ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2069
บทที่ 2069
การเดินทางผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน เรือที่เย่เฉินโดยสารมาก็เทียบท่าที่ท่เรือเมืองจงไห่อย่างราบรื่น
ตอนที่เทียบท่า เป็นเวลาก้าโมงเช้ เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง สองพ่อลูกอย่างซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงวี่ก็จะจัดประชุมบอร์ด
บริหาร
ซึ่งครึ่งชั่วโมงนี้ ตรงกับเวลาที่ต้องขึ้นเครื่องพอดี ดังนั้น เย่เฉินจึงไปงานประชุมบอร์ดบริหารของซ่งชื่อกรุ๊ปไม่ทัน
แต่ว่าถึงจะไม่ทันประชุม อย่างน้อยก็ยังไปทันช่วงงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นภายหลัง
ซ่งหวั่นถิง ซูรั่หลี แล้วก็ลูกเรือของตระกูลซู ต่างก็เดินตามเย่เฉินลงมาจากเรือ นอกจากนี้แล้ว ยังมีรองประธานบริษัทนิปปอนสตีอย่าง
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิที่ถูกจับมัดอีกด้วย
ในระหว่างที่เฮลิคอปเตอร์มุ่งหน้าไปที่เมืองจินหลิง ด้านซ่งเทียนหมิงก็เดินเข้าไปในห้องประชุมขนาดใหญ่ของซ่งซื่อกรุ๊ป
ณ ตอนนี้ ผู้ถือหุ้นกว่าสิบคนและคณะกรรมการรวมไปถึงซ่งหรงวี่ลูกชายของเขา ต่างก็มาถึงกันก่อนแล้ว ตอนนี้กำลังนั่งตัวตรงอยู่
ภายในห้อง
เมื่อซ่งเทียนหมิงเดินเข้ามา ทุกคนก็พากันลุกขึ้นต้อนรับ
ซ่งหรงวี่ชิงเอ่ยปากพูดก่อนใครเพื่อน “ท่านประธานสวัสดีครับ!”
คนอื่นๆนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ทยอยเออออตามกันไป เอ่ยพูดอย่างพร้อมเพรียงว่า”สวัสดีท่านประธาน!”
ซ่งเทียนหมิงดันกรอบแว่นขึ้น แล้วยิ้มออกมาอย่างถ่อมตัว โขกมือแล้วเอ่ยพูดว่า “ทุกคนทำงานร่วมกันมาหลายปี น่าจะรู้ว่าผมเป็นคน
เคร่งครัดมาก ตอนนี้คุณซ่งหวั่นถิงประธานบริษัทซ่งชื่อกรุ๊ปหายตัวไป ดังนั้นถ้าพูดกันตามเหตุผลผมก็แค่รักษาการท่านประธาน ถ้าหากว่าเมื่อ
ใดคุณซ่งหวั่นถึงกลับมาอย่างปลอดภัย ซ่งชื่อกรุ๊ปก็จะกลับไปอยู่ภายใต้การบริหารของเธอดั่งเดิม!”
ทุกคนยิ้มออกมา พร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย
ถึงยังไงในด้านกฎหมาย ตราบใดที่ซ่งหวั่นถิงยังไม่ตาย หรือเด้งออกจากส่วนใน เธอก็ยังถือว่าเป็นประธานบริษัทของซ่งซื่อกรุ๊ป
ส่วนซ่งเทียนหมิง เป็นแค่ร้กษาการท่านประธาน เมื่อใดที่เจ้าของตำแหน่งกลับมา เขาก็ต้องหลีกไปยืนข้างๆในทันที
ในตอนนี้เองซ่งเทียนหมิงก็เอ่ยพูดอย่างปลงๆออกมาว่า “ผมกดดันทางกรมตำรวจนครบาลโตเกียวติดต่อกันหลายครั้งแล้ว และประท้วง
เรื่องความปลอดภัยในประเทศของพวกเขา ทั้งยังกำชับให้พวกเขารีบตามหาร่องรอยของประธานซ่งให้เจอโดยเร็วที่สุด แต่ว่าพวกไร้
ประโยชน์นี่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย…..
พูดมาถึงตรงนี้ ซ่งเทียนหมิงก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดต่อว่า “ถึงแม้เราจะสามารถรอต่อไปได้ แต่ถ้ามองในแง่ของธุรกิจ ซ่งซื่อกรุ๊ป
จะขาดผู้บริหารแค่ไม่กี่วันก็ได้ แต่ไม่สามารถขาดผู้บริหารไปเป็นเดือนหรือเป็นปีได้!”
“ดังนั้น ที่ผมเรียกทุกคนมาประชุมในวันนี้ ก็เพราะว่าต้องการประกาศใช้แผนฉุกเฉิน โดยการปลดซ่งหวั่นถึงออกจากตำแหน่งผู้บริหาร
และแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่ที่คั่ดเลือกโดยคณะกรรมการ มาบริหารดูแลซ่งชื่อกรุ๊ปในระยะยาว!”
“มีแค่แบบนี้ ถึงจะสามารถทำให้ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของเราเชื่อมั่น ทุกคนคิดว่าอย่างนั้นไหม?”
ซ่งหรงวี่พยักหน้าเป็นคนแรก เอ่ยพูดด้วยใบหน้าพอใจว่า “ปัจจุบันประธานซ่งไร้ร่องรอย คนภายนอกต่างก็คาดการณ์ไปต่างๆนานา
หลายคนลือว่าประธานช่งเสียชีวิตแล้ว กระนั้นพวกเราก็ยังหาหลักฐานที่แน่ชัดมายืนยันว่าประธานช่งยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ไม่ได้ ดังนั้นความเชื่อ
มั่นที่ตลาดมีต่อซ่งซื่อกรุ๊ปก็จะลดลง ราคาหุ้นของเราก็จะร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ซ่งซื่อกรุ๊ปคงได้เสียหายอย่างหนักแน่”
ขณะที่พูด ซ่งหรงวี่ก็เพิ่มเสียงพูดขึ้นอีกระดับ เสียงก้องกั๋งวานดังขึ้นมาว่า “เพราะฉะนั้นผมขอสนับสนุนการตัดสินใจของรักษาการท่าน
ประธาน ให้มีการแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่โดยผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ!”
คนอื่นๆพลันสะดังขึ้นมาทันที หลายคนกระซิบกระซาบกันเสียงเขา
คนกลุ่มนี้ คือผู้ถือหุ้นของซ่งซื่อกรุ๊ป สิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุด ก็คืออนาคตของซ่งซื่อกรุ๊ป
พวกเขาชื่นชมในความสามารถของซ่งหวั่นถิงมาตลอด และเชื่อมั่นว่าซ่งหวั่นถึงจะสามารถพาซ่งซื่อกรุ๊ปขึ้นไปถึงอีกระดับได้
ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาทุกคนก็จะพลอยได้ผลประโยชน์ไปด้วย
ดังนั้น ถ้าไม่ใช่ว่าหมดทางเลือกจริงๆ พวกเขาก็ไม่อยากให้ปลดซ่งหวั่นถึงออก
แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันฉุกละหกมาก ไม่ใช่ว่าซ่งหวั่นถึงไม่มีความสามารถ แต่ตอนนี้แค่ไม่รู้ว่าเธออยู่หรือตายเท่านั้นเอง