ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 252 ธุรกิจกิจชำนาญแล้ว(2)
บทที่ 252 ธุรกิจกิจชำนาญแล้ว……(2)
และคนที่เหลืออีกสามคน ก็ถูกชนจนล้มลงไปบนพื้น ทั่วทั้งร่างกายกระดูกแตกหักไปทั่วทุกหนทุกแห่ง นอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น
ในสายตาที่พวกเขามองดูเย่เฉิน ก็เต็มไปด้วยความตกใจกลัวเช่นกัน!
ไอ้หมอนี่ทำไมถึงน่ากลัวขนาดนี้เนี่ย? ! เราสามคนยังไม่ได้ประมือกับเขาจริงๆจังๆเลย ก็ถูกคนที่เขาเตะออกมาชนเข้าจนสูญเสียพลังการต่อสู้ไปแล้ว?! นี่……นี่มันเทพชัดๆ!
เย่เฉินก้าวเท้าเดินไปถึงหน้าทั้งสามคน ใช้สายตาเยือกเย็นจ้องมองไปที่ทั้งสามคน พูดด้วยเสียงเย็นชา: “ชอบเป็นหมารับใช้ให้คนอื่นขนาดนี้ งั้นจากนี้ไปก็คลานอยู่บนพื้นแล้วกัน!”
พูดจบ เขาก็เหยียบไปที่ขาขวาของหนึ่งคนในนั้น!
กร้อบ!
ทั่วทั้งกระดูกสะบ้าหัวเข่าของขาขวาถูกบดขยี้……
จากนั้น เขาก็ยกเท้าขึ้น ขาซ้ายของอีกฝ่ายก็ไม่ปล่อยไป!
อีกสองคนที่เหลือเห็นสิ่งนี้ ตกใจจนตัวสั่นเทิ้ม!
ทันใดนั้น ทั้งสองก็พากันร้องไห้ขอความเมตตากับเย่เฉินทันที
เย่เฉินกลับพูดเสียงเย็นชา: “สวะอย่างพวกแก เวลาทำร้ายคนโหดเหี้ยมมากกว่าใคร ตอนที่บาดเจ็บขี้ขลาดตาขาวมากกว่าใคร วันนี้ฉันจะปล่อยพวกแกไป วันหน้าตอนที่พวกแกเผชิญหน้ากับคนอ่อนแอ ยังคงต้องเป็นใบหน้าโหดเหี้ยมใบนี้อย่างแน่นอน! ฉันทำลายพวกแก เพื่อกำจัดคนชั่วให้ประชาชน!”
พูดจบ ไม่สนใจเสียงร้องไห้อ้อนวอนของอีกฝ่ายเลย ขึ้นไปก็เหยียบไปสี่เท้า!
กร้อบ! กร้อบ! กร้อบ! กร้อบ!
แต่นี้ไป โลกใบนี้มีคนพิการที่ไม่สามารถยืนขึ้นมาได้อีกเพิ่มขึ้นมาสามคน!.
คนในงานถูกวิธีการโหดเหี้ยมของเย่เฉินแบบนี้ทำให้ตกตะลึงไป
เซียวอี้เชียนกับเซียวเวยเวยที่ตามอยู่ข้างหลังก็ตกตะลึงไป!
เซียวอี้เชียนไม่คิดไม่ฝันว่า เย่เฉินจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ได้ และยังแกร่งขนาดนี้!
บอดี้การ์ดสี่คนของตัวเอง เวลาสั้นๆที่แค่พบหน้ากัน กลับถูกทำลายไปหมด! ถูกทำให้พิการไปอย่างสิ้นเชิง!
พวกเขาล้วนแต่เป็นถึงนักสู้ยอดฝีมือนะ! หนึ่งในนั้น หลายปีก่อนยังเคยเป็นแชมป์การต่อสู้ระดับประเทศมาแล้ว!
เซียวอี้เชียนตกใจจนขาทั้งสองขาข้างแกว่งไปมา ตรงที่ปัสสาวะเปียกก่อนหน้านั้นรู้สึกเย็นเฉียบขึ้นมา
เขาหันหลังไปเงียบๆ ก้าวเท้าก็อยากจะหนีออกไป
ไม่ว่าอย่างไร ก็จะให้ตกอยู่ในมือของเย่เฉินไม่ได้อีก……
ในเวลานี้ จู่ๆก็มีคนเอ่ยปากพูดว่า: “แกไอ้หมาแก่ ยั่วยุอาจารย์เย่แล้วยังอยากจะหนีอีกเหรอ?!”
หลังจากนั้น ฝูงชนแยกจากกัน ท่านหงห้าพาชายชุดดำร่างกายกำยำสองสามคน เดินเข้ามา พร้อมกับเยาะเย้ย ขวางอยู่ตรงหน้าของเซียวอี้เชียนโดยตรง
เซียวอี้เชียนมองดูเขาอย่างตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ถามว่า: “คุณ……คุณเป็นใคร?”
เพียะ!
สิ่งที่ตอบเขา คือตบที่เสียงดังฟังชัดของท่านหงห้า
บนหน้าเซียวอี้เชียนมีรอยนิ้วมือปรากฏขึ้นมาห้านิ้วทันที เขาพูดด้วยความโกรธอย่างมาก: “คุณกล้าตบผม? ผมเป็นประธานสมาคมการค้าหนานกว่างนะ!”
เพียะ!
ท่านหงห้าไม่ไหวหน้าเลยสักนิด ตบไปที่หน้าของเขาอีกครั้ง
“ประธาน? ที่กูตบก็คือประธานนี่แหละ! กล้าแสดงความไม่เคารพต่ออาจารย์เย่ แกรนหาที่ตาย!”
เซียวอี้เชียนทั้งโกรธทั้งกลัว รีบร้อนพูดว่า: “เข้าใจผิด! เข้าใจผิด! ผมกับคุณเย่แค่เข้าใจผิดกันเท่านั้น! ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
“อยากไป?!” ท่านหงห้ายิ้มอย่างดูถูก พูดว่า: “แกถามอาจารย์เย่หรือยัง?”
เซียวอี้เชียนรีบร้อนหันหน้ามองไปทางเย่เฉิน วิงวอนขอร้องด้วยเสียงที่สั่นเทา: “เย่เฉิน คุณเย่ เมื่อกี้ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไอ้สี่คนนี้จะหาเรื่องคุณให้ได้ ผมจะหยุดก็หยุดเอาไว้ไม่อยู่ จุดจบของพวกเขาตอนนี้ล้วนแต่สมควรได้รับแล้ว ขอคุณได้โปรดปล่อยผมไปสักครั้ง……”
เย่เฉินพยักหน้า พูดด้วยรอยยิ้ม: “ได้สิ ผมสามารถปล่อยคุณสักครั้งได้ อย่างไรเสียเมื่อกี้ผมก็ปล่อยคุณไปครั้งหนึ่งแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินมองดูเขา พูดขึ้นมาอย่างยียวน: “แต่ว่า คุณน่าจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร ไม่ต้องให้ผมสอนคุณใช่ไหม?”
เซียวอี้เชียนกลัวว่าเย่เฉินจะทำลายตัวเอง เหมือนที่ทำลายบอดี้การ์ดของตัวเองแบบนั้น ดังนั้นจึงคุกเข่าลงไปกับพื้น วิงวอนขอร้องทั้งน้ำตา: “พ่อ ขอร้องคุณผู้ทรงเกียรติใจกว้าง ละเว้นลูกชายครั้งนี้ด้วยเถอะ!”
ท่านหงห้าตะลึงอึ้งไป พูดขึ้นมาโดยไม่ต้องคิด: “เยสเข้แล้ว! แกนี่แม่งรู้ตัวดีจริงๆ!”
เซียวอี้เชียนพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น: “พูดอย่างไม่ปิดบังคุณ ธุรกิจชำนาญแล้ว……”