ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 209 ถ้ายังพูดมากอีกจะฆ่าแกไปด้วย(1)
บทที่209 ถ้ายังพูดมากอีกจะฆ่าแกไปด้วย(1)
หัวใจของเซียวเวยเวยเศร้าและเจ็บปวดอย่างมากในเวลานี้
ความวาดฝันที่สวยงามที่ชีวิตที่เหลือของเธอ เคยมอบมันทั้งหมดไว้กับหวังเหวินเฟยคนเดียว
แต่คิดไม่ถึงว่า หวังเหวินเฟยผลักตัวเองลงเหวด้วยมือของเขาเอง!
สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้นคือ หวังเหวินเฟยไม่เพียงแต่เล่นสนุกกับตัวเอง ทอดทิ้งตัวเอง ตลอดจนเขาก็แสดงความรังเกียจต่อตัวเองอย่างมากต่อหน้าผู้คนมากมาย!
นี่เกือบทำให้เธอระเบิดออกมาแล้ว!
หวังเหวินเฟยเผชิญหน้ากับคำถามพร้อมกับการร้องไห้ของเธอ สีหน้าขรึมพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า:คุณอย่ามาทำตัววุ่นวายที่นี่นะ คบกันเลิกกันเป็นเรื่องปกติ ให้เกียรติหรือไม่ให้เกียรติอะไรกัน?”
เวลานี้เย่เฉินเห็นเซียวเวยเวยก่อกวน ก็ได้เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
หวังเหวินเฟยเห็นเย่เฉินปุ๊บ ตกใจจนหน้าซีด กลัวว่าเย่เฉินจะไม่พอใจกับเหตุการณ์นี้ รีบอธิบายว่า: “อาจารย์เย่ไม่ต้องแปลกใจ ผู้หญิงหน้าด้านคนนี้ ตอแยฉันมาเอะอะโวยวายที่นี่….”
เซียวเวยเวยคิดไม่ถึงเลย ในอดีตที่ผ่านมา หวังเหวินเฟยที่รักเธอมาก แต่วันนี้ ท่าทางที่มีต่อเธอกลับถูกทิ้งเหมือนรองเท้า
อีกทั้งยัง หวังเหวินเฟยเพื่อที่จะประจบเย่เฉินแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะด่าว่าตัวเองเป็นผู้หญิงหน้าด้าน!
ทำให้เธอรู้สึกเสียใจอย่างมาก!
ความอดทนทั้งหมดของเธอ ได้ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ตีโพยตีพายพูดมาว่า: “พวกคุณเหล่านี้ตามองอะไรผิดไปรึเปล่า? ! เขาเย่เฉินถือเป็นตัวอะไร? เป็นแค่ลูกเขยสวะเท่านั้นเอง!ทำไมพวกคุณแต่ละคนต่างพากันเลียแข้งเลียขาเขา?!ทำไม?!”
หวังเหวินเฟยตกใจมาก ตบลงไปที่ใบหน้าเธอ ด่าว่า: “ผู้หญิงหน้าด้านหุบปาก! คุณถือว่าตัวเองเป็นตัวอะไร คู่ควรที่จะวิจารณ์อาจารย์เย่งั้นเหรอ? เชื่อไหมว่าฉันจะตีแกให้ตาย!”
นายหญิงใหญ่เซียวเห็นหลานสาวสุดที่รักโดนดูถูก ในใจก็ไม่พอใจมาก เดินเข้ามาพูดอย่างเย็นชาว่า: “ประธานหวัง ปรามหลานชายคุณหน่อย!อย่ารังแกคนอื่นเกินไปหน่อยเลย!”
“รังแกคนอื่นเกินไป?!”หวังเจิ้งกางเหลือบมองไปที่เธอครู่หนึ่ง พูดอย่างเย็นชาว่า: “บอกกับคุณตามตรงนะ ถ้าวันนี้ไม่ใช่งานเปิดบริษัท เป็นวันมงคลไม่ควรเลือดตกยางออก เพียงแค่คำพูดของเธอเมื่อครู่นี้ ฉันก็สามารถหักขาเธอได้!”
พูดจบ หวังเจิ้งกางได้จ้องไปที่นายหญิงใหญ่เซียว พูดด้วยความเย็นชาว่า: “ยังมีอีก คุณถือว่าเป็นตัวอะไร? ให้ฉันปรามหลานชายของฉัน? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ตอนนั้นที่ตามใจเซียวไห่หลงแย่งคฤหาสน์ที่ฉันยกให้อาจารย์เย่ไป เป็นแกนางแม่มดเฒ่า!ฉันไม่ได้ไปหาเรื่องแก เป็นเพราะเห็นแก่หน้าอาจารย์เย่และคุณนายเย่ แกพูดมากอีกประโยคเดียว เชื่อไหมว่าแม้แต่แกฉันก็จะตีด้วย?”
นายหญิงใหญ่เซียวมีอาการหลังเย็น จู่ๆขาสองข้างก็เริ่มสั่น
ตัวเองเสพสุขให้อำนาจในตระกูลเซียวจนเคยชิน ออกมาข้างนอกยังทำท่าทางเป็นเจ้าบ้านอยู่ แต่ว่า………..
แต่ว่าตอนนี้….ตัวเองสูญเสียอำนาจแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้สูญเสียอำนาจ อยู่ต่อหน้าหวังเจิ้งกาง ก็ไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะไปชี้นิ้วสั่งเขา……
ถ้าหากว่าหวังเจิ้งกางจะพุ่งเข้ามาตีตัวเองจริงๆ ตัวเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้….
นายหญิงใหญ่เซียวกระวนกระวายใจมาก รีบพูดออกไปว่า: “ประธานหวัง…ฉันเป็นคนแก่ประมาทไปชั่วขณะ คุณได้โปรดอย่าถือสา…..”
หวังเจิ้งกางมองไปที่เธอด้วยความรังเกียจ พูดว่า: “รีบไสหัวไปอยู่ข้างๆโน่น!”
นายหญิงใหญ่เซียวรีบออกไปทันที
แต่ว่า เซียวเวยเวยถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า เวลานี้ได้ขาดสติไปแล้ว
ทันใดนั้นเธอได้กระโจนเข้าไปตรงหน้าหวังเหวินเฟย กอดหวังเหวินเฟยไว้ ร้องไห้อ้อนวอน: “พี่เหวินเฟย ทำไมคุณถึงได้เย็นชากับฉันขนาดนี้?! ฉันรักพี่มาตลอด ฉันรักพี่มากนะ! ร่างกายของฉัน หัวใจของฉัน ทุกอย่างของฉันเป็นของพี่นะ ทำไมพี่ถึงถอนหมั้นฉัน? ฉันขอร้อง ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งได้ไหม ให้พวกเราได้เริ่มต้นใหม่ดีไหม?”
หวังเหวินเฟยเห็นเธอจู่ๆก็กระโจนเข้ามากอดตัวเองแน่น รีบดิ้น แต่ก็ดิ้นไม่หลุด อดไม่ได้ที่จะโมโห