ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2577
บทที่ 2577
เมื่อเย่เฉินเห็นคามมิตเดินขึ้นมันไดแบบกะเผลก เขารู้สึกสงสัในใจ จึงเอ่ยปากถาม “พี่ขาย เคยได้รับบาดเจ็บที่ขาข้างนี้เหรอ”
คามมิตหันมามองเขา แล้วมองขาซ้ายของตัวเอง จากนั้นจึงพูดอย่างหดหู่ว่า “ครั้งหนึ่งขาซ้ายของฉัน เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างสู้
รบ โดนสะเก็ดระเบิดน่ะ ตอนนั้นมีทางเดียวคือตัดขา แต่โชคดีที่ต่อมา ยังหาวิธีรักษาขาข้างนี้เอาไว้ได้ แต่ขาข้างนี้บาดเจ็บ จนไม่สามารถกลับ
ไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก ดังนั้นหลังการรักษา กล้ามเนื้อล็บอย่างรุนแรง การใช้งานลดลงไปมาก มันเลยเตี๋ยงอย่างนี้…
พูดพลาง เขาอดหดหู่ใจไม่ได้ “สถานที่อย่างซีเรีย ความลำมากของจอมพลพิการ ยากที่จะอธิบายได้!”
ถึงไม่ได้พิการจนถึงขั้นรุนแรง แต่คามมิตเป็นผู้สั่งการระดับสูง ของกองกำลังติดอวุธขนาดใหญ่ การที่ขาข้างหนึ่งพิการ มีผลกับภาพ
ลักษณ์ บารมิความน่าเชื่อถือของเขาเป็นอย่างมาก
แต่ผลกระทบร้ายแรงที่สุด คือความมั่นใจของเขาลดลงไปมาก
ครั้งหนึ่ง คามมิตยังเป็นจอมพลที่มีความทะเยอทะยาน ปรารถาที่จะสร้างความสำร็จ ท่ามกลางการต่อสู้ที่วุ่นวาย ถึงขนาดหวังว่าจะได้
เป็นผู้สั่งการสูงสุด ในกองกำลังฝ่ายค้าน
แต่หลังจากที่ขาพิการ ส่งผลกระทบกับเขามาก รวมถึงความมั่นใจของเขาก็ถูกทำลายลงด้วย
เดิมที่กองทัพของเขามีเกือมหมื่นคน เป็นหนึ่งในกองกำลังของฝ้ายค้าน ที่แข็งแกร่งมาก แต่เมื่อคนใกลัชิดเห็นขาเขาพิการ ความมั่นใจ
ถูกทำลาย เลยใช่โอกาสนี้ ปลุกระดมให้ลูกน้องส่วนหนิ่ง ออกไปนหยัดด้วยตัวเอง ทำให้กำลังของเขาลดลงอย่างกะทันหัน
บางครั้งความจริงช่งนำาเวทนายิ่งนัก ตอนใครคนหนึ่งมีบารมิ มิอำนาจนำากรงขาม ลูกน้องต่งพากันเชื่องอย่างกับแมว ภักดีอย่างกับ
สุนัข
แต่มื่ออำนาจของใครคนนั้นลดลง ร่างกายเสื่อมโทรม ลูกน้องก็เริ่มมีใจคิดคดทรยศ
การยินหยัดด้วยตัวเอง นับว่ามิคุณธรรมมากแล้ว แต่พวกคนที่ไร้คุณธรรม ถึงกับฉวยโอกาสฆ่หัวหน้าตัวเอง เพราะต้องการเข้ามาแทนที่
เรื่องแบบนี้ เห็นบ่อยจนชินตามาตั้งแต่สมัยโบราณ
จักรพรรดิซ่งไห่จูหรือจ้าวควงขึ้น เดิมหอยู่ในยุคห้าราชวงศ์ ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมามีอำนาจ ในราชวงศ์โจวยุคหลัง หลังจากโจวซื่อจง
สวรรคตในตอนนั้น ทิ้งให้บุตรชายวัย 7 ขวบ โจวกังตื้ ขึ้นครองบัลลังก์ อมาเพียงชั่วพริบตา เกิดเหตุรัฐประหารเฉินเฉียว บรรดานายทัพ
พร้อมใจกันสนับสนุนจ้าวควงอื่นขึ้นสู่บัลลังก์มังกร
เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นนับไม่ถ้วนในประวัติศาสตร์
คามมิตที่อยู่ในซีเรียก้ไม่ต่างกัน
เศรษฐกิจในที่แบบนี้ลำหลังมาก อีกทั้งยังมิภูเขามากมาย ระดับยานยนต์ของทหารต่ำมาก ส่วนใหญ่ในการขนส่งยังต้องใช้การเดินเท้า
และพวกสัตว์ เช่น ม้า ล่อ ในสถานการณ์เช่นนี้ ความพิการของคามมิต จึงหนักหนาขึ้นเรื่อยๆ
ตอนทหารสู้รับกันตามแนวภูเขา เขาไม่สามารถข้าไปปลุกใจทหารแถวหน้าได้
ตอนกองกำลังเริ่มเคลื่อนไหวบริเวณเขตภูเขา เขาก็ไม่สามารถเข้าร่วมใด้
เดิมที่ทหารของฝ่ายค้าน เป็นพวกประซาชน เกิดในสถานที่ล้ำหลัง ยิ่งต้องการผู้บังคับบัญชานำทัพ หรือเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย แต่ขาของ
คามมิตกลับกลายเป็นอุปสรรคใหญ่
ตอนนี้คามมิตเดินกะเผลกออกมาจากห้องใต้ดิน โดยมีเย่เฉินกับเฮ่อจื่อซิวเดินตามหลังมา
หลังจากออกมา เห็นเฮลิคอปเตอร์สหนึ่ง จอดอยู่ในลาน ส่วนพวกทหารติดอาวุธ พากันแยกย้ายไปหมดแล้ว
กระสุนที่ติดไว้ด้นล่างทั้งสองข้างของเยลิคอปเตอร์ ถูกถอดออกไปหมดแล้ว กระสุนที่มีกำลังลายล้างสูง ถูกถอดออกไปจนหมด
การที่เย่เฉินให้พวกเขาถอดกระสุนออกทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้คามมิตเกิดเปลี่ยนใจ ตอนที่ตัวเองถึงที่หมาย
เพราะสิ่งที่ตระกูลเย่เตรียมเอาไร้ ล้วนเป็นเครื่องบินพลเรือน เฮลิคอปเตอร์ที่มารับตัวเอง ต้องเป็นเชลิคอปเตอร์พลเรือนเช่นกัน
เฮลิคอปเตอร์พลเรื่อนเป็นอะไรที่เปราะบางมาก เมื่อเทียบกับเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ แค่ปล่อยกระสุนออกมา ก็คงโดนโจมตีจนพรุน
ตอนนี้ มีนักบินยืนอยู่ข้างเฮลิคอปเตอร์ เมื่อเขาเห็นคามมิต เย่เฉิน และเฮ่อจื่อชิว สองคนแปลกหน้าเดินออกมาด้วยกัน จู่ๆ เขารู้สึกว่าผิด
ปกติ และริบจับปีนพกตรงเอวทันที
คามมิตรีบพูดว่า “ทิ้งปีนลง สองท่านนี้คือเพื่อนฉัน!”
เมื่อนักบินได้ยิน ถึงจะรู้สีกสงสัย แต่ก็ไม่กล้านุ่มบ่าม เขารีบโยนปีนพกลงพื้น
คามมิตสั่งว่า “รีบสตาร์ทเฮลิคอปเตอร์!”
นักบินรีบขึ้นไปในห้องนักบินเพื่อสตาร์ทเครื่อง ส่วนคามมิต เย่เฉิน และเอจือชิว เข้าไปในห้องโดยสาร
หลังเข้ามาในห้องโดยสาร เย่เฉินกดปุ่มโทรฉุกเฉิน บนนาฬิกาข้อมือที่วาซิลให้เขามา
โดรงสร้างพื้นฐานของซีเรีนั้นแย่มาก เมื่อสู้รบก็เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง นอกจากในเมือง ที่อื่นแทบจะไม่มีสัญญาณ ดังนั้นแม้แต่มือถือ
โรมมิ่งระหว่างประเทศ ก็ไม่มีบริการที่นี่ สื่อกลางเดียวที่สามารถสื่อสารได้คือดาวเทียม
โชคดีที่นาฬิการุ่นนี้มีอุปกรณ์สำหรับพลร่มโดยเฉพาะ มีฟังก์ชั่นการโทรผ่านดาวเทียม
เมื่อโทรติด เย่เฉินได้ยินเสียงหานกวางเย่า “คุณชาย ฝั่งนั้นราบรื่นดิไหมครับ”
เย่เฉินตอบว่า “ราบรื่นดี อีกอย่างยังรวดเร็วกว่าที่คิดไว้ พวกนายรีมเตรียมเฮลิคอปเตอร์ ไปยังจุดนัดหมายที่นัดกันก่อนหน้านี้ อีก
ประมาณ 15 นาที ฉันน่าจะถึง”
หานกวางเย่าพูดอย่างตกตะลึง “คุณชาย ทางภูเขาสิบกว่ากิโลมตร คุณจะถึงเร็วขนาดนั้นได้ยังไง!”
เย่เฉินหัวราะแล้วพูดว่า “คามมิต จอมพลฝ่ายค้าน จัดเฮลิคอปเตอร์ไปส่งฉันด้วยตัวเอง”
เมื่อหานกวางเย่าได้ยิน หันใดนั้น เขาคิดว่าเย่เฉินต้องควบคุมคามมิตได้แล้วแน่ๆ เขาตกใจมาก จนไม่รู้จะตอบเย่เฉินยังไง
เฉินจี่อข่ายที่อยู่ข้างๆ รีบถามว่า “คุณหาน ถ้าเราบินไปตอนนี้ ใช้เวลานานแค่ไหน”
หานกวางเย่าเงตั้งสติได้ และพูดว่า “ผมจะรีบเตรียมเฮลิคอปเตอร์เดี๋ยวนี้ อีก 5 นาทีออกเดินทาง น่าจะประมาณ 40 นาทีครับ”
“โอเค” เยเฉินพูดว่า “งั้นฉันรอพวกนายตรงที่นัดหมายกันไว้”
หานกวางเย่ารีบพูดว่า “ครับคุณชาย เราจะออกเดินทางเตี๋ยวนี้!”
เมื่อวางสาย เย่เฉินบอกตำแหน่ง GPS ของจุดหมายปลายทาง ให้คามมิตบอกนักบิน หลังจากนักบินกำหนดตำแหน่งเรียบร้อย คามมิต
ดกับเย่เฉินว่า “น้องเย่ นักบินเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว สามารถขึ้นบินได้ทุกเมื่อ รอให้นายออกคำสั่ง
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดว่า “งั้นให้นักบินเอาเครื่องขึ้นเลย”
“โอเค!”
คามมิตสั่งนักบินให้นำเครื่องขึ้น ผ่านหูฟังบนเครื่อง