ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2020
บทที่ 2020
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็เอาหนี้บุญคุณนี้ของเขาทั้งสองไว้บนตัของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยก็พอแล้ว
และในมื่ออยู่บตัวของตัวเอง ถ้อย่างนั้นก็อย่าได้ติดค้างไปตลอด เพื่อหลีกเสี่ยงกับความซักช้า ก่อนหน้าที่จะเดินทางก็คืนให้รู้แล้วรู้
รอดไป!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่เฉิเอ่ยปากพูดกับซ่งหวั่นถึงและอิโตะ นานโกะว่า: “หวั่นถึงกับนานาโกะ รบกวนพวกคุณออกไปก่อน พวกเราผู้ชายมี
เรื่องส่วนตัวที่จะคุยกันหน่อย”
อิโตะ นานาโกะลุกขึ้นโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย และพุดด้วยรอยยิ้มว่า: “พี่หวั่นถึง พี่ชอบสุนัขมั้ย?”
ซ่งหวั่นถึงพยักหน้า: “ชอบสิ!”
อิโตะ นานาโกะพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ในบ้านของฉันเลี้ยงสุนัขอะคิตะพันธุ์แท้อยู่หลายตัว ยังมีลูกๆอีกหกตัวที่จะครบสองเดือน น่ารักมาก
ก็เลี้ยงอยู่ในสนามทางทิศตะวันออก ฉันพาพี่ไปดูมั้ย?”
ซ่งหวั่นถึงพูดอย่างตื่นเต้น: “ตีจังเลย พวกเราไปกันตอนนี้เถอะ!”
“โอเค!”
เมื่อเห็นอิโตะ นานโกะกับซ่งหวั่นถึงจับมือกับออกไปแล้ว เฉินถึงด้ละสายตา มองไปทางวาตานาเบะ ซินอิจิ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:
“คุณวาตานาเบะ หวั่นถึงเป็นเพื่อนที่ดีของผม คุณสามารถตกลงในการร่วมลงทุนให้เธอถือหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์ซ็นต์ได้ สั่งนี้ผมขอบคุณเป็นอย่าง
มาก”
วาตานาเบะ ซินอิจิก็พูดซ้ำเหมือนเดิม และรีบพูดว่า: “โธ่เอ๊ย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเห็นแก่หน้าพี่อิโตะ…
เย่เฉินโบกมือขัดจังหวะเขา และพูดอย่างจริงจังว่: “คุณวาตานาเบะ อย่าได้เห็นแก่หน้าคุณอิโตะ ผมอยากให้คุณเห็นแก่ร่างกายของตัว
คุณเอง การหลีกทางให้ของการร่วมลงทุนนี้ ทำให้ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย คุณคิดว่าไง?”
ใบหน้าของวาตานาเบะ ซินอิจิเต็มไปด้วยความประหลาดใจ:
“อะไรเรียกว่าเห็นแก่ร่างกายของตัวผมเองเหรอ?”
“อะไรเรียกว่าทำการหลีกทางใหญ่ขึ้นอีกหน่อย?”
ภายใต้ความสงสัย เขาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า: “คุณเย่ คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”
เย่เฉินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ และถามด้วยใบหน้าที่ลึกซึ้งจนไม่อาจคาดเดาได้ว่า: “ถ้าหากผมมองไม่ผิดไป ตอนนี้คุณวาตานาเบะน่าจะเป็น
ทุกข์กับร่างกายเป็นอย่างมากใช่มั้ย?”
วาตานาเบะ ซินอิจิรีบพูดว่า: “ไม่มีนะ ร่างกายของผมแข็งแรงมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสบ่อยๆ ชายวัยกลางทั่วไป
แต่ก็ไม่ค่อยใส่ใจในการออกกำลังกายอย่างผม”
เย่เฉินพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “การออกกำลังกายก็ย่อมสามารถสริมสร้างร่างกายแข็งแรงได้เป็นธรรมดา แต่ว่าทุกคนก็เป็น
ผู้ชาย ตอนนี้ไม่มีผู้หญิงอยู่ในนี้ต้วย มีอะไรผมก็จะไม่ปิดบังแล้ว ชีวิตคู่ของคุณวาตานาเบะสองปีนี้น่าจะไม่เข้ากันมากใช่มั้ย?”
เมื่อคำพูดนี้พูดออกมา สีหน้าทาทางของวาตานาเบะ ซินอิจิก็ตกใจมาก แต่ก็ปรากฏด้วยความกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก ในใจก็ไม่
พอใจ: “นี่เป็นความเจ็บปวยที่ซ่อนเร้นที่ยากที่สุดในส่วนลึกของใจของฉัน นอกจากฉันและภรรยา และหมอที่ฉันเคยไปหา ไม่มีใครรู้เรื่อง เย่เฉิน
คนนี้รู้ได้อย่างไร?!”
นางาฮิโกะ อิโตะที่อยู่ข้างๆก็ค่อนข้างตกใจ และถามอย่างไม่รู้ตัวว่า: “ชินอิจิ อายุนายก็ไม่ได้มาก ทางด้านนั้นมีปัญหาเร็วขนาดนี้เลยเห
รอ?”
วาตานาเบะ ซินอิจิอายจนใบหน้าแดงก่ำ จับผมของเขาด้วยความตื่นตระหนก และพูดด้วยรอยยิ้ม: “นี่……โช…คุณเยไม่ธรรมดาจริงๆ
ด้วย ขนาดเรื่องแบบนี้ก็สามารถมองออก?”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย: “ในคำกล่าวของแพทย์แผนจีนโบราณใกล้จะสูญหาย คนมีปราณสามประเภท ได้แก่ปราณโลหิตกับปราณต้นทุน
แต่กำเนิดและปราณแก่นแท้”
“ปราณลหิตดูแลภายนอกและปราณตันทุนแต่กำเนิดดูแลภายใน สำหรับปราณแก่นแท้ ก็จะปรากฏให้เห็นในเรื่องระหว่างขายหญิง
มากกว่า”
“ถ้าปราณโลหิตแข้งแกร่งก็จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง หากปราณตันทุนแต่กำเนิดแข้งแกร่งก็จะทำให้อายุยืนยาว แต่ว่าทั้งสองปราณนี้
ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปราณแก่นแท้มากนัก”
“อย่ามองว่าปราณลหิตปราณต้นทุแต่กำเนิดของของคุณแข็งแกร่งมาก แต่ปราณแก่นแท้อย่างเดียวที่ซึมเซา”
“ถ้าขาดปราณแก่นแท้ ต่อให้ร่างกายของคุณจะแข็งแกร่งมาก แต่มื่อทำในเรื่องระหว่างชายหญิง กลับยังคงห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง”
ในเวลานี้วาตานาเบะ ชินอิจิแทบไม่สนใจความอับอายแส้ว อ้าปากถามว่า: “คุณเย ในเมื่อคุณพสังวิเศษเช่นนี้สามารถมองอาการภายใน
ร่างกายของผมออกแต่แวบแรก งั้นไม่ทราบว่าคุณมีวิธีรักษาผมให้หายมั้ย?!”