ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 237 คิดไม่ซื่อ(2)
บทที่ 237 คิดไม่ซื่อ(2)
พอคิดถึงจุดนี้ นายหญิงใหญ่เซียวก็อดตื่นเต้นไม่ได้ แล้วพูดกับเซียวอี้เชียนว่า “ประธานเซียวคะ คุณพ่อของคุณช่างเป็นคนที่ไม่ลืมบุญคุณจริงๆเลย
ค่ะ เรื่องราวตั้งหลายปีแล้ว ก็ยังจดจำได้อย่างแม่นยำ!”
เซียวอี้เชียนพยักหน้า แล้วถอนหายใจพูดว่า “ถึงอย่างไรคือพระคุณที่ช่วยชีวิตไว้ หลายปีมานี้ พ่อของผมไม่เคยลืมเลย”
พูดจบ เซียวอี้เชียนก็เอากล่องเครื่องประดับหรูหราสีแดงออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้นายหญิงใหญ่เซียว พร้อมพูดว่า “พ่อของผมประหยัดเงิน แล้วบอกผมว่า จะต้องเอาของสิ่งนี้มาให้คุณท่านเซียวให้ได้ แต่ว่าคุณท่านเซียวได้เสียชีวิตไปแล้ว เช่นนั้นผมก็ให้กับคุณไว้แล้วกัน!”
นายหญิงใหญ่เซียวนึกว่าเพราะจะตอบแทนบุญคุณ ก็เลยให้พวกของมีค่าอะไร ก็เลยรีบรับมาไว้ พอเปิดดูก็อึ้งไป
มันคือกระสุนปืนที่สนิมกินเป็นคราบหมดแล้ว?!
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
นายหญิงใหญ่เซียวก็มองเซียวอี้เชียนอย่างแปลกใจมาก “ประธานเซียว นี่คือ………”
เซียวอี้เชียนรีบตอบ “นี่คือลูกกระสุนปืน ที่พวกญี่ปุ่นยิ่งใส่ส่วนขาของพ่อผมครับ ตอนนั้นคุณท่านเซียวเอามีดเผาไฟจนแดง แล้วผ่ามันออกมา พ่อผมพกติดตัวตลอด ก่อนเสียชีวิตก็ให้ผมเอามาให้คุณท่านเซียวเพื่อเป็นที่ระลึก”
นายหญิงใหญ่เซียวในใจก็อยากจะด่าออกมา
แม่งเอ้ย อะไรกันวะเนี่ย?
ไอ้แก่บ้านกูไปช่วยพ่อมึงไว้ แต่พ่อมึงกลับเอาลูกกระสุนปืนหลายสิบปีมาให้เป็นที่ระลึกงั้นหรือ?
พวกมึงมันจะงกเกินไปแล้ว? รู้จักไหม มีพระคุณก็ต้องตอบแทนเป็นเท่าตัวอะ?
ไอ้ลูกกระสุนปืนเน่าๆ นี้ ไม่มีราคาอะไรเลย แถมยังเคยฝังอยู่ในเนื้อคน น่าแปลก มึงเอามาให้กูมันมีประโยชน์อะไรวะ?!ไม่สู้ให้กูสัก8ล้านหรือสิบล้าน ให้กูพ้นสภาวะนี้ไปได้จะดีกว่า!
พอคิดถึงจุดนี้ นายหญิงใหญ่เซียวก็มีใบหน้าเสียใจพูดว่า “ไม่คิดว่าคุณพ่อของคุณจะเป็นคนที่มีคุณธรรมเช่นนี้ ถ้าเขารู้ว่าตอนนี้ พวกเราตระกูลเซียวกำลังประสบความลำบาก คงจะต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือแน่?”
เซียวอี้เชียนก็มีสีหน้าอึ้งเล็กน้อย ในใจก็คิดว่า ไอ้ญาติพี่น้องพวกนี้จนจริงๆ ไม่ทันไรก็จะเอาเงินจากกูแล้วหรือ?
แต่ว่า ถึงอย่างไรเขาก็มาเพื่อทำตามความหวังของคุณท่าน ดังนั้นก็เลยไม่อาจจะหักหน้ากันได้ ดังนั้นก็เลยถามไปตามน้ำ ว่า “นายหญิงใหญ่เซียว ไม่ทราบว่าตอนนี้บ้านคุณกำลังประสบกับปัญหาอะไรหรือ?”
นายหญิงใหญ่เซียวรีบตอบว่า “เดิมทีพวกเรามีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับตกแต่งภายใน ชื่อว่าบริษัทเซียวซื่อ เดิมทีก็ดำเนินกิจการไปได้สวย แต่ตอนนี้ด้านเงินทุนเกิดปัญหานิดหน่อย ใกล้จะล้มละลายแล้ว ตอนนี้ก็เลยอยากจะหาทุน……….”
เซียวอี้เชียนพยักหน้า แล้วยิ้มพูดว่า “ดูแล้ว นายหญิงใหญ่เซียวเป็นคนที่มีวาสนา คุณวางใจเถอะ ผมเชื่อว่าตระกูลเซียว
คงจะต้องเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดีจนได้ในที่สุด!”
นายหญิงใหญ่เซียวได้ยินดังนั้น ก็ด่าขึ้นในใจ
กูพูดไปแบบนั้น ก็เพราะอยากให้มึงสำนึกในบุญคุณ แล้วก็เอาเงินมาตอบแทน ไม่เห็นแก่หน้าเณร ก็เห็นแก่หน้าพระ ไม่เห็นแก่หน้าพระ ก็เห็นแก่หน้าพ่อมึงที่ตายไปบ้างสิ?
สุดท้าย มึงกลับมาบอกว่ากูมีวาสนาดี จะเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดีได้งั้นหรือ?
ถ้าไม่ใช่เพราะมึงเป็นผู้ดีใหญ่ กูอยากจะเอาโต๊ะขว้างตอกหน้ามึงไปเสียนี่!
ในตอนนี้ เซียวอี้เชียนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเซียวเวยเวยที่กำลังเหม่อลอยไร้สติ จากนั้นก็ยิ้มพูดกับนายหญิงใหญ่เซียวว่า “นายหญิงใหญ่ คุณยังไม่ได้แนะนำเลยว่า คนอื่นๆ เป็นใครกันบ้าง?”
นายหญิงใหญ่เซียวก็มองออก จ้องมองไป ก็รู้ได้ว่าเซียวอี้เชียนเหมือนจะชื่นชอบเซียวเวยเวย
ในตอนนั้น เธอก็เหมือนจะหาต้นหญ้าที่สามารถชุบชีวิตตระกูลได้แล้ว