ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2583
บทที่ 2583
สำหรับเย่เฉินแล้ว ยาช่วยหัวใจแค่เม็ดเดียวไม่ได้มีค่าอะไรนัก
จองแบบนี้ถ้าอยากผลิตในจำนวนมาก ไม่กล้าพูดว่าสามารถนำเข้าสายการผลิตได้โดยตรง แต่วันหนึ่งผลิตสักแปดสิบหรือหนึ่งร้อยเม็ด
กระทั่งสองร้อยเม็ด เป็นเรื่องง่ายมาก
ที่ไม่สามารถผลิตได้มากขนาดนั้น เหตุผลที่ไม่ได้ผลิตในจำนวนมากก็เพื่อให้แน่ใจว่าของสิ่งนี้จำมีค่ ในสายตาของคนภายนอก
ดั่งนั้นการมอบให้คามมิตอย่างไม่ใส่ใจนั่น สำหรับเขาแล้ว แทบจะเท่ากับกษตรกรที่มีไร่ผลไม้เป็นหมื่นหมู่ มอบแอปเปิลให้กับผู้อื่น ไม่ใช่
เรื่องที่ควรค่าแก่การพูดถึง
แต่ว่า ของสิ่งนี้สำหรับคามมิตแล้ว กลั่บมีความหมายมาก
ในโลกที่สงบสุขไร้ซึ่งสงคราม คนพิการขาคนหนึ่ง พบเจอกับปัญหามากมาย กระทั่งเขายังถือว่าหารฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย เป็นความ
ปรารถนาสูงสุดในชีวิต
ยิ่งไปกว่านั้นคามมิตแม่ทัพผู้พยายามเอาชีวิตรอดในเปลวไฟแห่งสงคราม
วันนี้เย่เฉินรักษาขาของเขาหายข้างหนึ่ง เท่ากับช่วยชีวิตเขาไว้
มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง คามมิตจึงสามรถนำหารไปต่อสู้ และแม้กระทั่งนำทหาร เพื่อให้ทหารสามารถเชื่อฟังคำสั่งได้
ดังนั้น เขาจึงพูดกับเย่เฉินอย่างซาบซึ้งว่า”น้องชาย! นายเป็นผู้มีบุญคุณของฉัน นอกเหนือจากพ่อแม่ของฉัน! หลังจากนี้ไปขอแค่นาย
มีอะไรให้พี่ชายอย่างฉันช่วย ฉันก็จะไม่ปฏิเสธแม้จะตายเป็นหมื่นๆครั้ง! ”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า”มีคำพูดของพี่ชาย งั้นยาวิเศษของผมก็ไม่ได้ให้เปล่าๆแล้วล่ะ”
คามมิตพูดอย่างจริงจังว่า”นับจากที่ฉันเสียขาไป กองทัพจากคนหนึ่งหมื่นกว่า ลดน้อยเหลือสองพันนาย ความจริงตอนนั้นฉันไม่มีจิต
วิญญาณในการต่อสู้อย่างที่เคยเป็นมาก่อน มักคิดว่าขอแค่สามารถมีชีวิตไปได้วันๆก็พอแล้ว ในอนาคตไปเลือกเข้ากองกำลังที่เชื่อถือได้ ถือว่า
เป็นสิ่งที่สามารถรับประกัน….. .
เมื่อพูดถึงตรงนี้ คามมิตก็เศร้าสร้อย และทันใดนั้นก็มีการแสดงออกที่ดุร้ายขึ้นเล็กน้อยในดวงตาของเขา
น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นขึ้น ตะโกนเสียงดัง”แต่ว่า! ในเมื่อสวรรค์มอบโอกาสให้ฉันแล้ว ให้ฉันได้พบกับน้องชายที่เป็นคนสูง
ศักดิ์อย่างนาย แล้วนายยังช่วยรักษาขาของฉันให้หายอีก! ฉันคามมิต นับตั้งแต่นี้ไป จะเป็นคนจมไม่ลงเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้! ฉันจะต้อง
พยายามอย่างเต็มที่ เปลี่ยนกองกำลังของฉันให้แข็งแกร่งขึ้น อาจจะมีสักวัน ฉันคามมิตจะสามารถกลายเป็นราชาและแม่ทัพที่แห้จริงได้!”
พูดจบ เขาก็มองไปที่ย่เฉิน แล้วกล่าวอย่างจริงใจว่า”น้องชาย! ถ้าเกิดวันหนึ่งฉันได้เป็นราชาขึ้นมา ตอนที่ฉันทำพิธีราชาภิเษก น้อง
ชายจะต้องมาเป็นพยานให้กับฉันนะ! ”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า”ผมคิดว่าพี่มีชะตากรรมของความมั่งคั่งและความสูงส่ง ผมคิดว่าคงใช้เวลาไม่นานจะต้องรอจนถึง
วันนั้นแน่นอน”
คามมิตหัวเราะซ่าๆ แล้วยื่นมือไปทางเย่เฉิน พลางพูดอย่างตื่นเต้นว่า”น้องชาย งั้นฉันก็จะยืมคำพูดของดีๆของนาย! ”
เย่เฉินยิ้มเบาๆ ยื่นมือไปจับมือกับเขา แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า”นอกจากพี่ชายจะสู้รบแล้ว จะต้องมีความรู้ทั้งด้านเศรษฐกิจด้วย สังคมใน
ทุกวันนี้ รากฐานเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดโครงสร้างพื้นฐาน ขอแค่พี่มีเงินทุนที่มากพอล ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่าว่าแต่หนึ่งหมื่นคนเลย หนึ่งแสน
หรือหนึ่งล้านคน มันไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย”
คามมิตพูดอย่างจริงจัง”น้องชายพูดถูก จากนี้ไปฉันจะต้องเอาจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ออกมา120% ดึงกองทัพขึ้นมาใหม่ให้ได้!”
ระหว่างที่พูด ก็มีเสียงเฮลิคอปเตอร์คำรามมาแต่ไกล
บนห้องฟ้าที่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร แสงไฟที่สว่างจ้าสองดวงเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
คามมิตรู้แล้ว นี่คือเฮลิคอปเตอร์ที่มารับเย่เฉิน ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเศร้าๆว่า”น้องชาย นายรีบร้อนเกินไปแล้ว ฉันยังไม่ทันได้แสดง
มิตรภาพของเจ้าบ้านเลย และยังไม่ได้ต้อนรับนายดีๆด้วยซ้ำ น่าละอายจริงๆ!
เย่เฉินพูดอย่างยิ้มๆว่า”ไม่เป็นไรหรอกครับ จากนี้ไปยังมีโอกาสอยู่ครับ”
พูดจบ เย่เฉินก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงพูดขึ้นมาว่า”จริงด้วยพี่ชาย ไฟซาลพวกเขา ไม่ได้หักหลังพี่จริงๆหรอกนะครับ ผมแค่ใช้กลอุบายยาง
อย่าง เพิ่มคำแนะนำทางจิตวิทยาให้พวกเขาไปเล็กน้อย ดังนั้นหลังจากที่พี่กลับไปแล้ว อย่าทำให้พวกเขาลำบากใจเพราะความโกรธเลย อย่าพึ่ง
ให้พวกเขารับตำแหน่งสำคัญในตอนนี้ก็พอแล้วครับ”
คามมิตเข้าใจในทันที จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า”ถึงว่าล่ะพวกเขาแต่ละคนฟังคำสั่งของนายทั้งหมด ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง……
พูดจบ เขาก็ยืนยันกับเย่เฉินว่า”น้องชายวางใจเถอะ ฉันจะไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจหแน่นแน ยังมีคนอมริกันเจ็ดคนนั้น ฉันจะทำตามที่
นายพูด ไว้ชีวิตพวกเขา”