ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2426
บทที่ 2426
เย่เฉินคาดไม่ถึงว่า หม่าหลั่นจะผ่านการกระทำของคุณท่านใหญ่ชุ คิดถึงนายหญิงใหญ่เซียว ก็ถึงขนาดไปต่อไม่ถูกชั่วขณะ
ในเวลานี้ หม่าหลันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และพูดว่า: “ก็แค่รู้สึกสงสารผู้หญิงที่ชื่อตู้ให่ชิงคนนี้! ฉันว่าเธอคงจะเป็นผู้หญิงดีที่จิตใจดี
และเฉลี่ยวฉลาดเหมือนกับฉัน เพียงแต่ว่าฟ้าไม่มีตา ผู้หญิงดีอย่างพวกเรา ก็ไม่เจอกับแม่สามีที่ดีและพ่อสามีที่ดี”
เย่เฉินฟังจนก็กระอักกระอ่วนจนอยากจะหลบหนีไป
ตู่ให่ชิงก็ยังดีเป็นทายาทแห่งตระกูลเกียรติยศ เป็นสตรีผู้ดีอันงามพร้อมของชั้นนำในแวดวงหญิงสาวมหาเศรษฐีอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะ
ต้านไหนดีกว่าหม่าหลั่นหนึ่งแสนแปดหมื่น แต่หม่าหลั่นกลับบอกว่าเธอเหมือนกับตู้ห่ชิงได้อย่างหน้าไม่อาย เห็นได้ว่าหนังหน้าของเธอหนาจน
ไร้ขอบ
แต่ว่าเย่เฉินก็ไม่อยากที่พูดกับเธอมากนัก ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า: “แม่ครับ แม่ทำธุระก่อนเถอะ ผมจะไปสูดอากาศที่ลานบ้าน”
แม้ว่าหม่าหลั่นยังเต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม แมื่อได้ยินคำพูดนี้ รีบพูดเอาใจด้วยรอยยิ้มว่า: “ลูกเขยที่ดี ลูกใส่
เสื้อผ้าหนาหน่อย วันนี้ข้างนอกหนาวนะ”
“ครับ”
เย่เฉินออกมาจากบ้าน มาถึงในลานบ้านก็โทรหาเฉินจี๋อข่าย
ทันทีที่รับสาย เสียงของเฉินจี่อข่ายก็ดังมา: “คุณชาย!”
เย่เฉินเอ่ยปากถามว่า: “เหล่าเฉิน สถานการณ์ทางนายเป็นยังไงบ้าง?”
เฉินจี๋อย่ายรีบพูดว่า: “คุณชาย โรงแรมทางนี้ ชั้นเอ็กเซ็กคูที่ฟยังคงด้รับการปกป้องสุดชีวิตอย่างเข้มงวด นอกเหนือจากคนสนิทของ
ผม แม้แต่พนักงานธรรมดาและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ สำหรับทางด้านคุณผู้หญิงตู้และคุณหนูซูนั้น เมื่อกี้นี้
ลูกน้องตอบผมว่ คุณหนูซูอยากเจอคุณอยากจะสอบถามตัวตนของคุณ แต่ว่าคนของผมไม่ได้เปิดเผย ให้พวกเธออยูในห้องดีๆ เมื่อกี้นี้ส่ง
อาหารเช้าไปให้พวกเธอแล้วครับ”
“นอกจากนี้ ผมได้รับข่าวว่า ไอ้แก่ซูเฉิงเฟิง ได้หลบหนีจากเย่นจิงในชั่วข้ามคืนแล้ว เครื่องบินออกจากสนามบินเย่นจิง บินไปทางตะวัน
ออกสู่ทะเลหลวง ต่อจากนั้นอ้อมไปทางช่องแคบไต้หวันภาคใต้ จากนั้นก็ไปทางเหนือ หกโมงกว่าลงจอดที่ซูาง เส้นทางการบินของเครื่องบินก็
เป็นเหมือนเบ็ดตกปลายนาดใหญ่…”
เย่เฉินถามด้วยความสงสัยว่า: “วิ่งไปซูหางทำไมต้องอ้อมวงใหญ่ขนาดนั้น? หรือว่ากลัวคนอื่นคันพบเส้นทางที่แท้จริงของเขาเหรอ?”
“ใช่ครับ!”เฉินจี๋อขายพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “สื่อมวลบางส่วนไม่รู้สถานการณ์ รู้เพียงว่าเครื่องบินของเขาออกเย่นจิงบินออกนอกประเทศไป
ทางตะวันออก ก็คิดว่าเขาหนีไปหลบภัยที่ประเทศญี่ปุ่น”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เขาวิ่งไปซูหาง น่จะไม่เพียงแค่หลบภัย ชูหางอยู่ใกล้กับเมืองจินหลิงขนาดนี้ ฉันว่าเขายังคงคิดถึงเมืองจิน
หลิง”
“ผก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ”เฉินจื่อข่ายพูดอย่างจริงจัง: “ตระกูลซูมีอิทธิพลเล็กน้อยในซูหาง คุณท่านใหญ่ซูสั่งการเรื่องราวของ
เมืองจินหลิงอยู่ที่นั่น ก็ถือได้ว่าเป็นแนวหน้าด้วยตนเอง”
เย่เฉินสั่งการในทันทีวา: “รีบเรียกอุตงไห่ไปมาที่เมืองจินหลิง ไม่อย่างนั้นหลังจากที่ซูเฉิงเฟิงกลับมาเป็นปกติเป็นไปได้มากที่จะหาเขา
ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ แม้ว่าอู่ตงไห่ตอนนี้จะยอมศิโรราบแล้ว แต่เนื่องจากว่าเสียเปรียบมากในมือของฉัน ไม่แน่จะฉวยโอกาสนี้ มุ่งหน้า
김ศึท น2ย แงงรหสาน
ไปพึ่งพาอาศัยตระกูลซูมาต่อกรกับฉัน”
เฉินจี๋อข่ายรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลั่น และอ้าปากพูด: “โธ่เอ๊ย ผมลืมอู่ตงห่ไปยังไงเนี่ย! ด้วยรูปแบบการกระทำของคนเจ้าเล่ห์อย่างซู
เฉิงเฟิง เขาถึงซูหางแล้ว จะต้องสะสางปัจจัยที่ไม่แน่ใจในท้องถิ่นของซูหางให้ชัดเจนก่อนอย่างแน่นอน ต่อจากนั้นค่อยวางแผนก่อนแล้วลงมือ
ไม่แน่เช้าวันนี้ก็จะเรียกอู๋ตงไห่มาพบก็ได้!”
เย่เฉินยิ้มและพูดว่า: “น่าจะไม่เร็วขนาดนั้น เมื่อคืนนี้ซูเฉิงเฟิงคงจะกังวลม่นัอย นั่งเครื่องบินวนหนึ่งรอบใหญ่ คาดการณ์ว่าไม่มีกะจิตกะ
ใจพักผ่อน เครื่องบินสองชั่โมงกว่าถึงเพิ่งลงจอด เขาเร่งรีบไปสถานที่พัก ฉันคาดการณ์ว่าเช้านี้เขาอาจจะต้องนอนพักผ่อนก่อน รอตื่นขึ้นมา
แล้ว ก็อาจจะรอดูสถานการณ์ในท้องถิ่นของซูหางก่อน”
“ดังนั้น ตอนนี้นายโทรหาอู่ตงไหในทันที ก็บอกว่าฉันหาเขามีเรื่องด่วน ให้เขาและอู่ซินลูกชายคนโตของเขานั่งเฮลิคอปเตอร์มาในทันที
แบบนี้ น่าจะยังท้นเวลา”
“ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่ซูเฉิงเฟิงไปซูหางเงียบสงบขนาดนั้น ตอนนี้คนของตระกูลคงจะไม่รู้ข่าวของเขาอย่างแน่นอน”
เฉินจี๋อข่ายรีบพูดว่า: “ได้ครับ คุณชาย งั้นผมจะโทรหาอู๋ตงไห่เดี๋ยวนี้ครับ!”