ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2439
บทที่ 2439
ซูจือเฟยแอบรักกู้ชิวอี๋มาหลายปี แต่บอกเรื่องนี้ให้แค่ซูจือหยูน้องสาวเท่านั้น
เหตุผลที่เขาไม่กล้าพูดออกมา ก็เป็นเพราะว่าเขารู้ว่า ตระกูลซูไม่อนุญาตให้เขาคบกับกู้ชิวอื่
คุณท่านใหญ่ซูหยิ่งยโสมาแต่ไหนแต่ไร ดูถูกตระกูลเหล่านี้ของในประเทศด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังปรารถนาสามารถที่จะมีความก้าวหน้าอย่างใหญ่และสำคัญในตลาดต่างประเทศมาโดยตลอด
ดังนั้น เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ซูจือเฟยในฐานะหลานชายคนโตของตระกูล สามารถที่จะแต่งงานกับลูกคุณหนูของตระกูลชั้นนำของ
ยุโรปและอเมริกา หรือว่าเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ยุโรป
แบบนี้ ตระกูลซูถึงสามารถที่จะดำเนินแลกเปลี่ยนทรัพยากรกันกับอีฝ่ายได้
ไม่อย่างนั้น ถ้าหากเป็นเพียงในประเทศ ถ้าแต่งงานกับตระกูลที่ความแข็งแกร่งโดยรวมอ่อนแอกว่าตระกูลซู นั่นก็แสดงให้เห็นว่าก็จะ
ทำให้คนอื่นมาเอารัดเอาเปรียบตระกูลซู
ด้วยเหตุนี้ ซูจือเฟยถึงได้ไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เขาฝันก็ยังคาดไม่ถึงว่า คุณปู่ที่เงื่นไขสูงมากกลับเป็นคนสนับสนุนให้ตัวเองไปตามจีบกู้ชิว สิ่งนี้สำหรับเขา นี่เป็นข่าวดี
มาก
แต่ทว่า ซูจือเฟยไม่รู้ว่า คุณท่านใหญ่ซูก็วิเคราะห์จดประสงค์ที่แท้จริงของเขา จากการกระทำที่เขาเป็นสปอนเซอร์คอนเสิตของกู้ชิว
ออกมาได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้พูดแบบนี้ ก็แค่สนองตามความต้องการของอีกฝ่ายเท่านั้น
ซูเฉิงเฟิงเข้าใจหลักการอย่างหนึ่งอย่างลึกซึ้ง หลักการนี้มีเพียงหกคำ:ความปรารถนาขับเคลื่อนทุกสิ่ง
ต้องการใช้ประโยชน์จากคนคนหนึ่งให้ดีที่สุด นั่นก็คือต้องเข้าใจความปรารถนาของเขาอย่างลึกซึ้งว่าอยู่ที่ไหนกันแน่
ซูเฉิงเฟิงเข้าใจความปรารถนาอันลึกซึ้งที่ซูจือเฟยมีอยู่ ดังนั้น เขาถึงได้สนองตามความต้องการของอีกฝ่าย สนับสนุนให้เขาไปตามจีบกู้
ชิวอี๋ และผูกมัดเขาไว้ในค่ายของตัวเองในครั้งเดียวเสร็จ
ดังนั้น ตอนที่ซูจือเฟยแสดงความตกใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เขาพูด ซูเฉิงเฟิงแสดงท่าทางของคนที่มีประสบการณ์มาก่อน และพูดอย่าง
จริงจังว่า: “จือหยู สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกคู่สมรสก็คือคุ้มค่ากับราคา เด็กสาวคนนั้นของตระกูลกู้ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาความสามารถ
และคุณสมบัติก็ดีทั้งนั้น แม้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลกู้จะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ชนะอยู่ที่เธอเป็นลูกคนเดียวของกู้เย้นจง ถ้าหากแต่งงานกับ
เธอจริง ก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่ากับราคามาก! ดังนั้นถ้าหากแกตามจีบเธอจริงๆ ฉันจะยกมือทั้งสองข้างเห็นด้วยอย่างแน่นอน”
ซูจือเฟยพูดอย่างตื่นเต้นในทันที: “ขอบคุณครับคุณปู่! ปู่พูดแบบนี้ ผมก็วางใจแล้วครับ!”
ซูโสว่เต้าที่อยู่ข้างๆ นี่ยังเป็นครั้งแรกที่รับรู้ว่าคนที่ในใจของลูกชายชอบกลับเป็นกู้ชิวอี่ของตระกูล
เขาขมวดคิ้ว และพูดอย่างจริงจัง: “จื่อเฟย แกชอบเด็กสาวของตระกูลกู้ พ่อกลับไม่ได้ค้ดค้าน แต่ว่าแกต้องรู้ว่า ตระกูลกู้มีอคติ ต่อ
ตระกูลซูมาโดยตลอด โดยเฉพาะกู้เย้นจง เย่ฉางอิงในปีนั้นเป็นพี่ชายร่วมสาบานของเขา ตั้งแต่ที่ฉันก่อตั้งพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ เขาก็
ตัดขาดกับตระกูลซูอย่างสมบูรณ์ ถ้าแกตามจีบกู้ชิวอื่ ก่อนอื่นจะต้องผ่านด่านนั้นของเขา”
ซูจือเฟยพยักหน้า และพูดว่า: “พ่อ สิ่งที่พ่อพูดมาผมก็เคยไตร่ตรองดูแล้ว สิ่งเหล่านี้ระหว่างรุ่นพ่อเป็นเรื่องราวในอดีต ก็ย่อมมีอิทธิพล
ค่อนข้างมากจริงๆ แต่ผมยั่งเชื่อ ความรู้สึกเป็นอันดับแรก ถ้าหากผมทำให้กู้ชิวอี๋ชอบผมได้จริงๆ งั้นผมเชื่อว่าผมก็สามารถที่จะทำให้พ่อของกู้ซิ
วอี๋ยอมรับผมได้”
ซูโสว่เต้าถอนหายใจอย่างจริงใจว่า: “คงจะไม่ง่ายดายขนาดนั้น!”
ซูเฉิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่เลียปากเสียงดัง ท่าทางพยายามใช้ความคิดทั้งหมดเพื่อออกอุบายและวางแผนการให้หลานชาย และเอ่ยปากพูด
ว่า: “ปัดโถ! เรื่องนี้ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องสรุปเร็วขนาดนั้น จือหยูก็เพิ่งจะยี่สิบหกปี ต่อให้แต่งงานอายุสามสิบหกปีก็ไม่ถือว่าสาย ดังนั้นเขามี
เวลาทำให้ตระกูลกู้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขา”
จากนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความเสียใจเล็กน้อย: “ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาว่ากู้เนจงคนนั้น ดูเหมือนว่าจะมะเร็งต้บอ่อนใกล้ตายแล้ว
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ จือเฟยตามจีบเด็กสาวของตระกูลกู้ สิ่งกีดขวางก็จะน้อยไปหนึ่งอย่าง แต่ใครจะรู้ว่าทำไมจู่ๆหมอนั่นก็หายดีโดยไม่ทราบ
สาเหตุ เขามีชีวิตอยู่ ระดับความยากจะยิ่งมากขึ้นอย่างแน่นอน”
ซูจือเฟยเอ่ยปากพูดในเวลานี้ว่า: “คุณปู ในเมื่อปูสนับสนุน งั้นผมจะพยายามตามจีบกู้ชิวอี่อย่างแน่นอน ตราบใดที่เธอยอมคบกับผม ผม
เชื่อว่าพ่อของเธอก็ไม่สามารถที่จะห้ามพวกเราคบกันได้”
“ใช่”ซูเฉิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม : “แกก็วางใจไปตามจีบอย่างกล้าหาญ ปัสนับสนุนหนึ่งร้อยหนึ่งพันเท่า!”
จากนั้น เขาก็พูดอย่างจริงจังมาก: “ถ้หากกู้ชิวอี่ไม่ยอมยกโทษเรื่องของ’พันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ปีนั้นให้กับพวกเราตระกูลซูได้ งั้นก็
ให้พ่อของแกไปหาถึงที่แล้วยอมรับความผิดก่อน”
“ถ้ายังไม่ได้อีก งั้นคนแก่อย่างฉันก็จะไปขอโทษเขาด้วยตัวเอง! เพื่อความสุขตลอดชีวิตของหลานชายฉัน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ใช่เรื่อง
ใหญ่อะไรเลย?”
ท่าทีของซูเฉิงเฟิง ทำให้ซูเฉิงเฟิงซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง
เมื่อเปรียบเทียบกับบุคลิกที่คำไหนคำนั้นไม่ต้องสงสัยเลยของคุณปูก่อนหน้านี้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินจริงๆ