ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2435
บทที่ 2435
ตอนบ่ายสี่โมง เครื่องบินส่วนตัวของซูโสว่เต้ อยู่บนอากาศในเมืองซูหางเริ่มลตระดับความสูงลง
กำลังจะลงจอดในสนามบินซูหางในไม่ช้นี้ เขาจึงโทรหาซูจือเฟยลูกชายของตัวเอง
ซูจือเฟยในเวลานี้ ได้ขับรถไปถึงที่สนามบินแล้ว เขาจอดรถอยู่ในลานจอดรถ ตัวเองอยู่ในรถรอข่าวจากพ่อ
เมื่อเห็นพ่อโทรมา เขารับสายอย่างรวดเร็ว และเอ่ยปากถามว่า: “พ่อ พ่อถึงไหนแล้ว?”
ซูโสว่เต้าพูดว่า: “อีกยี่สิบนาทีกว่า ฉันน่าจะลงจอดแล้ว แกถึงหรือยัง?”
“ผมมาถึงแล้วครับ”ซูจือเฟยพูดว่า: “หลังจากที่พ่อออกจากด่านศุลกากรแล้วบอกผม ผมจะไปรับพ่อ”
“ได้!”ซูโสว่เต้ากำซับเขา: “อย่าลืมสวมหน้ากากและแว่นกันแดดด้วย ตอนนี้คนตระกูลซูอย่างพวกเราไวต่อความรู้สึกของภายนอกเกินไป
จริงๆ อย่าได้ทำให้คนอื่นสังเกตเห็นว่าพวกเรามาที่ซูหาง”
“ผมรู้แล้วครับพ่อ”
หลังจากที่วางสาย ซูจือเฟยก็รีบสวมหน้ากากและแว่นกันแดต ต่อจากนั้นขับรถไปที่ทางเข้าหลักของทางเดินขาเข้าของสนามบิน หลัง
จากที่รอประมาณยี่สิบนาทีกว่า ร่างของซูโสว่เต้าก็ปรากฏขึ้นที่ทางออกของอาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามบิน
เหมือนกันกับซูจื่อเฟย ซูโสว่เต้าก็ยังสวมแว่นกันแดดสีดำและหน้ากากสีดำแบบใช้แล้วทิ้ง
แต่ทว่า ซูจือเฟยยังมองแวบเดียวก็มองเขาออก ต่อจากนั้นรีบลงรถ โบกมือให้กับเขา และตะโกนว่า: “พ่อ ทางนี้ครับ!”
เมื่อซูโสว่เต้าเห็นซูจือหยู จิตใจก็สดชื่นขึ้นมา และรีบวิ่งไปสองก้าวในทันที
ในช่วงสองวันมานี้ซูจือเฟยก็สะสมพลังงานด้านลบเป็นจำนวนมาก เมื่อเห็นว่าในที่สุดพอก็กลับมา ในใจก็มีความรู้สึกหาที่พึ่งพาได้ รีบ
ก้าวไปข้างหน้า และกอดพ่อไว้ในทันที
ในวินาที่นี้ ซูจือเฟยอดไม่ได้ที่จะสะอีกสะอื้นขึ้นมา และกระซิบว่า: “พ่อ…พ่อกลับมาสัก…”
ซูโสว่เต้าตบหลังของเขา และถอนหายใจพูดว่า: “เฮ้อ! อเฟย พ่อขอโทษแกด้วย ขอโทษแม่ของแกและจื่อหยู ตอนที่พวกลูกต้องพ่อ
มากที่สุด แต่พ่อกลับไม่สามารถที่จะอยู่เคียงข้างกายของพวกลูกปกป้องพวกลูกไว้ได้”
ซูจือเฟยพูดอย่าเศร้าๆว่า: “พ่อ…แม่และจือหยู จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีที่อยู่อะไรทั้งนั้น พอจะต้องคิดหาทางตามหาพวกเธอให้ได้นะ…”
ซูโสว่เต้าพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม: “แกวางใจได้ ฉันจะต้องทำให้สุดความสามารถ ตามหาแม่ของแกและน้องสาวของแก”
หลังจากที่พูดจบ เขามองไปรอบๆ และรีบพูดว่า: “พวกเรารีบขึ้นรถกันก่อนเถอะ ที่นี่คนเยอะเกิน จะได้ไม่ต้องเป็นจุดสนใจ”
“ครับ…”ซูจือเฟยพยักหน้าอย่างเร่งรีบ หันหนำาไปช่วยเปิดประตูข้างคนขับ ให้ซูโสว่เต้าเข้าไปก่อน
เมื่อซูจือเฟยกลับถึงในรถ ซูโสว่ต้าก็กำชับเขาว่า: “ขับตรงไปที่ทะเลสาบซีหู คุณปู่ของแกมีคฤหาสน์อยู่ที่ริมทะเลสาบซีหู ตอนนี้เขาก็
พักอยู่ที่นั่น”
ซูจือเฟยพยักหน้า และพูดว่า: “งั้นผมนำทางไปที่ทะเลสามซีหูก่อน ตำแหน่งเฉพาะรอใกล้ถึงทะเลสาบซีหูแล้ว พ่อก็ชี้นำทางให้ผม”
อสังหาริมทรัพย์ของตระกูลซูอยู่ในทุกหนทุกแห่งของทั่ประเทศแม้กระทั่งทุกหนทุกแห่งของทั่วโลกนั้นมากเกินไปจริงๆ ในเมืองที่ ใหญ่
กว่าเล็กน้อยเกือบทุกแห่ง ก็ล้วนมีทรัพย์สินของตระกูลซุ คุณท่านมีคฤหาสน์เท่าไหร่กันแน่ ขนาดตัวของคุณท่านเองก็ไม่รู้ และคฤหาสน์หลังนี้
ที่อยู่ในซูหาง ขนาดซูจือเฟยก็ไม่เคยไปมาก่อน
ขณะขับรถขึ้นทางด่วนสนามบิน ซูโสว่เต้าพูดกับซูจือเฟยที่อยู่ข้างๆว่า: “เดี๋ยวเจอกับคุณปู่ของแก อย่าได้รอให้คุณปู่ของแกเป็นคน
ขอโทษแกก่อน แกจะต้องเป็นคนขอโทษเขาก่อน ทางที่ดีจริงจังหน่อย คุกเข่าขอโทษ เข่าใจมั้ย?”
ซูจือเฟยรู้ว่า ครั้งนี้พ่อกลับมาจากออสเตรเลีย เป็นจุดสำคัญที่พ่อและตัวเองจะได้รับสิทธิ์สืบทอดกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่ายังไงตัวเองก็ไม่
สามารถที่จะทำลายได้ ด้งนั้นจึงพูดอย่างจริงจังว่า: “ผมรู้แล้วครับพ่อ พ่อวางใจได้ เมื่อเจอคุณปู่ผมจะคุกเข่าขอโทษเขาในทันที…”
เดิมที ซูจือเฟยก็ถือได้ว่าเป็นคนมีจิตใจที่หยั่งในศักดิ์ศรี แต่เมื่อเผชิญกับประโยชน์มหาศาล ความหยั่งก็อ่อนลงมากโดยไม่รู้ตัว
ซูโสว่เต้าก็กำชับเขาว่า: “ครั้งนี้คุณปู่ของแกถือได้ว่าประสบกับความล้มเหลวที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ แกพิจารณาจากผลกระทบของวิดีโอ
นั้น ตลอดชีวิตนี้คุณปู่ของแกไม่สามารถที่จะกลับมาได้ ดังนั้นครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีของพวกเราสองพอลูก ถ้หากพวกเราสามารถที่จะไขว่คว้า
โอกาสนี้ไว้ ด้านหนึ่งทำให้คุณปู่ของแกเห็นความสามารถของพวกเรา อีกต้านหนึ่งก็ทำให้คุณปู่ของแกเห็นว่าพวกเรายอมศิโรราบต่อเขา งั้นพวก
เราก็มิโอกาสจะสืบทอดทั้งตระกูลซู”
จากนั้น ซูโสว์เต้าก็เปลี่ยนคำพูด และพูดอีกว่า: “แต่ว่า ถ้าหากพวกเราทำไมได้ ก่อนหน้าที่คุณปู่ของแกจะตาย ทรัพย์สินทั้งหมดของ
ตระกูลซู คงจะส่งมอบให้กับกองทุนทรัสต์ในต่างประเทศอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้น พวกเราก็ทำได้เพียงรับคำครองชีพต่อหัวแล้ว”
ซูจือเฟยรีบถามว่า: “พ่อ พ่อว่าพวกเราจะทำยังถึงสามารถที่จะทำให้คุณปู่ยอมรับความสามารถของพวกเราได้?”