ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2080
บทที่ 2080
ตอนนี้ ซ่งเทียนหมิงเองก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรือแก้ไขได้ สามารถถือได้ว่าประกาศข่าวต่อสู้
สาธารณะอย่างเป็นทางการในทันที
แต่ทว่า ในขณะนี้นี่เอง จู่ๆเย่เฉินก็เอ่ยปาก และถามอย่างเฉยเมยว่า: “คุณซ่ง ตอนนี้คุณซ่งหวั่นถิงเพียงแค่หายตัวไป ยังไม่ได้รับการ
ยืนยันข่าวการฆาตกรรมของเธอ ผมอยากจะขอถามคุณหน่อยว่า ถ้าหากคุณซ่งหวั่นถึง กลับมาอย่างปลอดภัยในวันหนึ่ง งั้นตำแหน่งของ
ประธาน ยังจะคืนให้เธอมั้ย?”
เดิมที่ซ่งเทียนหมิงคิดว่า วันนี้ก็จะได้รับอำนาจผ่านไปอย่างง่ายดายมากๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้สึกว่า ตัวเองกำราบคณะกรรมการทั้งหมดได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เหลือก็แค่ประกาศสาธารณชนเท่านั้นเอง
สถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครก่อกวนสร้างปัญหาได้อีก
แต่ว่าเขาฝันก็คาดไม่ถึงว่า เย่เฉินจะสร้างความลำบากใจให้ตัวเองอย่างกะทันหันในเวลานี้
แม้ว่าในใจของเขาจะโกรธมาก แต่ยังพูดอย่างสุภาพมีมารยาเป็นอย่างมากว่า: “ทุกท่านวางใจได้เลย ตอนที่คณะกรรมการของพวกเรา
ประชุมกันหารือกันในวันนี้ ก็ได้กำหนดหลักการพื้นฐานไว้แล้ว แม้ว่าตอนนี้ผมจะได้รับคะแนนเสียงจากคณะกรรมการ เข้ารับช่วงตำแหน่ง
ประธานซ่งชื่อกรุ๊ป แต่ผมก็จำต้องยอมรับด้วยว่า อันที่จริงแล้วคุณซ่งคือบุคคลที่ถูกเลือกเป็นประธานที่เหมาะสมกว่าผมมาก…
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซ่งเทียนหมิงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ดังว่า: “ดังนั้น ผมจะประกาศอย่างจริงจังกับทุกคนที่นี่ว่า: เกิดคุณซ่งหวั่นถิงกลับมา
อย่างปลอดภัย ผมจะคืนตำแหน่งประธานให้เธอเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน! ท้ายที่สุดแล้ว เธอถึงเป็นผู้บุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นประธาน
ของซ่งซื่อกรุ๊ป!”
ในเวลานี้ทุกคนทยอยปรบมือ ต่างก็รู้สึกว่า ซ่งเทียนหมิงสามารถพูดแบบนี้ได้ ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์วิสัยทัศน์บุคลิกลักษณะรวมทั้งจิตใจ
ของคนคนนี้ ก็คือมีความสามารถโดดเด่นเหนือใครเป็นอย่างมาก
ตอนที่ซ่งเทียนหมิงยอมรับการปรบมือของทุกคนอย่างได้ใจ เย่เฉินเอ่ยปากพูดว่า: “ในเมื่อคุณซ่งพูดอย่างนั้น งั้นก็คืนตำแหน่งประธาน
ให้กับคุณซ่งหวั่นถิงตรงๆเถอะ”
เมื่อซ่งเทียนหมิงเห็นท่ทางที่วางมาดของเย่เฉิน ในใจก็โกรธเป็นอย่างมาก และแอบด่าในใจ: “แมร่งเอ้ย วันนี้เย่เฉินกินอะไรผิดสำแดง
มาหรือเปล่า? ทำไมแมร่งต้องจงใจหาเรื่องฉันอยู่เรื่อย? ให้ฉันคืนตำแหน่งให้กับซ่งหวั่นถึงตอนนี้ ฉันก็คืนให้ได้ แต่ว่าตัวของซ่งหวั่นถึงอยู่ไหน?
แกเย่เฉินมีความสามารถมากนักไม่ใช่เหรอ? แกถูกขนานนามว่าเป็นมั่งกรแท้จริงในโลกไม่ใช่เหรอ? ถ้าแกมีความสามารถนี้ ทำไมไม่เห็นแกพา
ซ่งหวั่นถึงกลับมาอย่างชีวิตล่ะ?”
เมื่อซ่งหวั่นถิงคิดแบบนี้ ในใจก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่ว่าปากกลับยังพูดอย่างจริงจังว่า: “เมื่อกี้นี้ผมก็ได้บอกไว้แล้วว่า ผมคนเดียว
รู้ตัวว่าความสามารถสู้คุณหวั่นถิงไม่ได้ ดังนั้นก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถทำงานภายใต้บังคับบัญชาของคุณซ่งหวั่นถึง ถ้าหากคุณซ่งหวั่น
ถิงสามารถกลับในประเทศอย่างปลอดภัย ผมซ่งเทียนหมิงก็ย่อมจะสละตำแหน่งโดยตโนมัติ และกลับไปสู่ตำแหน่งรองประธานของซ่งซื่อกรุ๊ป
อีกครั้ง”
เย่เฉินยิ้มอย่างเฉยเมย: “ดี ในเมื่อตัวของคุณเองก็พูดแบบนี้แล้ว ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ห้ามไม่รักษาคำพูดอย่างเด็ดขาดนะ”
ซ่งเทียนหมิงด้วยความไม่พอใจที่ควบคุมไม่ได้ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “วางใจได้ ผมซ่งเทียนหมิงพูดคำไหนคำนั้นไม่เคยไม่รักษา
คำ!”
ทันทีที่เสียงหายไป ประตูสถานที่จัดงานแถลงข่าวก็ถูกชายชุดดำหลายคนผลักเปิดออกอย่างแรง
เห็นชายชุดคำหลายสิบคนแบ่งอกเป็นสองที่ซ้ายขาวและเรียงแถวเข้าสู่ในสถานที่ ทุกคนก็ค่อนข้างตกตะลึงจนตาค้าง
ซ่งเทียนหมิงตวาดเสียงดังลั่นว่า: “พวกแกเป็นใคร? มาที่นี่ทำไม? ฉันจะบอกพวกแกให้นะ ที่นี่เป็นสถานที่ภายในของซ่งซื่อกรุ๊ปของพวก
เรา พวกแกบุกรุกเข้ามาแบบนี้ คือต้องมีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมาย! เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล่ะ? รีบเข้ามา ไล่พวกเขาออกไปให้หมด!”
ในขณะนี้ หญิงสาวสวยงามสวมสูทสีดำขนาดเล็กและรองเท้าหนั่งส้นสูงสีดำก้าวเดินเข้ามา
ทันทีที่ผู้หญิงคนนี้เข้ามา ก็ทำให้ทุกที่อยู่ในงานราวกับถูกฟ้าผ่า และตกตะลึงนิ่งอึ้ง!
หลังจากที่เห็นเพียงแค่ผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามาในงานอย่างสง่างาม ดวงตาทั้งสองจับจ้องมองซ่งเทียนหมิง และถามเสียงดั่งว่า: “พวกเขา
เป็นคนของฉัน ใครมีสิทธิ์มาไล่พวกเขาออกไปเหรอ??!”
ซ่งเทียนหมิงรู้สึกฟ้าถล่มในทันที
เพราะว่า ผู้หญิงที่พูดอยู่นี้ ก็คือหลานสาวแท้ๆของเขา ซ่งหวั่นถึง!