ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2137
บทที่ 2137
เสียงถอนหายใจของตู้เจิ้นหัว ทำให้สีหน้าท่าทางของทุกคนในที่นี้ ลายเป็นค่อนข้างเสียดายไม่มากก็น้อย
นายหญิงใหญ่ตู้รีบหยิกเอวของเขาหนึ่งที และพูดกระซิบต่อว่า: “คุณนี่นา ประเด็นไหนไม่ควรยกขึ้นพูดก็พูดประเด็นนั้นจริงๆ รีบพาลูกๆ
เข้าไป เตรียมตัวทานอาหารได้แล้ว!”
ตู้เจิ้นหัวถอนหายใจพูดว่า: “โธ่เอ๊ย ไห่ชิงก็โตขนาดนี้แล้ว เธอยอมรับหลายสิ่งหลายได้มากกว่าพวกเรา สิ่งที่ฉันพูดก็มาจากกันบึ้งของ
หัวใจ ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงเกินไป”
ตู้ให่ชิงที่อยู่ข้างๆก็พยักหน้า และพูดอย่างจริงจัง: “แม่ค่ะ เรื่องของครั้งนี้ หนูไม่โกรธเลยสักนิดจริงๆ และก็ไม่รู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นแม่
ไม่จำเป็นต้องอ่อนไหวเกินไป”
คุณนายใหญ่ตู้ดูประหลาดใจ: “ไห่ชิง โสว่เต้าปิดบังลูกมาเป็นเวลาหลายปี ลูกก็ไม่โกรธเลยสักนิดเหรอ?”
ตู่ให่ชิงพูดอย่างจริงว่า: “ไม่โกรธ แต่กลับรู้สึกโล่งใจแล้ว”
ตู้เจิ้นหัวพูดด้วยรอยยิ้ม: “เป็นเรื่องที่ดี! โล่งใจเป็นเรื่องที่ ดี! พูดความในใจ หลายปีมานี้ พ่อรู้สึกมาโดยตลอดว่าลูกไม่มีความสุข ตอนนี้ลูก
สามารถเดินออกมาได้ พ่อดีใจแทนลูก!”
ตู้ไห่ชิงพยักหน้าอย่างจริงจัง และพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า: “ขอบคุณค่ะพ่อ!”
ตู้เจิ้นหัวหัวเราะเสียงดัง และรีบกวักมือเรียกว่า: “ไปๆๆๆ กินชาบูกัน! ไห่เฟิง เดี๋ยวพวกลูกสามหนุ่มดื่มชากับพ่อสักหน่อย!”
ตู้ให่เฟิงในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลตู้พยักหน้าพูดโดยไม่ล้งเลแม้แต่น้อยว่า: “ได้ครับพ่อ! คืนนี้พวกเราสามหนุ่มจะดื่มกับพ่อดีๆ
หลายถ้วย!”
ตู้ให่ผิงพี่สาวของตู้ให่ชิงที่อยู่ข้างๆก็รีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “พ่อค่ะ ในบ้านยังมีไวน์แดงอยู่หรือเปล่า? พวกเราสามสาวก็จะดื่มกับพ่อสัก
หน่อย!”
ตู้ให่เหมยน้องหกพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ดีจังเลย พ่อค่ะ หนูกับพี่ใหญ่และพี่รองก็ดื่มกับพ่อสักหน่อย!”
ตู้เจิ้นหัวมีความสุขมากในทันที และพูดด้วยรอยยิ้มอย่างเบิกบานใจว่า: “เอาล่ะ! พวกลูกสามสาวไม่ได้กลับมาคืนก่อนตรุษจีน พวกเราก็
ถือซะว่าวันนี้เป็นวันตรุษจีน!”
ตู้ให่เหมยรีบพูดว่า : “พ่อค่ะ ตอนตรุษจีนพวกเราก็อยากจะมาอยู่กับพ่อ แต่ว่าพ่อพูดอะไรก็ไม่ยอม…
ตู้เจิ้นหัวพูดอย่างจริงจังว่า: “ลูกแต่งงานไปที่ตระกูลเสิ่น เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเน ตรุษจีนควรอยู่ฉลองกับพ่อแม่สามี พี่สาวสองของ
ลูกก็เหมือนกัน นี่ป็นกฎกณฑ์ พี่ชายทั้งสามของลูกก็มาอยู่ฉลองตรุษจีนกับพ่อและแม่ของลูก ถ้าพวกลูกสามพี่น้องก็มา งั้นคนอื่นเขาก็จะพูด
ได้ว่าตาแก่ตู้อย่างพ่อไม่รู้จักกาลเทศะ อะไรก็เอาแต่คิดถึงที่บ้านของตัวเอง”
ตู้ไห่เหมยรีบพูดว่า: “รู้แล้วค่ะพ่อ หนูคุยกับเสิ่นซื่อหลงเรียบร้อยแล้ว ปีหน้าก่อนคืนตรุษจีนจะกลับมาฉลองกับพ่อ”
ตู้เจิ้นหัวพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน ดูความหมายของเสี่ยวเสิ่น ถ้าเขาไม่ยินยอม ลูกก็อย่าได้ดึงดัน”
ต่อจากนั้น ลูกชายทั้งสามคนลูกสาวทั้งสามคนของตระกูลตู้ ก็เดินไปที่ห้องอาหารพร้อมกับผู้สูงอายุทั้งสองคน
ในห้องอาหารเวลานี้ พ่อครัวของที่บ้านวางหม้อทองเหลืองที่สวยงามไว้บนโต๊ะหนึ่ง ใบ ตรงกลางหม้อมีเปลวไฟของถ่านแดง ข้างนอกต้ม
ซุปใสอยู่หนึ่งหม้อ บนโต๊ะอาหารวางเต็มไปด้วยเนื้อแกะหลากหลายอย่างที่หั่นออกมา
คนเย่นจิงให้ความพิถีพิถันกับการทานเนื้อแกะเป็นอย่างมาก โดยพื้นฐานไม่ทานเนื้อแกะม้วนที่ตัดด้วยเครื่องต้ดในร้านอาหารหม้อไฟ แต่
จะทานเนื้อแกะสดที่ใช้มือหั่นล้วนๆ
เนื้อแกะหั่นด้วยมือมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ตามชิ้นส่วนต่างๆของเนื้อแกะที่แตกต่างกัน มีชื่อเรียกหลากหลาย ตัวอย่างเช่นเนื้อ
สมองส่วนบนเนื้อสันในเนื้อขาหน้าเนื้อขาหลังและเนื้อสันเอว
เนื้อที่แตกต่างกัน ยังมีวิธีการหั่นที่แตกต่างกัน ขนาดและความหนาแตกต่างกัน สำนวนการพูดมากมาย
ตระกูลตู่ไม่ค่อยอวดความมั่งคั่ง และก็ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตมเฟือยและสิ้นเปลืองของคนรวยที่ชอบโอ้อวด แต่ว่าทั้งครอบครัวเป็นคนที่
พิถีพิถันเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่พวกเขาพิถีพิถันไม่ใช่หรูหราฟุมเฟือยไม่ใช่ราคาแต่เป็นรสชาติกับแก่นแท้
ก็ยกตัวอย่างเรื่องการกินมาพูด ปากของคนในตระกูลตู้ แต่ละคนนั้นเรื่องมากกว่ากันมาก
แป้งทอดของร้านหน้าปากซอย ทั้งครอบครัวทานมาสิบปีก็ไม่เคยเบื่อ แต่กิดเปลี่ยนเป็นร้านอาหารที่มีฝีมือแย่กว่ากันเล็กน้อย แม้ว่า
ความแตกต่างจะเล็กน้อยก็ตาม พวกเขาก็รู้สึกว่ายากที่จะกลืนลงไป
คุณท่านตู้ตลอดชีวิตไม่ติดอะไรที่ไม่ดี ก็แค่ชอบสูบบุหรี่