ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2033
บทที่ 2033
เรือที่เย่เฉินโดยสาร หลั่งจากที่ออกจากท่าเรือ ก็กำลังมุ่งหน้าไปทางน่านน้ำข้ามพรมแดน
เพราะว่าฮาชิโมโตะ ชิคิจิถูกขังอยู่ในห้องโดยสารที่ชั้นล่าง ดังนั้นเย่เฉินก็ตัดสินใจพาซ่งหวั่นถึงลงไปจัดการหมอนั่น
กะลาสีบนเรือพาทั้งสองคนไปที่ห้องโดยสารด้านล่าง และเปิดประตูหนึ่งในนั้นหนึ่งบาน
ในห้อง ชายคนหนึ่งใส่ชุดสูทขนสัตว์คุณภาพสูง แขนขาก็ถูกยึดติดกับเก้าอี้อย่างแน่นหนา มือทั้งสองถูกมัดไว้กับที่วางแขนของเก้าอี้ ขา
ทั้งสองและแขนทั้งสองถูกมัดติดกับขาหน้าของเก้าอี้ บนศีรษะยังคลุมถุงสีดำ และคลุมทั้งหัวไว้ด้านใน
เย่เฉินสันนิษฐานว่า คนคนนี้ น่าจะเป็นฮาชิโมโตะ ชินคิจิ
คนของนางฮิโกะ อิโตะ เพื่อคำนึงถึงความรอบคอบ ตั้งใจใช้ท่อเหล็กกลม ใส่ทุกนิ้วของฮาชิโมโตะ ชินคิจิเข้าไปอย่างแน่นหนา ต่อจาก
นั้นก็ยึดเข้ากับที่วางแขนเข้าด้วยกัน
แบบนี้ ฮาชิโมโตะ ชินคิจิไม่สามารถม้แต่จะงอนิ้วได้ นับประสาะไรกับความเป็นไปได้ที่จะหลบหนีไปได้
นอกเหนือจากนี้ ยังมีชายคนหนึ่งถือปืนช็อตฟฟ้ายืนอยู่ข้างๆ จ้องมองมาที่เขาอย่างไม่กะพริบตา งานรักษาความปลอดภัยเรียกได้ว่า
ถึงที่เป็นอย่างมาก
เมื่อชายที่ถือปืนช็อตไฟฟ้าเห็นเย่เฉินเข้ามา พูดย่างเคารพในทันทีว่า: “คุณเย่ คุณมาแล้ว!”
เย่เฉินพยักหน้า และเอ่ยปากถามว่า: “นี่คือฮาชิโมโตะ ชินคิจิเหรอ?”
“ใช่!”คนคนนั้นถอดผ้าคลุมบนหัวของฮาชิโมโตะ ชินคิจิลงมา และพูดว่า: “คุณเย่ ไอ้หมอนี่ก็คือฮาชิโมโตะ ชินคิจิ! พวกเราตรวจสอบ
ชัดเจนแล้ว!”
ในเวลานี้ฮาชิโมโตะ ชินคิจิยังไม่ได้ปรับตัวเข้ากับแสงที่แยงตา ในปากถูกยัดด้วยผ้าขนหนู ดังนั้นไม่สามารถพูดได้ทำได้เพียงครวญ
คราง ร่างกายก็ดิ้นรนไม่หยุดหย่อน
เมื่อเย่เฉินดิ้นรนอย่างสุดชีวิต โดยพื้นฐานแล้วคนทั้งตัวกลับไม่มีการเคลื่อนไหว และอดไม่ได้ที่พูดด้วยรอยยิ้มว่า : “พวกนายรอบคอบเกิน
ไปแล้ว มัดมือเท้าก็พอแล้ว ยังยึดติดนิ้วมือทั้งหมดให้แน่น ดูสิคุณฮาชิโมโตะกังวลแล้ว”
ชายคนนั้นพูดความคารพว่า: “คุณเย่คุณไม่รู้อะไรเลย คนร้ายในภาพยนตร์ละครโทรทัศน์ก็เพราะมักจะละเลยมือของพระเอก ดังนั้นไม่
ว่าจะมัดพระเอกไว้ยังไง พระเอกก็สามรถหาจุดบกพร่องหลบหนีได้ ดังนั้นพวกเราใส่นิ้ทั้งสิบของหมอนี่อยู่ในห่อเหลิกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
แบบนี้ต่อให้เขาเป็นเทพเซียนก็หนีไม่พัน!”
เย่เฉินหัวเราะฮ่าๆ ชี้ไปที่ฮาชิโมโตะ ชินคิจิ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “หน้าแบบนี้น่ะเหรอ คู่ควรที่จะเปรียบเทียบกับพระเอกในภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์ได้ที่ไหนกัน”
ในเวลานี้ ฮาชิโมโตะ ชินคิจิก็ค่อยๆฟื้นการมองเห็น
สิ่งแรกที่เขาเห็น ก็คือเย่เฉินที่กำลังชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
ในเวลานี้ ในใจของเขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก: “คนคนนี้เป็นใครกันแน่?! เขาให้คนลักพาตัวฉันเหรอ? ฉันเคยทำให้เขาขุ่นเคืองใจ
ด้วยเหรอ?”
ในเวลานี้ เย่เฉินยื่นมือออกมาดึงผ้าขนหนูออกจากปากของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “ฮาชิโมโตะ ชินคิจิใช่มั้ย? รู้มั้ยว่าทำไมฉัน
“ใช่!”คนคนนั้นถอดผ้าคลุมบนหัวของฮาชิโมโตะ ชินคิจิลงมา และพูดว่า: “คุณเย่ ไอ้หมอนี่ก็คือฮาชิโมโตะ ชินคิจิ! พวกเราตรวจสอบ
ชัดเจนแล้ว!”
ในเวลานี้ฮาชิโมโตะ ชินคิจิยังไม่ได้ปรับตัวเข้ากับแสงที่แยงตา ในปากถูกยัดด้วยผ้าขนหนู ดังนั้นไม่สามารถพูดได้ทำได้เพียงครวญ
คราง ร่างกายก็ดิ้นรนไม่หยุดหย่อน
เมื่อเย่เฉินดิ้นรนอย่างสุดชีวิต โดยพื้นฐานแล้วคนทั้งตัวกลับไม่มีการเคลื่อนไหว และอดไม่ได้ที่พูดด้วยรอยยิ้มว่า : “พวกนายรอบคอบเกิน
ไปแล้ว มัดมือเท้าก็พอแล้ว ยังยึดติดนิ้วมือทั้งหมดให้แน่น ดูสิคุณฮาชิโมโตะกังวลแล้ว”
ชายคนนั้นพูดความคารพว่า: “คุณเย่คุณไม่รู้อะไรเลย คนร้ายในภาพยนตร์ละครโทรทัศน์ก็เพราะมักจะละเลยมือของพระเอก ดังนั้นไม่
ว่าจะมัดพระเอกไว้ยังไง พระเอกก็สามรถหาจุดบกพร่องหลบหนีได้ ดังนั้นพวกเราใส่นิ้ทั้งสิบของหมอนี่อยู่ในห่อเหลิกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
แบบนี้ต่อให้เขาเป็นเทพเซียนก็หนีไม่พัน!”
เย่เฉินหัวเราะฮ่าๆ ชี้ไปที่ฮาชิโมโตะ ชินคิจิ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “หน้าแบบนี้น่ะเหรอ คู่ควรที่จะเปรียบเทียบกับพระเอกในภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์ได้ที่ไหนกัน”
ในเวลานี้ ฮาชิโมโตะ ชินคิจิก็ค่อยๆฟื้นการมองเห็น
สิ่งแรกที่เขาเห็น ก็คือเย่เฉินที่กำลังชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
ในเวลานี้ ในใจของเขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก: “คนคนนี้เป็นใครกันแน่?! เขาให้คนลักพาตัวฉันเหรอ? ฉันเคยทำให้เขาขุ่นเคืองใจ
ด้วยเหรอ?”
ในเวลานี้ เย่เฉินยื่นมือออกมาดึงผ้าขนหนูออกจากปากของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “ฮาชิโมโตะ ชินคิจิใช่มั้ย? รู้มั้ยว่าทำไมฉัน