ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2550
บทที่ 2550
นี่เป็นเรื่องดีสำหรับเย่เฉิน เพราะว่าถ้าวันนี้อากาศแจ่มใส โอกาสที่เขาจะโดดร่มลงไปตอนกลางวัน แทบจะเป็นศูนย์
ดังนั้นเขาจึงมั่นใจ ที่จะโดดลงไปใกล้ฐานของอีกฝ่ายมากขึ้น
รอให้วาซิล นับถึงสามวินาทีสุดท้าย เยเฉินก้าวออกมาริมประตูเครื่องบิน วาซิลยิ่งกังวลมากขึ้น เขาพูดเสียงดังว่า “3 2 1 โดด!”
เย่เฉินหันมาบอกทุกคน “ทุกท่าน อีก 6 ซั่วโมงเจอกัน!”
พูดจบ เขาโดดออกจากประตูเครื่องบิน อย่างไม่ลังเล ตัวเขาโดดเข้าไปในชั้นเมฆหนา
เย่เฉินเพิ่งโดดรมลงไป เขารู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง
บนความสูงห้าพันกว่าเมตร อุณหภูมิต่ำกว่าพื้นดิน 30 องศาเซลเซียส ตอนนี้อุณหภูมิบนพื้นดินน่าจะประมาณ 15 องศาเซลเซียส ดังนั้น
อุณหภูมิรอบตัวเย่เฉิน น่าจะต่ำกว่า 15 องศา
แต่นี่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา ตอนนี้สมาธิของเขาจดจ่ออยู่กับการรักษาทาทางของร่างกายให้คงที่ ไม่ให้สูญเสียการควบคุม ขณะที่
กำลังดิ่งลงด้วยความเร็ว
ตอนนี้ตัวเขาอยู่ท่ามกลางเมฆหนา ดั่งนั้นเขาจึงมองไม่ห็นสถานการณ์ด้านล่าง ยังดีที่ได้ยินเสียงเตือนของวาซิลจากหูฟัง “คุณชายเย่
ระดับการดิ่งลงกับทิศทางมั่นคงแล้ว ประมาณ 50 เมตรต่อวินาที่ คุณรักษาระดับเอาไว้ อีกหนึ่งนาทีครึ่ง น่จะถึงระดับที่สามารถดึงรมได้อย่าง
ปลอดภัยครับ”
เย่เฉินตะโกนว่า “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว!”
หลั่งผ่านไป 10 วินาที่ ตัวของเย่เฉินผ่านก้อนเมฆออกมา
ตอนนี้ เม็ดฝนจำนวนเล็กน้อยเริ่มควมแน่นภายใต้เมฆ มันใกล้จะกลายเป็นฝนแล้ว
เย่เฉินมองเห็นทิวเขายาวสุดลูกหูลูกตาด้านล่าง จะบรรยายทิวเขาในตะวันออกกลางยั่งไงดีล่ะ มองออกไปเหมือนสีเหลืองอร่ามทั้งแถบ
เพราะเป็นที่ราบสูง บนยอดเขาสูงบางส่วน ยังมีหิมะขาวโพลนอยู่
เย่ฉิยังมองเห็นอย่างเลือนรางว่าจุดที่ตัวเองลง เป็นหมู่บ้นธรรมดาๆ ในหุบเขาที่อยู่ข้างล่าง ถึงจะอยู่ใกลมาก แต่เขามองเห็นว่า ที่ฟัก
อาศัยของหมู่บ้าน เป็นครงสร้างเดียวกันทั้งหมด คือเป็นบ้านดินลักษณะเตี้ยๆ เห็นได้ซ้ตว่าพวกเขายากจนขนาดไหน
เมื่อเริ่มเข้าใกขึ้นเรื่อยๆยเฉินเห็นหมู่บ้านแห่งนี้ ถูกประกบไว้ด้วยภูเขาทั้งทางทิศตะวันออกและตะวันตก ส่วนทางทิศใต้และทิศเหนือมี
ทางเข้าออกหมู่บ้าน
และบนทางเข้าออกหมู่บ้น ทางทิศใต้และทิศเหนือ มียานเกราะจอดอยู่จำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังมีแนวตั้งรับในการทำสงครามกับเป้ายิงที่ทำ
จากดิน ที่มนุษย์สร้างขึ้น เห็นได้ชัดว่าทางเข้าออกทั้งสองทาง เป็นความสำคัญลำดับต้นๆ ของกองกำลังฝ่ายค้านติดอาวุธที่ประจำการอยู่ที่นี่
ส่วนตรงกลางหมู่บ้าน มีลานเล็กๆ อยู่แห่งหนึ่ง บนลานมีเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ จอดอยู่ 4 ลำ
นอกจากนี้ บนยอดเขาทั้งสองด้าน ยังสามารถห็นป้อมสนามและหอสั่งเกตการณ์ที่นุษย์สร้างขึ้น เห็นกิจกรรมของคนที่อยู่ในป้อม
อย่างไม่ค่อยซัดเจนเท่าไร
ย่เฉินใช้สมองตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เขาเพียงคนเดียว ต้องแอบเข้าไปในสถานที่ของอีกฝ่ายแบบเงียบๆ เพราะฉะนั้นไม่สามารถเลือก
ทางเข้าออกที่ทิศเหนือและทิศใต้ได้
ทางที่เหมาะจะลอบเข้าไป คือต้านข้างของภูเขาทางทิศตะวันตกและตะวันออก
สำหรับฝ่ายค้านที่ประจำการอยู่ที่นี่ พวกเขารู้ดี ทหารของรัฐบาลไม่มีความสามารถ ในการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ ถ้าจะโจมตีพวก
เขาจริงๆ โอกาสเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ การโจมตีทางบก
ทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นภูเขาทั้งหมด ไม่มีทางที่สามารถเดินได้ ถึงทหารจะใช้วิธีเดินเท้าเข้ามาจากทางนี้ มีระดับความยากสูงมาก
ไม่ต้องพูดถึงพวกอาวุธหนักเลย
เพราะฉะนั้นถ้าทหารรัฐบาลจะโจมตีจริง คงเข้ามาได้เพียงทางทิศเหนือและทิศใต้ สองทางเข้าออกนี้เท่านั้น
เพราะเหตุนี้ การป้องกันของฝ่ายค้าน ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกค่อนข้างอ่อนแอ มีทหารประจำการ และอาวุธหนักรวมไปถึง
ขีปนาวุธอยู่ไม่มาก
ถ้าแอบเข้าจากทางนี้ เย่เฉินมั่นใจว่าจะไม่โดนจ๋มได้ ถึงโดนจัได้ก็ไม่นำจะเป็นอันตราย เพราะการป้องกันทางอากาศอ่อนแอมาก
กระสุนไม่เพียงแต่จะยิ่งได้ไม่สูง แรงศูนย์ถ่วงที่ยิงออกไป จะกลายเป็นเส้นโค้ง
สำหรับขีปนาวุธ ถึงสิ่งนี้มีพลังในการทำลายล้างสูง แต่มันใช้ยิงเครื่องบิน ไม่สามารถใช่ยิงมนุษย์ได้ เพราะฉะนั้นมันแค่ของไร้ค่าสำหรับ
เย่เฉิน!
ตอนนี้ เสียงของวาซิลดังออกจากหูฟังของเย่เฉิน เขาพูดว่า “คุณชายเย ระดับการดิ่งของคุณในตอนนี้ อีก 10 วินาทีสามารถกระตุกร่ม
ได้ครับ!”
เย่เฉินมองตัวเลขบนนาฬิกาข้อมือ หลัง 10 วินาที ระดับความสูงที่จะกระตุกร่ม อยู่ประมาณ 500 เมตร เพื่อความไม่ประมาท เขาเลือกจุด
ลงตรงไหล่เขาด้านข้าง ทางด้านทิศตะวันออก จะได้เลี่ยงป้อมสนามบนยอดเขาได้ ด้งนั้นเขาจึงพูดว่า “ฉันอยากกระตุกร่มตอนความสูง 200
เมตร”
“200 เมตรเหรอครับ” วาซิลโพล่งออกมา “กระตุกร่มในความสูงแบบนี้ อย่าว่าแต่คุณจะลงตรงป้อมสนามของอีกฝ่ายเลยครับ แค่ระดับ
การดิ่งของคุณก็ป้องกันไม่ทันแล้วครับ เมื่อร่างกายแบกรับน้ำหนักตอนลงสู่พื้น น่าจะราวๆ ตึก 7-8 ชั้น การโดดลงไปโดยไมใส่เครื่องป้องกัน
อะไรเลย อันตรายถึงชีวิตเลยนะครับ!”