ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2502
บทที่ 2502
ห้ม้ค่อพูดด้วยความม่พอใจ:”คุณทด คนขับรถท็กซี่คนนี้เลวมากๆ! ฉันให้งินกับเขาไปตั้งสองพันหยวน เขากลับส่งพวกเรามาถึง
หน้าประตูก็หายไปเลย ด้วยระยะทางประมาณนี้ ถ้านั่งรถเท็กซี่ทั่วไปก็คงไม่ถึงห้าสิบหยวน ถ้าให้เขาหนีไปแบบนี้ ไม่รู้ว่าในอนาคตเขาจะไป
หลอกคนอื่นอีกมากน้อยแค่ไหน! ไม่ได้ ฉันต้องแจ้งตำรวจ!”
ไหม้เฉิงซินพยักหน้าและพูด:”คนขับรถแท็กซี่ก็ทำเกินไป แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปหาเรื่องกับเขา คุณต้องจำไว้ให้ดี ในชีวิตของ
คนนั้น สิ่งล้ำค่าที่สุดก็คือเวลา สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จ เวลาคือสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับคนขี้แ เวลานั้นไม่มีค่าเลย”
ขณะพูด ไหม้เฉิงซินก็ถามเขา:”ถ้าตอนนี้คุณโทรไปแจ้งความกับตำรวจ งั้นพวกเราก็ต้องนั่งรอให้ตำรวจมาถึงที่นี่ หรือไม่พวกเราก็ต้อง
ไปสถนีตำรวจด้วยตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้นพวกราก็ต้องอธิบายเรื่องราวทั้งหมด และต้องนึกรูปลักษณ์ของคนขับรถแท็กซี่คนนั้นออกมา และ
ต้องนี้กป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ด้วย ถ้าตำรวจจับเขาได้ ก็ต้องโทรเรียกพวกเราไปชี้ตัว และลงบันทึกประจำวัน การไปๆกลับๆแบบนี้ พวกเราคง
ต้องเสียเวลาไปครึ่งวัน”
“พูดกันตามตรง ตอนอยู่อเมริก ถ้ามิใครขอให้ฉันไปช่วยดูฮวงจุ้ยหรือดูดวง เขาก็ต้องจ่ายเงินให้ฉันห้าหมื่นดอลลาร์ต่อชั่โมง แต่พวก
เราสองคนต้องเสียเวลาครึ่งวันกับคนขับแท็กซี่แบบนี้เพื่อเงินสองพันหยวน มันเป็นเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสียใช่ไหม?”
ไห้ม้เค่ออดไม่ได้ที่จะพูด”คุณทวด ฉันอยากแจ้งความจั่บเขา ไม่ใช่เพราะเงินสองพันหยวน แต่ฉันอยากสอนบทเรียนให้เขา ทำให้เขารู้ว่า
อยู่ในสังคมนี้ต้องมีความซื่อสัตย์ และต้องทำตามกฎหมาย! ถ้าทำแบบนี้ก็สามารถลดการทำเรื่องไม่ดีของเขาในอนาคตได๋”
หม้เฉิงซิโบกมือและพูดอย่างจริงจัง:”ไหม้ค่อ ในเมื่อคุณให้ความสนใจกับวิชาฮวงจุ้ย และฉันก็หวั่งว่าคุณจะศึกษาวิชาฮวงจุ้ยอย่างลึก
ซึ้ง และคุณต้องจำเรื่องหนึ่งเอาไว้”
ไหม้เค่อรีบถามทันที:”คุณทวด คุณพูดมาเลย ฉันต้องจำเรื่องไหนเหรอ?”
ไหม้เฉิงซินพูดอย่างเคร่งขรึม:”คุณต้องจำเอาไว้ อย่าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้าน และจำคำพูดนี้เอาไว้ ทุกบ้านกวาดหิมะหน้าบ้านของตัวเอง
อย่าไปยุ่งกับน้ำค้างแข็งบนหลังคาของบ้านคนอื่น!”
ไหม้เค่อพูดอย่างตกตะลึง:”คุณทวด นี่ไม่ใช่คำพูดเสียดสีเหรอ?”
“พูดเสียดสื?”ไหม้เฉิงซินหัวเราะและพูด:”นี่คือปรัชญาอันแท้จริงของบรรพบุรุษเรา!”
“การกวาดหิมะหน้าบ้านของตัวเองเป็นเรื่องปกติและสมเหตุสมผล ไม่มีใครสามารถมาว่ากล่าวคุณได้ เพราะคุณกวาดหิมะหน้าบ้านตัว
เอง”
“แต่ว่า ถ้าคุณไปช่วยคนอื่น งั้นฉันขอถามคุณหน่อย คุณจะช่วยใคร?”
“ถ้าคุณใจดีไปช่วยเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆ ถ้างั้นเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านถัดไปก็จะถามคุณ ทำไมคุณไม่ช่วยเขาด้วย?”
“ถ้าคุณใจอ่อนและไปช่วยเขา และเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดๆไปก็จะคิดว่าคุณต้องช่วยเขาเหมือนกัน”
“ถ้าเป็นแบบนี้ เมื่อเกิดหิมะตก คุณก็ต้องช่วยคนทั้งชุมชนกวาดหิมะหน้าบ้านของพวกเขาทั้งหมดให้สะอาด?”
ไหม้เค่อในตอนนี้พูดอะไรไม่ออก
ไหม้เฉิงซินพูดอีกว่า:”คนอย่างพวกเราที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย ไม่ควรใจอ่อนมากจนเกินไป!”
ขณะพูด ไหม้เฉิงซินก็พูดอีกว่า:”ก็เหมือนกับคุณปู่ของฉัน เขาเชี่ยวชาญด้านดูโหงงเช้งมากๆ ถ้าเขาเดินอยู่ในตลาดของเมืองจิงเฉิง
ห่ามกลางผู้คนที่เดินไปๆมาๆ เขามองครั้งเดียวก็สามารถรู้ได้เลยว่าคนไหนมีเรื่องที่ทำให้เลือดตกยางออก คนไหนจะบ้านแตกสาแหรกขาด”
“ในบางครั้ง เขาแค่ดึงใครบางคนเอาไว้และสอนเขานิดหน่อย ก็สามารถช่วยชีวิตของคนๆนั้นเอาไว้ได้”
“แต่เขาไม่สามารถใจอ่อนและช่วยทุกคนไม่ได้ เพราะโลกใบนี้มีคนหลายพันล้านคน ถ้าคุณเริ่มที่จะช่วยเหลือคนพวกนั้น คุณก็จะรู้สึกว่า
ต้องรับผิดชอบต่อทุกคน แต่คุณสามารถช่วยทุกคนได้เหรอ?”
“มันก็เหมือนกับพวกเราออกไปช่วยคนอื่นดูฮวงจุ้ย ระหว่างทางที่ไปบ้นนายจ้าง คุณอาจจะเห็นบ้านผีสิงนับร้อยหลัง ถ้าพวกเราไปบอก
พวกเขาที่ละบ้านๆ คุณคิดว่าจะทำได้เหรอ? และการที่คุณไปพูดแบบนั้น พวกเขาจะเชื่อเหรอ?”
“ดังนั้นอาชีพของพวกเรา ต้องจำเอาไว้ ถ้าออกจากบ้านของตัวเอง ก็สนใจแค่ชีวิตของนายจ้างเท่านั้น คนอื่นๆพวกเราไม่ต้องไปสนใจ นี่
ก็คือหลักการของวิชาฮวงจุ้ย เมื่อไหร่ที่คุณเข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ เมื่อนั้นคุณจะเข้าใจวิชาฮวงจุ้ย!”