ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2493
บทที่ 2493
ทั้งสามเดินไปตามเสียง แล้พบกับชายวัยกลางคนที่รูปร่างแข็งแรง สวมกางเกงออกกำลังกายขาสั้นแล้วเสื้อแขนสั่น กำลังวิ่งเหยาะๆมา
ข้างหน้า
เย่เฉินอดที่จะมองไปที่ชายวัยกลางคนผู้นั้นไม่ได้ อีกฝ่ายมีสูงประมาณ1.8เมตร เขามีสัดส่วนที่ดีมาก อีกทั้งมีกล้ามเนื้อซัดทั่วร่างกาย ดู
ท่าทางเหมือนกับคนอายุสี่สิบตันๆ
อีกทั้ง หามกลางอากาศหนาวขนาดนี้อีกฝ่าย ยังส่วนเสื้อผ้น้อยซิ้นออกมาวิ่ง ดูก็รู้ว่าสมรรถภาพร่างกายของเขาดีมาก
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ผู้ชายคนนี้หล่อมาก อีกทั้งยังมีผมสั้นหนา ที่ดูมีสไตล์มาก
พอเชียวฉางควนเห็นผู้ชายคนนี้ เขารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที ด้านหนึ่งคอยมองสำรวจอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้านหนึ่งก็อดที่จะรู้สึกเสีย
ความมั่นใจไม่ได้
เมื่อเทียบกับผู้ชายคนนี้แล้ว เซียวฉางควนเป็นผู้ชายวัยกลางคนธรรมดาๆอายุห้าสิบ ปกติไม่ออกกำลังกาย นับประสาอะไรกับความฟิต
ไม่มีนิสัยการทานอาหาร และการออกกำลังกายที่เป็นระบบ บุคลิกภาพและความแข็งแกร่งห่างชั้นจากคนอื่นมาก
ในเวลานี้เองหานเหม่ยฉิงพูดด้วยใบหน้ายินปรีดา”โอ้ เหล่าเฮ่อ ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?”
ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าเหล่าเฮ่อยิ้มบางๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า”ผมออกมาวิ่งน่ะครับ คิดไม่ถึงว่าจะเจอคุณ”
เซียวฉางควนยิ่งเห็นความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายมากเท่าไร ในใจก็ยิ่งเกิดความน้อยใจมากเท่านั้น จึงอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ว่า”เหม่ยฉิง
ใครหรอครับ? ”
หานเหม่ยฉิงรีบกล่าวแนะนำ”ฉางควน นี่คือเพื่อนร่วมงานของฉันที่มหาวิทยาลัยผู้สูงอายุค่ะ เหล่าเฮ่อ เฮ่อหย่วนเจียง เมื่อก่อนเหล่าเฮ่อ
เคยเป็นศาสตราจารย์ดำนเศรษฐตาสตร์และการจัดการที่MIT งกลับประเทศจินมื่อไม่นานมานี้ และทำหน้ที่เป็นรองคณบดีของมหาวิทยาลัย
การเงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง ในขณะเตียวกันก็เป็นเขายังเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยผู้สูงอายอีกด้วย”
เย่เฉินที่ได้ยินว่าเป็นมหาวิทยาลัยการงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง ก็แอบคิตในใจว่า”เป็นมหาลัยที่ฉินเจ้าเสวี่ยนเรียนอยู่ไม่ใช่หรอ? ”
พูดจบ เธอก็พูดกับเฮ่อหย่วนเจียงว่า”เหล่าเฮ่อ นื่คือเซียวฉางควนเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาลัยของฉันค่ะ ข้างๆของเขาคือเย่เฉินลูกเขย
ของเขาค่ะ”
เซียวฉางควนเอ่ยถามอย่างไม่รู้ตัว”MIT? MITะไรครับ? ”
เวลานี้เอง เฮ่อหย่วนเจียงพูดอธิบายกับเซียวฉางควนว่า”คุณครับ MIโอคำอของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ ซึ่งสถาบัน
เทคโนโลยิแมสซาชซตส์ก้คือมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาครับ”
สีหน้าของเซียวฉางควนเปลี่ยนเป็นเขินอายในทันที
สถาบันเทคโนโลยีแมสชาชซตส์ป็นได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในสามมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เซียวฉางควนเป็นคนที่เคยเรียน
มหาวิทยาลัยมาเหมือนกัน ต้องเคยได้ยินมาก่อนอยู่แล้ว
เพียงแต่ เขาไม่รู้ว่MIโเป็นชื่อย่อของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชเซตส์ ดังนั้นจึงทำให้เผยความขี้ขลาดออกไป
เมื่อมองไปที่ผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ในใจของเซียวฉางควนจึงรู้สึกเสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก”คนอื่นเป็นถึงศาสตราจารย์ของสถาบัน
ทคโนโลยิแมสชาชชตส์ สามารถทำหน้ที่ป็นศาสตราจารย์ของสถาบันเทคโนโลยีแมสชาชเซตส์ได้ ระดับการศึกษาอย่างน้อยต้องปริญญา
เอก? แต่ฉันล่ะ เป็นแค่นักศึกษาปริญญาตรีที่จบจากมหาวิทยาลัยจงซาน, ห่างชั้นจากคนอื่นเป็นแสน อีกทั้งคนอื่นทั้งเนื้อทั้งตัวยังเต้มไปด้วย
กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แถมยังดูหนุ่ม แม่งเอ้ย ยินต่อหน้าพวกเขา ดีไม่ดีจะเหมือนว่าฉันเป็นลุงของเขาอย่างนั้นแหละ…..
เฮ่อหย่วนเจียงที่เห็นว่าเซียวฉางควนไม่ได้พูดอยู่นาน จึงส่งยิ้มแล้วเอ่ยถามไปว่า”คุณเซียวครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณเซียวทำอะไร
ครับ? ”
หานเหม่ยฉิงที่อยู่ข้างจึงพูดขึ้นมาว่”ฉางควนเขาเป็นกรรมการผู้จัดการของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดค่ะ ชมรมการเขียน
พู่กันจีนและภาพวาดของเราติดต่อกับพวกเขาเป็นประจำค่ะ”
เฮ่อหย่วนเจียงพยักหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า”คิดไม่ถึงว่าคุณเซียวจะเป็นคนในแวดวงการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด อันที่จริงผมชอบ
พู่กันจีนมากเลยครับ เมื่อก่อนยังคยฝึกอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้งานค่อนข้างยุ่ง เลยไม่มีเวลาสนใจ ถ้ามีโอกาส จะต้องเรียนรู้กับคุณเชียวให้
มากๆ”
เชียวฉ่างควนคิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้นอกจากจะมีภูมิหลังและการศึกษาที่สูงแล้ว ยังพูดจาถ่อมต้วขนาดนี้ นใดนั้นเขาก็เกือบรู้สึกผิด
เล็กๆ จึงพูดอย่างอ้ำๆอึ้งๆว่า”อ……เออคือ ไม่ต้องรีบหรอกครับ หลังจากนี้ยังมีโอกาส”
พูดจบ เขาก็แสร้งกัมหน้าดูนาฬิกาโรเล็กซ์บนข้อมือ แล้วพูดขึ้นมาว่า”น้องเช่อ วันนี้ดีกแล้วล่ะ เราจะต้องกลับก่อนแล้ว ขอโทษด้วยนะ”