ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2432
บทที่ 2432
พ่อบ้านตอบตามความจริงว่า: “คุณท่าน ผลกระทบของวิตี้โอยังคงขยายอย่างไม่หยุดหย่อน ตอนนี้จากในประเทศ แพร่กระจายไปถึง
ต่างประเทศแล้ว สถานการณ์ความคิดเห็นของสาธารณชนโดยรวม ไม่เอื้ออำนวยต่อตระกูลซูของพวกเราอย่างยิ่ง”
“นอกเหนือจากนี้ ตู้เจิ้นหัวของตระกูลตู้ยังโทรมาไม่ต่ำกว่าสิบสาย ผมไม่กล้ารับสาย…”
“ผู้นำหลายคนในเย่นจิงก็ให้คนโทรมาถามไถ่ โกรธมากสำหรับเรื่องนี้ ต้องการให้ตระกูลซูหาทางแก้ไขที่ซัดเจน ผมอ้างว่าคุณไม่สบาย
ถ่วงเวลาไปชั่วคราว แต่ว่าพวกเขาให้เวลาพวกเราภายในยี่สิบชั่วโมง ต้องให้คำอธิบายที่ชัดเจน…”
ซูเฉิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และกัดน: “แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอยู่ในมือของตระกูลเย่ ฉันจะจัดการกับประชาสัมพันธ์นี้ก็เป็นไปไม่
ได้ สำหรับตระกูลตั พวกเราไม่ต้องสนใจเขา ตู้จิ้นหัวอยากจะทำยังไงก็แล้วแต่เขา ถึงยังไงฉันไม่มีทางไปจอเขา ไม่เจอเขาตลอดชีวิตก็ไม่ใช่
เรื่องใหญ่อะไร”
พ่อบ้านรีบถามว่า: “คุณท่าน งั้นทางผู้นำนั้น…”
ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจ: “นี่ถึงเป็นสิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุด…หลิวจ้านคนนั้น กลับมัตระเบิดไปจับตัวประกัน ผลกระทบของเรื่องแบบนี้มันเลว
ร้ายมาก ตอนนี้ทุกอย่างเปีดเผยออกไป ฉันก็มาเป็นแพะรับบาปทั้งหมด…”.
จากนั้น ซูเฉิงเฟิงสงบลงมา และเอ่ยปากพูดว่า: “นายตอบพวกผู้นำแทนฉันหน่อย ก็บอกว่าฉันพักรักษาตัวอยู่ต่างประเทศ รอหลังจากที่
ร่างกายดีขึ้นเล็กน้อย ก็จะออกตัวยอมรับความผิดต่อพวกเขาก่อนในทันที!”
“ได้ครับคุณท่าน….
ซูเฉิงเฟิงกุมขมับ และเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่หดหู่สิ้นท่าว่า: “ใช่แล้ว ตระกูลไหนที่แข็งแกร่งที่สุดของความแข็งแกร่งโดยรวมของซู
หาง?”
พ่อบ้านพูดอย่างจริงจังว่า: “ความแข็งแกร่งมากที่สุดน่าจะเป็นตระกูล แต่ว่าช่วงก่อนหน้านี้ตระกูลอู่เกิดเรื่องมากมาย ความแข็งแกร่งก็
หายไปเกือบครึ่ง เดิมที่พวกเขาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนาน ตอนนี้ไม่อยู่ในสามอันดับแรกแล้ว”
ซูเฉิงเฟิงพยักหน้า และพูดว่า: “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตระกูลซูมุ่งนไปที่ตลาดต่งประเทศมาโดยตลอด และไม่เคยดำเนินการเจาะลีก
ตลาดในประเทศ ตอนนี้เป็นเวลา รีบไขว่คว้าตลาดภายในประเทศและเส้นสายทรัพยากรอีกครั้ง ยังสะดวกมากกว่าตระกูลใหญ่ในท้องถิ่นที่คุ้น
เคย ทางที่ดีที่สุดสามารถที่จะใช้งานตระกูลอู้นี้ได้ นั่นก็ยิ่งดี”
จากนั้น เขาเอ่ยปากถามว่า: “ใช่แล้ว โสว่เต้ามาถึงเมื่อไหร่?”
พ่อบ้านมองดูเวลา และพูดว่า: “ท่านชายใหญ่น่าจะถึงประมาณบ่ายสองบ่ายสามครับ”
ซูเฉิงเฟิงอือคำหนึ่ง และสั่งการว่า: “อย่างนี้นะ นายไปเจอคนของตระกูลอู๋แทนฉันหน่อย บอกกับพวกเขาสักคำ ก็บอกว่าตระกูลอยากจะ
เชิญพวกเขามาทานอาหารในตอนกลางคืน แต่ว่าอย่าได้เปิดเผยตัวตนของฉันอย่างเด็ดขาด อย่าให้ผู้คนรู้ว่าฉันอยู่ซุหาง เข้าใจมั้ย?”
พ่อบ้านพยักหน้าในทันที: “เข้าใจครับคุณท่าน! ผมจะไปติดต่อกับตระกูลอู่เดี๋ยวนี้ครับ!”
ในเวลาเดียวกัน ซูโสว่ต้ากำลั่งนั่งเครื่องบินส่วนตัว และบินอยู่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก
แม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่คนทั้งคนกลับรู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น
และซูจือเฟย ซึ่งนอนอยู่ในรถของตัวเองด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน และมิภาพสามภาพหมุนวนอยู่ในใจอย่างไม่หยุดหย่อน
ภาพที่หนึ่ง คือตู่ไหชิงแม่ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
ภาพที่สอง คือซูจือหยูน้องสาวที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เช่นกัน;
ภาพที่สาม คือตัวเองหลังจากที่กลายเป็นผู้นำตระกูลซู
เดิมที สามภาพนี้ต่อเนื่องกันไปเป็นระลอกและสิ่งหนึ่งมลายหายไปสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นมาแทนที่ ถือได้ว่าจับคู่อย่างเท่าเทียมกัน
แต่ทว่า เมื่อเวลาผ่านไป ภพสองภาพแรกค่อยๆกลายเป็นจางลงเล็กน้อย ภาพที่สามเริ่มยึดตำแหน่งหลักอย่างมั่นคง
หลังจากคุยโทรศัพท์กับพ่อซูโสว่เต้าแล้ว ซูจือเฟยพบว่า ตำแหน่งผู้นำตระกูลชู และมั่งคั่งที่ตำแหน่งนี้สามารถควบคุมไว้ได้ ล่อใจตัวเอง
มากเกินไปจริงๆ
เพียงแค่โบกมือก็สามารถที่จะสั่งการตระกูลสุดยอดที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งล้านล้นได้ ความรู้สึกชี้แนะชาติบ้านเมืองแบบนี้ นี่เป็นแรง
ปรารถนาสูงมากที่สุดของนักธุรกิจทุกคน!
เขาวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันอย่างรอบคอบ และความรู้สึกตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ เพราะว่าในใจของเขารู้สึกว่า: “อารองหายตัวไป
แล้ว ชื่อเสียงของคุณปู่เสียหายไปหมด ด้วยวิธีนี้ โอกาสที่พอจะสืบทอดตระกูลซูก็มากยิ่งขึ้น ฟอมีเพียงฉันเป็นลูกชายคนเดียว ซึ่งก็หมายความ
ว่า โอกาสที่ฉันจะกลายเป็นผู้นำตระกูลซู ก็มากยิ่งขึ้น!”