ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2531
บทที่ 2531
จากมุมของสัญญาลักษณ์แห่งการทำนาย เช่อจือชิวแทบจะเสียชีวิตเก้าสิบเปอร์เซ็นต์รอดสิบเปอร์เซ็นต์ และโอกาสรอดเดียวนี้ ก้อยู่ใน
เมืองจินหลิง
เย่เฉินตระหนักได้ทันว่า โอกาสรอดชีวิตนี้ของเฮ่อจื่อชิว ก็จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับตัวเอง
นอกจากตัวเอง กล้วว่จะไม่มีใครสามารถที่จะช่วยเธอได้
ยิ่งไปกว่านั้น สัญญาณลักษณ์แห่งการทำนายนี้ดูแล้ว ดูเหมือนว่าเฮ่อจื่อชิวตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว
นอกจากนี้ โอกาสรอดของเธออยู่ที่ตัวเอง ถ้าหากตัวเองไม่ช่วยเฮ่อจือชิว เธอต้องตายอย่างแน่นอน!
ช่วย หรือว่าไม่ช่วย เย่เฉินแทบจะไม่ลั่งเลใจมากเกินไป
ขณะที่แวบเดียวนั้นพบโอกาสรอดของเฮ่อจื่อชิวขึ้นอยู่กับตัวเองเมื่อกี้นี้ เย่เฉินตัดสินใจจะช่วยเธอแล้ว
แม้ว่าเย่เฉินจะไม่เคยเจอกับเอจือชิวมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นไม่ได้มีมิตรภาพอะไรก็ตามกับเธอ แต่ในใจของเยเฉินยังมีเหตุผลจำเป็นที่ต้อง
ช่วยเธอสองอย่าง
เหตุผลแรก ตอนนี้ตัวเองต้องการจะเจาะการตลาดการขนส่งทางทะเลขนาดใหญ่โดยเร็วที่สุด เฮ่อจื่อชิวเป็นบุคคลคัดเลือกที่ดีที่สุด ถ้า
หากเธอสามารถกลับมาช่วยตัวเองได้ เฮ่อหยว่นเจียงพอของเธอก็จะช่วยเหลืออย่างแน่นอน แบบนั้น ฟื้นฐานของธุรกิจนี้ก็จะมั่นคง;
เหตุผลที่สอง เฮ่อหยว่นเจียงเป็นเพื่อนและเพื่อนร่วมชั้นตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นปีนั้นหลังจากที่พ่อเกิดเรื่อง เขาก็พยายาม
อย่างมากเพื่อที่จะตามหาตัวเอง และเขามีเพียงเฮ่อจือชิวลูกสาวคนนี้คนเดียว ดังนั้นเพียงแค่มองจุดนี้ ตัวเองก็ไม่สามารถที่จะเห็นคนตายแต่ไม่
เข้าไปช่วยเหลือได้
แต่ทว่า ในใจเย่เฉินกลับค่อนข้างเกิดความหงุดหงิด
ช่วยก็ได้ แต่จะช่วยอย่างไร?
เนื่องจากว่าเธออยู่ซีเรีย ยิ่งไปกว่านั้นอยู่ตำแหน่งไหนของซีเรีย ตัวเองไม่รู้อะไรเลย
แม้ว่าสัญญาณแห่งการทำนายสามารถคำนวณตำแหน่งได้ โดยคร่าวๆ แต่ว่าใช้มาตามหาคนคนหนึ่งได้ แต่ความแม่นยำในการค้นหานั้น
ยังห่างไกลมาก ความเป็นไปได้ที่จะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนโดยอาศัยทำนายดวงชะตาโดยตรงนั้นแทบจะเป็นศูนย์!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ความคิดแวบเข้ามาในใจของเย่เฉิน: “ในครั้งนี้เฮ่อจื่อชิว คือตามกองกำลังรัฐบาลซีเรียเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหาร…
“กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเธอหลายคนกลุ่มหนึ่ง ได้รับการคุ้มครองโดยกองกำลังรัฐบาล ถ้าหากเฮ่อจื่อชิวตกอยู่ในอันตราย นั่นก็น่าจะบ่ง
บอกว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กองกำลังรัฐบาลจะล้มเหลวในการปฏิบัติการในครั้งนี้ แล้วทำให้เฮ่อจือชิวพวกเธอเดือดร้อน…”
“แบบนี้ ฉันก็จะต้องให้ความสนใจกับสถานการณ์และข่าวในซีเรียเป็นอย่างมาก ดูในเวลาต่อไป มีข่าวคราวความล้มเหลวของการดำเนิน
งานของกองกำลังรัฐบาลหรือเปล่า”
ขณะที่เย่เฉินเต็มไปด้วยความสับสน เจ้าของแผงที่แผงทำนายดวงชะตาตรงข้ามพูดด้วยใบหน้าที่ด้วยเหยดหยามว่า: “ไอ้หนุ่ม ทำไม
นายไม่พูดแล้? ดูสัญญาลักษณ์แห่งการทำนายของนายนี้ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร้งั้นเหรอ? หรือว่าในสมองของนาย ตอนนี้กำลังครุ่นคิดว่า
เดี่ยวจะหลอกพวกเรายังไงเหรอ?”
จากนั้น เขาก็เยาะเย้ยอีกครั้ง: “ปัดโถ่ ฉันบอกตามตรง ถ้นายไม่เป็นก็ไสหัวออกไปให้ไกลหน่อย อย่าทำให้ฉันเสียเวลาขจัดปัญหาให้
คนอื่นเขา!”
มื่อเย่ฉินเห็นทำทางที่ได้ใจของเขา ในดวงตาก็เผยให้เห็นท่าทางของกิริยาอวดดีลืมตัว ก็พูดอย่างเยือกเย็นว่า: “เดิมที่ไม่อยากจะเสีย
เวลากับแก แต่ในเมื่อแกดื้อดึงขนาดนี้ งั้นฉันก็จะเสียเวลาคุยกับแกไม่กี่นาที ฉันว่าใบหน้าของแกอัตคัด ลิขิตให้ชะตาต้องลำบากทำงานหนักไป
ตลอดชีวิต งไปกว่านั้นลิขิตให้เป็นคนไม่เอาไหน คนอย่างนาย นอกจากหลอกลวงต้มตุ่น ไม่มีความสามารถอะไรที่แห้จริง แก่ตัวไปจะต้องน่า
สั่งเวชเป็นพิเศษ”
“ดังนั้น ฉันขอเตือนแกว่าอย่าได้หลอกลวงตลอดทั้งวัน อายุมากขนาดนี้แล้ว หางานที่มั่นคงเป็นทางการ ก็สามารถช่วยให้หลุดฟันจาก
ความยากลำบากของชีวิตที่ขัดสนได้”
ชายชราคาดไม่ถึงว่ ตัวเองมองดูเรื่องตลกของเย่ฉิน แต่ย่เฉินกลับย้อนมาเยาะเย้ยตัวเอง
ที่สำคัญกว่านั้นคือ หมอนี่พูดถูกจริงๆ
ตลอดชีวิตนี้เขาลำบากมาไม่น้อย
สาเหตุหลักเป็นเพราะว่า ตอนที่เขาเป็นวัยรุ่นก็ตาสูงแต่ไม่มีฝีมือและทะเยอทะยานเกินตัว ยิ่งไปกว่านั้นใจคต และยังติดคุกมาหลายปี
ดังนั้น แทบจะไม่มีงานอะไรที่เขาสามารถทำได้เป็นเวลานาน
ทำอะไรก็ไม่ได้ยาวนาน ก็ไม่ต้องพูดถึงว่ามีเงินเก็บอะไร ดังนั้นตลอดชีวิตนี้ของเขา แทบจะไม่ได้สร้างความดีความชอบแม้แต่น้อย
ไม่เพียงแค่ตัวของเขาเองเสียเวลาไปทั้งชีวิต ลูกหลานของเขาก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จ
ตอนนี้ลูกหลานแต่ละคนก็เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว แต่ก็ยากจนข้นแค้นเป็นอย่างมาก
เขาอายุมากขนาดนี้ยังต้องออกมาหลอกลวงต้มตุ่น อิกด้านหนึ่งจะต้องเลี้ยงตัวเองและภรรยา อีกด้านหนึ่งก็หวังว่าสามารถให้เงินสมทบ
กับลูกๆได้บ้าง