ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2096
บทที่ 2096
“ยังมีพวกสุนัขรับใช้ของเเฉินอย่างพวกแกด้วย! ไม่ปล่อยฉันออกไปใช่มั้ย? รอฉันออกไปแล้ว ฉันคิดบัญชีกับพวกแกทีละคน!”
“พวกแกคิดว่าฉันเย่ฉางหมิ่นอ่อนแอใช่มั้ย? รีบปล่อยฉันออกเดี๋ยวนี้!!!”
เย่จางหมิ่นยิ่งด่ายิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ และไออย่างต่อเนื่องขึ้นมาทีเดียว: “แค่กๆๆๆ…แค่กๆๆๆ…ไม่ปล่อยฉันออกไป เดี๋ยวฉันจะเอาพวก
แกทั้งหมดโยนลงในแม่น้ำแยงซีให้อาหารปลา! ฉันจะฆ่าพวกแกทั้งหมดที่ละคนฆ่าให้หมดให้พวกแกไม่มีวันได้เกิดใหม่อีก!”
มิน่าล่ะเย่ฉางหมิ่นควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เวลาเก้าวัน ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ประชากรระดับล่างสุดอาศัยอยู่ เธอก็แทบจะอกแตกตาย
อย่างสมบูรณ์แล้ว
ประกอบกับสถานที่นี้ของเมืองจินหลิงอยู่ตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำแยงซี ฤดูหนาวก็เปียกชื้น บ้านเช่าที่เธออาศัยอยู่ก็ไม่มีเครื่องปรับ
อากาศไม่มีเครื่องทำอากาศอุ่น ทุกวันทำได้เพียงเช็ดน้ำตาอยู่บนเตียงที่ห่อด้วยผ้าห่มเปียกชื้น
ตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้ามาอยู่ เธอก็ตั้งหน้าตั้งตารอหลังจากที่ครบกำหนดเจ็ดวันก็รีบหนีออกไป
แต่คาดไม่ถึงว่า ไม่ง่ายเลยที่จะทนอยู่ไปเจ็ดวัน หงห้ากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป
สิ่งนี้สำหรับเย่ฉางหมิ่น ไม่เพียงแค่โกรธ ยิ่งไปกว่านั้นยังหวาดกลัวเป็นอย่างมากด้วย
เธอหวาดกลัวว่าเย่เฉินจะกลับคำในทันทีที่หมดเขตเจ็ดวันจะเป็นโมฆะ ต่อจากนั้นก็ไม่ให้วันที่ที่ชัดเจนกับตัวเอง ก็กุมข้งตัวเองไว้ที่บ้าน
โดยตลอด
ดังนั้น เธอจึงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งทุกวัน ก็เพื่อดึงดูดความสนใจของเพื่อนบ้านรอบข้างดึงดูดความสนใจของ110 กดดันสุนัขรับใช้ของ
เย่เฉินรวมทั้งเเฉิน ให้พวกเขารีบปล่อยตัวเอง
แต่ทว่า เธอกลับไม่รู้ว่า เมื่อวานนี้หงห้าได้ย้ายเพื่อนบ้านรอบๆทั้งหมดไปแล้ว
อาคารที่สร้างขึ้นเองนี้ รวมทั้งเจ้าของบ้น มีทั้งหมดสามสิบครัวเรือน ตอนนี้นอกจากเย่ฉางหมิ่น คนอื่นๆก็กำลังเพลิดเพลินกับโรงแรม
ระดับห้าดาวฟรีของหงห้า
ดั่งนั้น การตะโกนโหวกเหวกโวยวายของเย่ฉางหมิ่น ไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ
จนถึงคอของเธอแทบจะแหบแห้ง ก็ไม่มีใครสนใจเธอ ขนาดเพื่อนบ้านหรือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาถามก็ไม่มี
เย่ฉางหมิ่นที่หดหู่อย่างยิ่ง หยิบโทรศัพท์ออกมา วิดี้โอคอลหาเยโจงฉวนคุณท่านใหญ่ของตระกูลเย่ พ่อที่อยู่ห่างไกลในเย่นจิง
ทันทีที่วิดีโอเชื่อมต่อ เย่ฉางหมิ่นก็ร้องห้พูดว่า: “พ่อค่ะ! พ่อรีบให้ไอ้สารเลวเย่เฉินปล่อยหนูนะ…หนูจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว…ไม่ปล่อยหนู
ออกไปอีก หนูก็จะตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย…ฮือๆๆ…
เย่โจงฉวนในภาพวิดีโอถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เขารู้จักนิสัยของเย่ฉางหมิ่นเป็นอย่างดี รู้ว่าเย่ฉางหมิ่นไม่มีทางทำเรื่องฆ่าตายทำร้ายตัวเองอย่างเด๊ดขาด ดังนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า:
“ฉางหมิ่น! แกอย่าได้วู่วามเลย! นี่เพิ่งผ่านมาสองวันเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ? ดทนหน่อย เฉินเอ่อคงจะไม่มีทางขังแกไปตลอด ไม่แน่สองวันนี้ก็
ปล่อยแกกลับมา”
เย่ฉางหมิ่นร้องห้พูดว่า: “พ่อ! พ่อไม่รู้ว่าเก้าวันนี้หนูผ่านมาได้ยังไง! หนูเติบโตมาขนาดนี้ เคยได้รับความทุกข์ทรมานแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อ
ไหร่กันพ่อ! ถ้หากพอไม่ไปหาไอ้สารเลวเย่เฉินนั้น เขาไม่ปล่อยตัหนูเดี่ยวนี้ พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่ปล่อย เกิดเขาจะขังหนูอยู่ที่นี่ไปตลอดจะทำยัง
ไง?”
จากนั้น เธอก็อ้อนวอนอย่างขมขื่นว่า: “พ่อค่ะ หนูขอร้องพ่อ พ่อก็โทรบอกเขาสักคำ ให้เขารีบปล่อยหนูกลับไปเถอะ!”
เย่โจงฉวนพูดอย่างจริงจัง: “ฉางหมิ่น ฉันไม่ง่ายเลยที่จะให้กู้เย้นจงพูดโน้มน้าวเฉินเอ๋อ ให้รับปากว่าจะกลับมาเข้าร่วมพิธีบูชาบรรพบุรุษ
ในเทศกาลเช็งเม้ง เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตระกูลเ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามมีอะไรผิดพลาด ถ้าหากเพราะเรื่องของแก ทำให้เฉินเอ๋อเปลี่ยนใจ
อีก นั่นสำหรับตระกูลเย่ เป็นการสูญเสียหนักอย่างแน่นอน!”
คราวนี้เย่ฉางหมิ่นนับว่าเข้าใจแล้ว
แต่เดิม คุณท่านไม่ยอมที่จะไปกดดันเย่เฉิน หลักๆคือไม่ยินยอมเพื่อตัวเองทำให้เย่เฉินขุ่นเคืองใจ!
เมื่อคิดว่าพ่อแท้ๆก็พึ่งพาไม่ได้ เย่ฉางหมิ่นเศร้าเจ็บปวดอย่าสุดขีด และร้องไห้พูดว่า: “พ่อ! ถ้าเกิดเย่เฉินไม่ปล่อยหนูไปตลอด งั้นหนูจะทำ
ยังไง?”
คุณท่านรีบพูดว่า: “โธ่เอ๊ยฉางหมิ่น ถ้าหากถึงเทศกาลเช็งเม้ง เฉินเอ๋อยังไม่ปล่อยแก ถึงเวลานั้นพ่อก็จะขอคำอธิบายจากเขาอย่าง
แน่นอน”
เย่ฉางหมิ่นแทบจะอกแตกตายในทันที: “พ่อ! เทศกาลเช็งม้งจะต้องถึงเดือนเมษายน นี่เกือบจะสองเดือน!”