ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2588
บทที่ 2588
ถึงแม้ทุกคนจะเรียนมาไม่เยอะ แต่ในทุกวันที่ต้องแบกปืนสู้รบ ความรู้พื้นฐานยังคงมีอยู่บ้าง ในกรณีของคามมิต นับประสาอะไรกับซีเรีย
ที่ขาดทั้งยาและเวชภัณฑ์ ถึงไปยังประเทศที่พัฒนาและเก่งที่สุดในโลก ก็ไม่มีทางรักษาหายได้
แต่ว่า ความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า จอมพลที่ขางอยมาตลอด ตอนนี้กลับก้าวเดินราวกับโบยบิน!
แน่นอนว่าคามมิตเห็นปฏิกิริยาของทุกคนอยู่ในสายตา
ถึงแม้เขาจะดีใจจนแทบอยากจะตะโกนแค่ไหน แต่เพื่อรักษาภาพพจน์ของตัวเอง และเพื่อให้ตัสามารถควบคุมกองทัพของตัวเองได้
ขายังคงต้องอดกลั้นความตื่นต้นภายในใจไว้ แสร้งทำเป็นก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเรียบเฉย แล้วเข้าไปยังชั้นใต้ดิน
พอเข้ามาในชั้นใต้ดิน เขาก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า”ฟซาล ฉันส่งคุณเย่กับคุณเฮ่อไปแล้ว คุณเย่บอกกับฉันถึงเหตุการณ์ของคุณแล้ว คุณ
วางใจเถอะ ผมขอรับประกันด้วยชีวิตของผม ขอแค่คุณเปิดประตูออกมา ผมจะไม่ทำให้คุณลำบากใจ คุณยังสามารถกลับไปประจำการยัง
กองพลหุ้มเกราะของคุณได้ เหมือนกับคนอื่นๆ! ”
ไฟซาลพูดอย่างตระหนักว่า”ไม่ว่าผมจะเป็นหรือตายมันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผมต้องทำให้แน่ใจก่อนว่าคุณเย่จากไปอย่าง
ปลอดภัย! ไม่เช่นนั้น ผมจะสู้กับคุณให้ถึงที่สุด! ”
คามมิตแอบรู้สึกประหลาดใจ คิดในใจว่า”วิธีกรสะกดจิตของน้องชายเย่ เก่งกาจจริงๆ! ไฟซาลไม่สนใจแม้แต่ความเป็นความตายของ
ตัวเอง และคิดแต่จะจงรักภักดีน้องเย่ ถ้าฉันมีความสามารถแบบนี้ ก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการรวมฝ่ายค้าน……
หลังจากสะท้อนใจ คมมิตก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า”ไฟซาล หรือคุณสงสัยว่าผมไม่หวังดีต่อน้องเย่? คุณไม่คิดดูบ้างล่ะ ผมจะเป็นคู่ต่อสู้
ของเขาได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้น ผมจะต่อต้านเป็นปริปักษ์กับเขาทำไม? คุณรู้อะไรไหม น้องเย่เป็นผู้มีพระคุณของผม เขาเป็นคนรักษาขาของ
ผมให้หาย!
ไฟซาลถาม”คุณบอกว่าคุณเยรักษาขาของคุณหายงั้นหรอ? ! ”
คามมิตพูดทันทีว่า”หรือผมสามารถโกหกคุณได้งั้นหรอ? ถ้าไม่เชื่อคุณเปิดประตูมาดูสิ คุณไม่ต้องเป็นกังวลหรอก ทั้งทางเดินมีแต่ผมคน
เดียว”
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูเหล็กก็เปิดแง้มออกมา ไฟซาลมองลอดผ่านช่องเล็กๆ พบว่าทั้งทางเดินมีแค่คามมิตคนเดียว อีกทั้งในมือ
ว่างเปล่า ไม่มีอาวุธใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้น ไฟซาลจึงถอนหายใจเบาๆ แล้วถามขึ้นมาว่า”เมื่อกี้คุณพูดจริงหรอครับ? ”
คามมิตชูสองมือขึ้น แล้วค่อยๆเดินไปข้างล่าง เดินไปด้วยพูดไปด้วยว่า”คุณดูเองสิ ขาของผมหายดีแล้วใช่ไหม? ”
ไฟซาลตกใจ เพราะในใจของเขาถูกสะกดจิต ดังนั้นความเคารพเย่เฉินจึงพรั่งพรูออกมา แล้วอุทานขึ้นมาว่า”บนโลกใบนี้ เกรงว่าคงจะมี
แค่คุณเย่เท่านั้นที่มีความสามารถนี้! ”
คามมิตพยักหน้า แล้วถามเขาว่า”ดังนั้นคุณเชื่อคำพูดของผมรียัง? ”
ไฟซาลพูด”ผมเชื่อครับ”
พูดจบ เขาก็เปิดประตูออกมา แล้วพูดว่า”จอมพลคามมิต หวังว่าคุณจะรักษาคำพูดนะครับ”
คามมิตพูดอย่างหนักแน่นว่า”คุณวางใจเกอะ เมื่อผมพูดแล้วผมก็ต้องทำให้ได้! ”
พูดจบ เขาก็ก้าวเข้าไปในชั้นใต้ดิน แล้ชี้ไปทางประตูเหลีกอีกประตู พูดขึ้นมาว่า”ไฟซาล ผมรู้ว่าคุณจงรักภักดีต่อน้องเย่ แต่น้องเย่ไม่
ได้กลับมาด้วย หรือก่อนที่คุณจะสั่งการอะไรไป ผมหวังว่าคุณจะทำงานงานเดิมของคุณให้ดี”
ไฟซาลพยักหน้าแล้วพูดว่า”ไม่มีปัญหาครับ จอมพลคามมิต! ”
“ดี”คามมิตชี้ไปยังประตู แล้วสั่งว่า”เปิดประตูนี้ออก”
ฟซาลไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเปิดประตูเหล็กออกทันที
คามมิตก้าวเข้าไป ด้นในมีวัยรุ่นเจ็ดคนที่ตกใจกล้วเป็นอย่างมาก แต่ละคนอดที่จะขอร้องอ้อนวอนไม่ได้
คามมิตมองดูทั้งเจ็ดคนนั้น แล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า”ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับพวกคุณด้วย ผมรับปากกับน้องเย่แล้ว ว่าจะไม่
เอาชีวิตของพวกคุณทั้งเจ็ด และชีวิตของพวกคุณก็ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ!”
ทั้งเจ็ดคนเมื่อได้ยินดังนั้น จึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
ว้ยรุ่นที่เป็นคนอินเดียถึงกับร้องห้ถามขึ้นมาว่า”ท่านจอมพลครับ ขออนุญาตถามนะครับเมื่อไรจะปล่อยพวกเรากลับไปหรอครับ? ”
“กลับไป? “คามมิตโบกมือไปมา”ไม่ๆๆ จากนี้ไปพวกคุณทั้งเจ็ดคน จะต้องเป็นทาสอยู่ที่นี่ ขอแค่พวกคุณยังมีชีวิตอยู่ ก็ทำงานที่นี่ซะ
ตายไป ก็จะถูกฝังไว้ที่นี่ จะไม่มีโอกาสออกไปจากที่นี่ ตลอดชีวิต! “