ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2458
บทที่ 2458
พูตจบ เขาจึงหันหลั่งเดินออกจากห้องรับรอง
อู่ตงไหนั่งบนโซฟาอย่างไม่เป็นสุข เขาโมโหในใจ และสบถว่า “ให้ตายเถอะ แค่สุนัขตัวหนึ่ง กลัอวดดีกับฉันขนาดนี้ พูดจาหยิ่งผยองตั้ง
เยอะตั้งแยะ ไม่เทน้ำให้ฉันสักแก้ว ไอ้เลวเอ๊ย!”
หลังผ่านไปครึ่งซั่วโมง
ขบวนรถยนต์โรลส์รอยซ์ ขับเข้ามาในคฤหาสน์ริมน้ำอย่างสง่างาม
ซูเฉิงเฟิง ซูโสว่เต้า รวมไปถึงซูอานสุ้น ยืนรออยู่หนัาประตูบ้าน เมื่อขบวนรถหยุดลง ชูโสว่เต้าก้าวมาข้างหน้า และเปิดประตูหลังของรถ
ยนต์โรลส์-รอยส์
ภายในรถ มีชายชราสวมเสื้อคอจีนสีดำปีกลาย ผมสีดอกเลาทั้งหัว
ดูเหมือนอายุ 80 กว่าปีแล้ว แต่ทว่ายังแข็งแร่งมาก ดูไม่แก่งอมสักนิด
คนอายุ 50 กว่าปีอย่างซูโสว่เต้า มองชายซราตรงหน้า จากนั้นจึงพูดอย่างนอมน้อม “สวัสดีครัมปูไหม้! ไม่เจอกันหลายปีเลยนะครับ!”
ชายชรายิ้มบางๆ เขาใช้มือจับหนวด และพูดอย่างมีความสุข “นายคือโสว่เต้าใช่ไหม ครั้งก่อนที่เจอยังหนุ่มอยู่เลย ตอนนี้คงอายุ 40 แล้ว
สินะ”
ซูโสว่เต้าพูดอย่างนอบน้อม “ปูใหม้ ตอนนี้ผมผ่านอะไรมาครึ่งชีวิตแล้ว ไม่เหมือนคนอายุเกือบร้อยอย่างคุณ แต่ยังดูแข็งแรงอยู่เลย!”
ชายชราหัวเราะ “มีเรี่ยวมีแรงที่ไหนกัน ดินใกล้จะกลบหน้าฉันแล้ว อีกไม่นานคงกลบจนมิดหัว”
ซูเฉิงเฟิงรีบพูดขึ้นมาว่า “โสว่เต้า รีบเชิญปู่ไหม้ลงมาเร็ว อย่าให้ปู้ไหม้นั่งในรถนานๆ ไม่ดีต่อร่างกาย!”
ซูโสว่เต้าตั้งสติได้ เขารีบยื่นมือออกไป และพูดว่า “เชิญครับปู้ไหม้!
ชายชราคนนี้ คือไหม้เฉิงซิน ผู้สืบทอดรุ่นที่ 31 ของตระกูลไหมั
ไหม้เฉิงซินมีชื่อเสียงโด่งดัง ในหมู่ชาวจีนโนทะเล ที่อาศัยในอมริกา ถึงจะเทียบกับล่ายชิงหวาไม่ได้ แต่นับได้ว่าเป็นอาจารย์ฮวงจุ้ย
เชื้อสายจีนในอเมริกา ที่หาได้ค่อนข้างน้อย
เพราะหลายปีมานี้ล่ายชิงหวาค่อนข้างติดดิน และมาอาศัยอยู่ที่หัวเชี่ยหลายปี จึงทำให้ไหมัเฉิงซินมิโอกาสได้เฉิดฉาย
คนอายุ 93 ปีอย่างไหม้เฉิงซินยังไม่อำลาวงการ ตอนนี้เขายังอยู่ในวงการฮวงจุ้ย มักจะไปดูฮวงจุ้ย ดูดวงให้เหล่าตระกูลไฮโซทั่วทุก
สารทิศ เพราะฝีมือไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงมีซื่อเสียงของอาจารย์ไหม้
ครั้งนี้ตระกูลซูทุ่มเงินถึง 1500 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเชิญเขามา อีกทั้งยังรับผิดชอบค่ตั๋เครื่องบินไปกลับเมืองจินหลิงด้วย รวมไปถึงค่า
กินอยู่และค่าเดินทางด้วย ถึงเชิญเขามาจากอเมริกาได้
ขณะนั้น หมัเฉิงซินยื่นมือไปวางบนแขนซูโสว่ต้าเบาๆ และออกมาจากรถ ซูเฉิงเฟิงบเข้ามา เขาโค้งและพูดว่า “ลุงเดินทางมาตั้งไกล
ลำบากคุณแล้ว ขอโทษจริงๆ ครับ!”
ไหม้เฉิงซินหัวเราะ และพูดว่า “เฉิงเฟิง ฉันกับพ่อนายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน นายมีเรื่อง ทำไมฉันจะไม่มาช่วยล่ะ”
ขณะที่พูด ประตูฝั่งคนขับถูกผลักออก คนหนุ่มประมาณ 27-28 ปีเดินลงมา และเดินมายืนข้างชายชรา จากนั้นจึงพูดอย่างเคารพ “ทวด
ครับ”
ไหม้เฉิงซินดิ่งเขามาข้างๆ จากนั้นจึงพูดว่า “เฉิงเฟิง โสว่เต้า ฉันขอแนะนำหน่อย นี่ไมค์ เหลนคนโตของฉัน”
“ไมค์เหรอ” ซูโสว่เต้าหลุดปากถามออกไป “เป็นชื่อภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษครับ”
ชายหนุ่มหัวเราะ “ลุงซู ไหม้เค่อคือซื่อภาษาจีนของผม แต่ชื่อภาษาอังกฤษของผมก็คือ Mike เหมือนกันครับ เมื่อทับศัพท์ออกมาจึงเป็น
ตัวอักษรจีนสองตัว”
ไหม้เฉิงซินหัวเราะ “พวกวัยรุ่นชอบตามเทรนด์ ตอนพ่อของไหม้เค่อตั้งชื่อให้เขา เลยตั้งใจตั้งชื่อที่รวมกันระหว่างจีนและตะวันตก”
ซูเฉิงเฟิงบพูดว่า “ชื่อนี้น่าสนใจมาก อีกทั้งยังแซ่ไหม้พอดีด้วย คำหนึ่งสื่อได้สองความหมาย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองต้ว ยอดเยี่ยม
มาก!”
ไหม้เฉิงซินโบกมือไปมา “เฉิงเฟิง นายไม่ต้องมาพูดโม้แทนพ่อเขา ชื่อไหม้ค่อเป็นชื่อที่ซุกซนและตลก ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรหรอก”
ซูเฉิงเฟิงหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นจึงพูดว่า “ลุง ผมไม่ได้มีความสามารถด้านวัฒนธรรมเหมือนคุณ ซื่อนี้สุดยอดจริงๆ!”
ไหม้เฉิงซินตบไหล่ของเขา จากนั้นจึงหัวเราะ และพูดว่า “พอแล้ว เราไปนั่งคุยเรื่องตระกูลชูของนายกันดีกว่า!”