ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2164
บทที่ 2164
“ฉันไม่ไป!” เซียวเวยเวยกล่าวว่า “พวกคุณกำลังก่ออาชญากรรมในเวลากลางวันแสก ๆ! ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับกุมพวกคุณ!”
“แจ้งตำรวจ?” เฉินเสี่ยวเฟยเดินเข้ามาและตบหน้าเซียวเวยเวย จากนั้นก็ด่าว่า “แม่งฉิบหาย คุณคิดว่าแจ้งตำรวจแล้วก็จะสามารถข่มขู่
ฉันได้หรือ? ฉันจะบอกคุณว่ ผู้หญิงดอกทองอย่างคุณ ฉันเห็นมามากแล้ว! ฉันมีวิธีมากมายที่จะเล่นงานคุณให้ตาย!”
เซียวเวยเวยกล่าวว่า “พวกคุณรั่งแกคนมากกินไปแล้ว! ตอนนี้เป็นสังคมที่อยู่ภายใต้หลักกฎหมาย! จะปล่อยให้พวกคุณทำเรื่องเช่นนี้ได้
ยังไง!”
เฉินเสี่ยวเฟยยิ้มเยาะเยัยและกล่าวว่า “รังแกคุณแล้วยังไงล่ะ? สิ่งที่ฉันชอบทำที่สุดก็คือการรังแกคน! ฉันจะบอกคุณว่า ประธานหลิ่วเป็น
คนใหญ่โตเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มอิทธิพสมีดของเมืองจินหลิง ถ้าคุณกล้าตุกติก ไม่เพียงแต่คุณเท่านั้นที่จะมีจุดจบไม่ดี แต่คนในครอบครัวก็จะมี
จุดจบไม่ดีเช่นกัน!”
จากนั้นเธอก็กล่าวต่อไปว่า “เซียวเวยเวย อย่าโทษว่าฉันไม่เตือนคุณน่ะ อย่าพูดอะไรอีก แค่สัญญาที่อยู่ในมือของฉันที่คุณเซ็นชื่อและ
ประท้บรอยนิ้มือไปแล้ว ฉันสามารถขายสัญญนี้ให้กับบริษัททวงหนี้ได้ตลอดเวลาในราคาหนึ่งหรือสองแสนหยวน เมื่อถึงเวลา คนจากบริษัท
ทวงหนิ้จะมาที่บ้านคุณทุกวัน และบังคั่บให้คุณจ่ายเงินคืน ถ้าหากว่าคุณไม่คืนเงิน พวกเขาจะพักอาศัยดื่มกินอยู่ที่บ้านของคุณ แล้วพวกเขาก็จะ
พ่นสีใส่กำแพงบ้านคุณ ไม่ว่าคุณจะไปทำงานที่ไหน พวกเขาก็จะไปก่อกนในที่ทำงานของคุณ ทำให้คุณมีแต่เสียกับเสียเท่านั้น!”
บริษัทโมเดลลิ่งของเฉินเสี่ยวเฟย เดิมทีก่อตั้งโดยกลุ่มธุรกิจสีเทาในเมืองจิ๋นหลิงอยู่แล้ว
ลักษณะการทำงานของพวกเขาคือใช้การทำงานร่วมกันตามปกติเพื่อล่อให้หญิงสาวเข้ามาก่น แล้วจึงหลอกล่อหญิงสาวให้ลงนามใน
ข้อตกลงการขายชีวิต จากนั้นจึงใช้ข้อตกลงการขายชีวิตเพื่อควบคุมพวกเธอไว้อย่างแน่นหนา
ถ้าหญิงสาวที่หน้าตาธรรมดา ก็จะกลายเป็นแรงงานให้พวกเขา ทำงานโดยได้ค่าตอบแทนที่ต่ำที่สุด เป็นพริตตี้ช่วยพวกเขาหาเงินตาม
สถานที่ต่าง ๆ บีบคั้นสุดขีด และบางคนถึงกับต้องไปทำงานสามหรือสี่งานต่อวัน
ส่วนหญิงสาวที่หน้าตาดี จะถูกบังคั่บให้ไปทำงานเป็นสาวนั่งดริ้งที่ KTV และบางคนถึงกับถูกบังคับให้กลายเป็นโสเภณี
เฉินเสี่ยวเฟยรู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของเซียวเวยเวยสวย จะต้องควบคุมเธอให้ดี แล้วส่งเธอไปที่คลับระดับไฮเอนด์ เธอจะสามารถสร้าง
ผลประโยชน์อย่างน้อยห้หมื่นหรือหกหมี่นต่อเดือน ซึ่งแน่นอนว่าเฉินเสี่ยวเฟยนั้นมองเธอเป็นบ่อเงินบ่อทอง
เธอกังวลว่าถ้ำารื่องราวยืดเยื้อออกไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ดีเกิดขึ้น ดั่งนั้นเธอจึงรีบกล่าวกับชายฉกรรจ์เหล่านั้นว่า “เร็ว รีบพาเธอ
ขึ้นรถ!”
ชายฉกรรจ์หลายคนจับตัวเซียวเวยเวยแล้วกำลังลากเธอไปที่รถ
เซียวเวยเวยตกใจกลัวเป็นอย่างมาก จึงตะโกนว่า “ช่วยด้วย! มีลักพาตัว!”
ผู้คนที่เดินสัญจรผ่านไปมาได้ยินก็หันมามองทันที
เฉินเสี่ยวเฟยรีบกล่าวเสียงด้งว่า “ทุกคนอย่าเข้าใจผิด พวกเราคือบริษัทมารยาทซ่างเหม่ย เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย!”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นหนึ่งในพนักงานของเรา เมื่อไม่นานมานี้พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจ้านายของเรากรุณาให้เงินเธอห้า
แสนหยวนเพื่อไปรักษาพยาบาลฟอแม่ของเธอ แต่เธอกลับแอบนำเงินไปเล่นการพนัน!”
“ไม่พูดเรื่องที่ใช้เงินไปหมด แต่เธอยังไม่สใจไยดีและทิ้งพ่อแม่ไว้ที่โรงพยาบาลอีกด้วย ตอนนี้พวกเรากำลังจะพาเธอไปโรงพยาบาล
เพื่อเยี่ยมพ่อแม่ที่กำลังจะตาย และดูว่าพวกเราจะปลุกจิตสำนึกของเธออีกครั้งได้ไหม!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่รู้จะเชื่อใครดี
ขณะนี้ เฉินเสี่ยวเฟยกระซิบกับชายฉกรรจ์เหล่านั้นว่า “ริบขึ้นรถเร็ว!”
ชายฉกรรจ์หล่านั้นดึงตัวเซียวเวยเวยไปที่ประตูรถทันที และกำลังจะผลั่กเธอเข้าไปในรถ
ตอนนี้เซียวเวยเวยรู้สึกหวาดกลั่วเป็นอย่างมาก เธอรู้สึกสิ้นหวัง และเธอรู้ดีว่าเมื่อขึ้นรถไปแล้ว ก็เท่ากับเธอได้เข้าไปวงโคจรนั้น ตลอด
ชีวิตของเธออาจจะไม่สามารถหลุดฟันได้…..
ขณะที่เธอกำลังสิ้นหวัง และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เธอก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยที่เย็นชา “ปล่อยเธอ!”