ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2136
บทที่ 2136
เย่นจิง ตระกูลตู้
ตู่ให่ชิงยังไม่ถึงบ้น พ่อแม่รวมทั้งพี่น้องของเธอ ก็รู้เรื่องอื้อฉาวของตระกูลซู และก็เรื่องที่ซูโสว่เต้ามีลูกนอกสมรสอยู่ข้างนอกมานาน
แล้ว
ดังนั้น ตอนที่เธอยังไม่กลับมา พี่น้องคนอื่นของตระกูลตู้ภายใต้คำเรียกร้องของคุณท่านตู้ ทยอยรีบกลับมา
คุณท่านตู้กับนายหญิงใหญ่ตู้รู้จักอุปนิสัยของตู้ให่ชิงเป็นอย่างดี พวกเขารู้ว่า ตราบใดที่ตู่ให่ชิงรู้เรื่องนี้ จะต้องกลับมาที่บ้านแม่ในทันที
ดั่งนั้นพวกเขาไม่ได้โทรหาตู้ไห่ชิง และก็ไม่ให้คนอื่นโทรหาตู้ห่ชิ ทั้งครอบครัวรวมตัวอยู่ตั้งนานแล้ว ก็รอตู้ไห่ชิงกลับมา
ตอนที่ตู่ให่ชิงขับรถเข้ามาคฤหาสน์ตระกูลตู้ พ่อแม่ของเธอรวมทั้งพี่น้องหลายคน ก็ทยอยออกมาจากในคฤหาสน์
เมื่อตู้ห่ชิงเห็นคนทั้งครอบครัวปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ก็ชาบซึ้งใจมากจนไม่สามารถเพิ่มเติมได้อีกในทันที
สิ่งที่ไม่ค่อยเหมือนกับตระกูลธุรกิจอื่นก็คือ ตระกูลตู้มีตำแหน่งสูงมาหลายชั่วอายุคน ดังนั้นเงินสำหรับคนในตระกูลตู้ ไม่เคยเป็นสิ่งอะไร
ที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง
เพราะว่าไม่สนใจเรื่องเงิน ดังนั้นระหว่างพี่น้องของตระกูลตู้ และไม่ได้มีพูดจาอ่อนหวานแต่ไม่จริงใจ
ในทายาทของตระกูลตู้ มีคนในเครื่อสืบทอดความคิดความรู้ของคุณห่านตู้มีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงานที่ดี; บางคนทุ่มเทให้กับ
มหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือว่าอุทิศศึกษาค้นคว้ในสถาบันวิจัยอาชีพของตัวเอง; บางคนกลายเป็นนักปชญาที่ชาวโลกที่ไม่ค่อยได้ยินมา แม้ว่าจะ
มีมูลค่าทรัพย์สินหลายแสนล้าน แต่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนโอ้อวด
สำหรับตู้ห่ชิงและพี่สาวน้องสาวหลายคนของเธอ ก็ต่างคนต่างมีจุดหมายทางความรู้สึกของตัวเอง
ผู้หญิงของตระกูลตู้ภายใต้กรอบรมสั่งสอนของนายหญิงใหญ่ตู้ตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ค่อยมีความเป็นมืออาชีพในหน้าที่การงานอย่างแรงกล้า
ในตรงกันข้าม แต่ละคนเป็นมือดีที่จัดการกับครอบครัว บนตัวของทุกคน มีคุณธรรมอันดีงามตามแบบฉบับสตรีดั้งเดิมของชนชาติจีน
ทันทีที่ตู้ให่ชิงลงจากรถ นายหญิงใหญ่ตู้ก็ก้าวไปข้างหน้า จับมือของเธออย่างเป็นห่วงและพูดเบาๆว่า: “ไห่ชิง ทำให้เธอต้องลำบากใจ
แล้ว”
ตู้ให่ชิงยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า: “แม่ค่ะ แม่อย่าพูดแบบนี้ อันที่จริงหนูไม่ได้รู้สึกลำบากใจเลยสักนิด”
คุณท่านตู้ที่อยู่ข้างๆเอ่ยปากพูดว่า: “ไห่ชิง พวกเราทั้งครอบครัวไม่ได้รวมตัวกันมาระยะหนึ่งแล้ว พ่อจะให้คนก่อไฟ เดี๋ยวพวกเราทั้ง
ครอบครัวทานชาบูหม้อไฟแดงด้วยกัน!”
คนรุ่นก่อนๆของเย่นจิง หนึ่งในอาหารจานโปรดมากที่สุด ก็คือชาบูหม้อไฟแดง
แตกต่างกับใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเตาแก๊สของหม้อไฟที่อื่น ชาบูหอไฟแดงที่คนรุ่นเก่าของเย่นจิงทาน จะต้องใช้หม้อไฟที่มีปล่อง
เผาถ่านอยู่ตรงกลาง นี่เป็นวิธีการรับประทานอาหารที่ถ่ายทอดมาจากในวังปีนั้น
ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บของเย่นจิง การทานชาบูหม้อไฟแดง นั่นถือเป็นความเพลิดเพลินที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่งจริงๆ
ตระกูลตู้ห้าชั่วอายุคนเป็นพื้นที่เย่นจิงมาแต่โดยกำเนิด ก็ย่อมรักชาบูหม้อไฟทองแดงฝังลึกเป็นธรรมดา
เพียงแต่ว่าหลายปีนี้ ลูกๆต่างก็มีครอบครัวกัน สถานการณ์ของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน แม้ว่าทุกคนจะกลับมาเยี่ยมผู้สูงอายุบ่อยครั้ง แต่
ไม่ง่ายเลยจริงๆที่ทั้งหมดจะรวมตัวอยู่ด้วยกัน
ดังนั้น คุณท่านก็ติดใจในทันที ก็อยากจะทานอาหารอร่อยกันกับทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข ไม่อย่างนั้นถ้าหากทุกคนตั้งใจมาปลอบ
ใจตู้ให่ซิง ไม่แน่อาจจะมีผลตรงกันข้าม
ผลเป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อกลุ่มหญิงสาวได้ยินว่าจะทานชาบูหม้อไฟทองแดง แทบจะไม่สนใจว่าตอนนี้ใกล้จะดึกแล้ว แต่ละคนก็ตื่นเต้น
เกินคำบรรยาย
ตู้ให่เหมยน้องหกอายุน้อยที่สุดเป็นน้องสาวของตู้ให่ชิง เธอรีบก้าวไปข้างหน้าจับแขนของตู้ไห่ชิงด้วยความตื่นเต้นในทันที และยิ้มระรื่น
พูดว่า: “พี่รอง หลายวันนี้ฉันว่างพอดี อยากมาพักอยู่กับพ่อแม่ไม่กี่วัน หลายวันนี้พวกเราสองพี่น้องนอนด้วยกันมั้ย?”
ตู่ไห่ชิงยิ้มอย่างสวยงาม และพูดว่า: “คืนนี้ได้นะ พรุ่งนี้ไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้พี่อยากจะไปที่เมืองจินหลิง”
“อะไรนะ?!”ทุกคนมองไปทางตู้ห่ชิงด้วยความประหลาดใจมาก
คุณท่านตู้เจิ้นหัวเอ่ยปากถามว่า: “ไห่ชิง ลูกไปที่เมืองจินหลิง เพื่อฉางอิงเหรอ?”
ตู่ให่ชิงพยักหน้า และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า: “ใช่ค่ะพ่อ เมื่อก่อนอยากจะไปตลอด แต่ไม่อาจทำตามใจตัวเองได้ ตอนนี้ไม่มีข้อห้าม
มากขนาดนั้นแล้ว ดั่งนั้นก็อยากจะรีบไปสักหน่อย ก็ดีที่จะได้ทำตามใจปรารถนา”
สีหน้าท่าทางของตู้เจิ้นหัวเศร้าหงอยเล็กน้อย และพูดอย่างทอดถอนหายใจด้วยความจริงใจ: “ฉางอิง…ฉางอิง…ไม่ได้ฉางอิงเป็นลูกเขย
เป็นสิ่งที่ฉันเสียใจมากที่สุดในชีวิตนี้จริงๆ…