ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2162
บทที่ 2162
เซียวเวยเวยถามด้วยความนอบน้อมว่า “พี่เฉิน ข้อตกลงรับประกันพิเศษหมายความว่าอย่างไร?”
เฉินเสี่ยวเฟยกล่าวอย่างเยอหยิ่งว่า “ข้อตกลงรับประกันพิเศษหมายความว่า ต่อจากนี้ไปคุณสามารถรับงานได้ของบริษัทโมเดลสิ่งของ
เราได้เท่านั้น คุณไม่สามารถไปรับงานของบริษัทโมเดลสิ่งอื่นได้ มิฉะนั้น บริษัทมีสิทธิ์เรียกร้องให้คุณชดเชย”
เซียวเวยเวย ถามต่อไปอีกว่า “มันเป็นข้อตกลงรับประกันพิศษไม่ใช่หรือ? นอกจากรับงานได้แต่งานของกับบริษัทเท่านั้นแล้ว และการ
รับประกันหมายความว่าอย่างไร?”
เฉินเสี่ยวเฟยอธิบายว่า “การรับประกันหมายความว่า คุณต้องรับประกันว่หนึ่งเดือนคุณจะออกงานอย่างน้อย 28 งานให้บริษัท ถ้าหาก
ด้วยเหตุผลส่วนตัวของคุณ จนทำให้จำนวนครั้งในเดือนไม่เป็นไปตามข้อกำหนด บริษัทจะให้คุณชดเชยหรือหักค่าแรงส่วนหนึ่ง”
เซียวเวยเวยถามว่า “บริษัทจะให้ประโยชน์อะไรกับฉันหลังจากการลงนามในขอตกลงนี้หรือไม่?”
“ผลประโยชน์?” เฉินเสี่ยวเฟยเบะปาก “ผลประโยชน์ก็คือ ตราบใดที่คุณปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริษัทและออกงานอย่างน้อย 28 งาน
ต่อเดือน บริษัทจะจ่ายเงินเดือนพื้นฐานให้แก่คุณห้าพันหยวน”
เมื่อเซียวเวยเวยได้ยินเรื่องนี้ เธอกล่าวด้วยความดีใจ “พี่เฉิน คุณหมายความว่า นอกจากเงินสองร้อยหยวนสำหรับแต่ละงาน บริษัทยั่งให้
เงินเดือนฟื้นฐานห้าพันหยวนอีกด้วยใช่ไหม?”
“ถูกต้อง” เฉินเสี่ยวเฟยพยักหน้าและกล่าวต่อไปว่า “นี่เป็นสัญญาที่บริษัทจัดทำขึ้นป็นพิเศษสำหรับพนักงาน ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่ไม่มี
โอกาสนี้”
หลังจากนั้น เธอยื่นสัญญาให้เซียวเวยเวย และกล่าวเร่งว่า “มา รีบเซ็แล้วก็ประบรอยนิ้วมือด้วย เสร็จแล้วฉันจะได้นำกลับไปที่บริษัท
และรายงานให้ประธานหลิวทราบ”
เชียวเวยเวยรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก หากมี 28 งานต่อเดือน ค่าแรงเพียงอย่างเดียวคือห้าพันหกร้อยหยวน แล้วบวกเงินเดือนพื้นฐานห้าพัน
หยวน รายได้ต่อเตือนมากกว่าหนึ่งหมื่นหยวนแล้ว!
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเงินเดือนหนึ่งหมื่นกว่หยวน ไม่เคยอยู่ในสายตาของเธอเลย แต่ตอนนี้เงินเดือนหมื่นกว่าหยวนนั้นมีความสำคัญต่อเธอ
มาก
ด้วยรายได้นี้ ทำให้ครอบครัวไม่ต้องอดยากอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ขอแค่ไม่ฟุ่มเฟือย นำเงินจำนวนนี้ไปใช้เป็นค่าครองชีพ จะทำให้
ครอบครัวกินดีอยู่ดีแน่นอน และร่างกายของพ่อและน้องชายก็จะฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้น
เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากและไม่คิดอะไรมากอีก เธออ่านดูสัญญาคร่าว ๆ และเห็นว่าระบุเงินเดือนพื้นฐานเดือนละห้าพันหยวนไว้จริง ๆ
เธอจึงเซ็นชื่อตนเอง จากนั้นก็ใช้หมึกที่เฉินเสี่ยวเฟยมอบให้ ประทับรอยนิ้วมือของตนเอง
หลังจากที่เฉินเยวฟยได้รับสัญญาแล้ว ยิ้มอย่างลำพองใจและกล่าวว่า ” เซียวเวยเวย ยินดีต้อนรับคุณเป็นศิลปินสัญญาพิเศษของ
บริษัทมารยาทซ่างเหม่ย ต่อไปคุณต้องตั้งใจทำงานน่ะ!
เซียวเวยเวยกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “พี่เฉิน วางใจเถอะ ฉันจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่!”
เฉินเสี่ยวเฟยกล่าวว่า “เอาล่ะ ฉันจะกลับบริษัทก่อน หลังจากถึงเวลาเลิกงานแล้ว พวกคุณก็ไปเซ็นชื่อกับห้วหน้าทีม แล้วก็สามารถกลับ
ไปได้”
เซียวเวยเวยรีบถาม “พี่เฉิน ตอนบ่ายคุณจะเข้ามาอีกไหม?”
เฉินเสี่ยวเฟยโบกมือและกล่าวว่า “ฉันจะไม่มาแล้ว วันนี้บริษัทรับงานไร้หลายที่ ตอนบ่ายฉันจะไปที่อื่น”
เซียวเวยเวยทำงานกับบริษัทนี้มาหลายวันแล้ว และรู้ว่าเฉินเสี่ยวเฟยเป็นคนรับผิดซอบจ่ายค่าแรงหลังจากจบงาน เธอจะจ่ายเงินสตให้
กับทุกคน ดังนั้นเมื่อได้ยินว่า ตอนบ่ายเธอจะไม่เข้ามาอิ้ก เขียวเวยเวยจึงริบถาม “พี่เฉิน ค่าแรงในวันนี้ไปรับที่ห้วหน้าทีมหลังเลิกงานใช่ไหมคะ?”
เฉินเสี่ยวเฟยแสดงสีหน้าประหลาดใจ “ค่าแรง? ค่าแรงอะไร?”
เซียวเวยเวยรีบกล่าวว่า “ก็ค่าแรงสำหรับวันนี้…..สองร้อยหยวน…..”
เฉินเสี่ยวเฟยมองเซียวเวยเวย และกล่าวอย่างดูถูกว่า “เซียวเวยเวย คุณยังไม่ตื่นอีกหรือ? คุณกำลังฝันอะไรอยู่ที่นี่?”
เซียวเวยเวยกล่าวอย่างประหม่าว่า “พี่เฉิน ฉัน…..ฉันมีอะไรผิดปกติหรือ?”
เฉินเสี่ยวเฟยโบกสัญญาในมือและกล่าวอย่างเย็นชาว่ “เชียวเวยเวย สัญญาได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่ บริษัทจะจ่ายเงินเดือนฟื้นฐานให้
แก่คุณห้าพันหยวน และเตรียมงาน 28 งานต่อเดือน คำตอบแทนทั้งหมดของคุณอยู่ในเงินห้าพันหยวนนี้แล้ว แล้วคุณยังจะมาขอค่าแรงของวันนี้
จากฉันได้ยังไง? ทำงานอย่างเดียว แต่จะเอาเงินสองส่วน คุณช่างคิดได้สวยหรูน่ะ?”