทันที
แต่ทว่าในไม่ช้ พลั่งงนอันอบอุ่นในร่างกายได้ขับความเจ็บปวดออกจากร่างกายของตัวเองอย่างสมบูรณ์
ในใจเขารู้ดีว่า ปวดหัว ต้องมาจากสารพิษต่อระบบประสาทที่ซ่งเทียนหมิงให้ตัวเองทานไปอย่างแน่นอน
และพลังงานอันอบอุ่นนั้น ก็คือยาอายุวัฒนะจำนวนเกน้อยที่ตัวเองทานไป
ในใจของคุณท่านอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ: “ดูเหมือนว่า ยาอายุวัฒนะเหมือนอย่างที่อาจารย์ย่มอกจริงๆ! สามารถที่จะต้านทาน
พิษได้หลากหลาย! ในเมื่อรอดพันจากการ ารรุกรานของสารพิษต่อระบบประสาท ถ้อย่างนั้นสิ่งต้องทำต่อไป ก็คือแกล้งโง่เขลาเบาปัญญายี่สิบสี่
ชั่วโมง ต้องมั่นใจว่าไม่มีใครมองข้อบกพร่องใดออก ก่อนที่อาจารย์เยจะกลับมา”
ดังนั้น เขาจึงฉวยโอกาสเวลาที่เป็นอิสระสุดท้ายเลิกน้อยนี้ หยิบโทรศัพท์ออกมาคันหาอาการเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์
เขาพบว่า โรคอัลไซเมอร์ หรือที่เรียกว่าภาวะสมองเสื่อม จะทำให้คนเกิดความจำเสื่อม ในเวลาเดียวกันยังสูญเสียความสามารถในการรับ
รู้สูญเสียความสามารถทางกาษาและความสามารถในการมองเห็น
โรคอัลไซมอร์ขั้นรุนแรง ไม่เพียงแต่จะทำให้สูญเสียความทรงจำอย่างรุนแรงเท่นั้น ยังมีอาการต่างๆตามมาด้วยเช่นปีสสาวะอุจจาระก็
กลั้นไว้ไม่อยู่เกร็งตัวและแววตาว่างเปล่า
อ่านถึงตรงนี้ คุณท่านซ่งก็แอบคิดในใจว่า: “ดูเหมือนว่า ฉันอยากให้ไอ้อกตัญญูคนนั้นเชื่ออย่างสมบูรณ์ว่ฉันกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์
แล้ว ก็ต้องแสตงอาการโรคอัลไซเมอร์ขึ้นรุนแรง มีเพียงแบบนี้ ถึงสามารถที่จะทำให้เขาวางใจอย่างสมบูรณ์…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ซ่งเทียนหมิงให้ความสใจกับเวลาอยู่ตลอด ตอนนี้ระยะเวลาห่างจากที่คุณห่านทานยา ผ่านไปหนึ่งชั่โมงครึ่ง ว่ากันตามเหตุผล ผล
ของยาน่าจะออกฤทธิ์แล้ว
ดังนั้น เขาตั้งใจจะไปดูสถานการณ์ที่ห้องของคุณท่าน
เมื่อเขามาถึงหน้าประตูคุณท่านกดกริ่งที่ประตู ในห้องก็ไม่มีเสียงตอบรับใด
เขาดีใจมาก สีหน้าทาทางกลับไม่ได้แสดงอาการออกมาแล้วกักดอีกครั้ง
ครั้งนี้ยังคงไม่มีเสียงตอบรับใด
ดังนั้นเขาแกล้งทำเป็นตื่นตระหนกและพูดว่า: “เด็กๆ! มาเร็วเข้า!”