ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2305
เฉินจื๋อข่ายขับรถยนต์ออกมาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เย่เฉินกำลังจะขึ้นรถยนต์ เถ้าแก่ของเจินเป่าเก๋อที่ชื่อเป่าฝู้กุ้ยรีบวิ่งออกมาทันทีและถามด้วยความประหม่า:”อาจารย์เย่ ทำไมคุณถึงจากไปเร็วขนาดนี้?”
เย่เฉินพูดทันที:”จู่ๆมีธุระด่วนต้องไปจัดการ ดังนั้นฉันต้องจากไปก่อน”
เป่าฝู้กุ้ยรีบถามทันที:”อาจารย์เย่ คุณไม่พอใจกับบริการของเจินเป่าเก๋อหรือเปล่า?”
เย่เฉินโบกมือ:”ไม่ใช่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจินเป่าเก๋อเลย”
เป่าฝู้กุ้ยรู้สึกโล่งอกและถามทันที:”อาจารย์เย่ สิ่งของที่ประมูลในวันนี้ คุณสนใจสิ่งของชิ้นไหนเป็นพิเศษไหม? ถ้าคุณสนใจสิ่งของชิ้นไหนก็บอกฉันได้ ฉันจะช่วยคุณประมูลมันให้ได้!”
เย่เฉินส่ายหัวและยิ้ม:”ในงานประมูลไม่มีสิ่งของที่ฉันสนใจเป็นพิเศษ วันนี้ฉันมาเพื่อร่วมงานเฉยๆ คุณไม่ต้องใส่ใจอะไรมากนัก”
ขณะพูด เขาก็ชี้ไปที่รถยนต์โรลส์รอยซ์ที่จอดอยู่ด้านหน้าและพูดกับเป่าฝู้กุ้ย:”ฉันยังมีธุระ ต้องไปก่อนนะ พวกเราค่อยนัดเจอกันวันหลัง”
เป่าฝู้กุ้ยรีบพยักหน้า โค้งคำนับและพูด:”อาจารย์เย่มีธุระก็ไปจัดการเลยครับ ถ้าครั้งหน้าเจินเป่าเก๋อจัดงานประมูลอีก ฉันจะแจ้งคุณล่วงหน้าอย่างแน่นอน!”
เย่เฉินพยักหน้าและบอกลาเป่าฝู้กุ้ย จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งบนรถยนต์
หลังจากนั้น เฉินจื๋อข่ายก็ขับรถยนต์และพาเย่เฉินไปที่คฤหาสน์หลังเก่าที่เย่เฉินกับพ่อแม่เคยอาศัยเมื่อตอนเด็ก
เมื่อเป่าฝู้กุ้ยมองเห็นเย่เฉินนั่งรถยนต์โรลส์รอยซ์ออกจากเจินเป่าเก๋อ เขาก็หันหลังและเดินเข้าไปในงานประมูลทันที
เวลานี้ ในที่สุดตู้ไห่ชิงก็ใช้เงินหกสิบสองล้านหยวนและประมูลคฤหาสน์หลังเก่าที่พ่อแม่ของเย่เฉินเคยพักอาศัยได้ ตอนนี้เธอมาถึงห้องสำนักงานของงานประมูลที่อยู่ด้านหลัง และทำสัญญาซื้อขายคฤหาสน์หลังนี้ทันที
พนักงานของกรมบังคับคดี ในเวลานี้พวกเขามองตู้ไห่ชิงด้วยความตกใจและพูดว่า:”คุณผู้หญิง คุณแน่ใจหรือว่าจะใช้เงินหกสิบสองล้านหยวนเพื่อซื้อคฤหาสน์หลังนี้? ถ้าตอนนี้คุณต้องการยกเลิกสัญญา พวกเราก็จะหักเงินค่าปรับหนึ่งหมื่นหยวนที่คุณวางมัดจำไว้ จากนั้นก็ขึ้นบัญชีดำชื่อของคุณเป็นเวลาหนึ่งปีเท่านั้น คุณจะลองทบทวนดูก่อนไหม?”
นี่คืองานประมูลของกรมบังคับคดี เงินทั้งหมดที่ได้รับจากการประมูลจะใช้สำหรับชดใช้เรื่องต่างๆของจำเลย
ดังนั้นไม่ว่าจะได้เงินประมูลมากหรือน้อย สำหรับกรมบังคับคดี มันไม่มีผลประโยชน์กับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาคาดหวังว่าทรัพย์สินที่ประมูลออกไปนั้นจะเป็นราคาจริงๆของทรัพย์สินนั้นๆ
พวกเขารู้สึกว่าราคาที่ตู้ไห่ชิงให้นั้นมันสูงจนโอเวอร์เกินไป เพราะคฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้มีมูลค่ามากขนาดนี้
เมื่อตู้ไห่ชิงจ่ายเงินก้อนนี้เสร็จ เธอก็จะไม่สามารถกลับใจได้แล้ว เงินจากการประมูลอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด จะใช้ในการชดเชยคดีของจำเลยทั้งหมด และไม่สามารถเรียกคืนได้
ถ้าตู้ไห่ชิงจ่ายเงินเสร็จแล้วและรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจผิด ถ้าถึงตอนนั้นเธอต้องการหาเรื่องขึ้นมา เธอก็ต้องมาฟ้องร้องที่กรมบังคับคดี ถึงเวลานั้นก็จะทำให้พวกเขาเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่มากก็น้อย สำหรับพวกเขามันเป็นเรื่องยุ่งยาก
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องยุ่งยากตามมาทีหลัง พวกเขาหวังว่าตู้ไห่ชิงจะไม่ใช่คนโง่ที่ยอมซื้อคฤหาสน์หลังนี้ ถ้าเธอกลับใจตอนนี้ได้ยิ่งดี รอการประมูลของกรมบังคับคดีครั้งหน้า ค่อยเอาคฤหาสน์หลังนี้ออกมาประมูลอีกครั้ง และประมูลในราคาปกติ ถ้าเป็นอย่างนี้คงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
ในความคิดของพวกเขา ตู้ไห่ชิงแค่อยากจะเอาชนะผู้ชายคนนั้นที่แย่งคฤหาสน์หลังนี้กับเธอเฉยๆ ดังนั้นพวกเขาก็เลยเพิ่มราคาขึ้นไปเรื่อยๆ มิฉะนั้น ถ้าเป็นคนทั่วไป คงไม่สามารถให้ราคาที่สูงเกินจริงขนาดนี้
แต่ตู้ไห่ชิงในเวลานี้ดีใจมากๆและพูด:”ฉันไม่จำเป็นต้องคิดทบทวนแล้ว พวกคุณช่วยจัดการเอกสารเรื่องจ่ายเงินให้ฉันโดยเร็วที่สุด และผ่านกระบวนการโอนทรัพย์สินด้วย ยิ่งเร็วยิ่งดี ขอบคุณ”