ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2617
บทที่ 2617
ซูจือหยูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ในใจของเธอ ที่จริงมีความกเหิมที่จะได้สมดั่งใจหวัง รวมถึงจินตนาการถึงความคาดหวัง
ในใจเธอแอบคิดว่า: “แม้ว่าเรื่องวีรบุรุษช่วยสาวงามเช่นนี้ งดูแล้วเหมือนเป็นกรอบประเพณีเก่าๆที่น้ำเน่า แต่นั่นก็เพราะคนส่วนใหญ่ไม่มี
โอกาสเจอเรื่องแบบนี้ด้วย เมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ ถึงจะได้สัมผัสถึงความร้ายกาจที่อยู่เป้องหลังสิ่งนี้ เมื่อฉันคิดว่าเขาช่วยชีวิตฉัน
ไร้ ก็อดไม่ได้ที่สมยอมเขา….”
“สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ผู้มิพระคุณไม่ได้ช่วยฉันเพียงแค่หนึ่งครั้ง เขาช่วยฉันมาสองครั้งแล้ว! พี่ชายครั้งหนึ่ง แม่ครั้งหนึ่ง และน้องสาวพ่อ
เดียวกันแต่ต่างแม่คนนี้ที่อยู่เคียงข้างฉัน….
“บุญคุณที่ช่วยชีวิตเป็นสิ่งที่ยากจะลืมเลือนไปชั่ชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ช่วยเหลือมาหลายรอบแล้ว”
“เพียงแค่ ไม่รู้ว่าผู้มีพระคุณคิดอะไรกับฉันแบบนั้นบ้างไหม หรือว่า ตอนนี้เขายังโสดอยู่ไหมนะ?”
ในใจของซูจือหยุสับสนวุ่นวาย อยากถามเย่เฉิน แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มตันเอ่ยปากอย่างไร
เย่เฉินเป็นคนทำลายความเงียบก่อน
เขามองไปที่ตู้ใหชิงและพูดด้วยความเคารพ : “นำตู้ ช่วงนี้ให้ท่านและลูกสาวของท่านอยู่ที่ฉี่ก่อน และไม่อนุญาตให้ท่านติดต่อกับคน
ภายนอก ต้องขออภัยจริงๆ”
ตู้ไห่ซิงรีบกล่าว: “เย่เฉิน คุณอย่าพูดแบบนี้สิ ถ้ไม่ใช่คุณ และจือหยูคงไม่มีชีวิตรอดแล้ว จะใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยได้ยังไงล่ะ”
ขณะที่พูด เธอก็พูดเสริมอีกว่า: “ยิ่งกว่านั้นคุณไม่ให้เราติดต่อกับคนภายนอก ก็เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเรา เรื่องนี้นำเข้าใจเป็น
อย่างดี”
เย่เฉินยิ้มเบาๆ กล่าว: “นำาตู้เข้าใจก็ดีที่สุดแล้วครับ”
พูดจบ เขาก็พูดว่า: “ส่วนตอนนี้ แม้ว่ายังไม่แน่นอน หลังจากที่ตระกูลซูรู้ข่าวว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ ตระกูลซูยังจะลงมือจัดการคุณต่อหรือไม่
แต่พฤติกรรมก่อนหน้านี้ที่ตระกูลซูทำกับท่านก็ถูกผมเปิดผยออกไปแล้ว ผมเชื่อว่าตรามใดที่ตระกูลซูไม่บำคลั่งอย่างสมบูรณ์ ก็ไม่กล้าลงมือ
กับท่านอีกแล้วล่ะ”
ตู้ไห่ซิงเม้มปาก พยักหน้าเบาๆ กล่าว: “ทั้งหมนี้ก็ต้องขอบคุณคุณ ไม่อย่างนั้นนำและจือหยูต้องตายอย่างไม่รู้เรื่องแน่ …
เย่ฉินยิ้มกล่าวต่อ: “คุณนำครับ โตยหลักการแล้ว ท่านและคุณซูจื่อหยุออกไปอย่างอิสระได้แล้ว แต่ผมอยากขอบางสิ่ง อยากให้น๊
รับปากครับ”
ตู้ไห่ชิงรีบกล่าว: “เย่เฉิน คุณไม่ต้องเกรงใจนำาขนาดนี้หรอก มีอะไรจะขอก็รีบพูดมาเลย!”
เย่เฉินกล่าว: “ซูโสวเต้ากำลังจะถูกส่งไปยังซีเรีย ดังนั้นจะได้รับความสนใจของตระกูลชูเร็วๆนี้ และหายสาบสูญไปจากสายตาประชาชน
โดยสิ้นชิง ตระกูลซูจะพยายามอย่างต็มที่เพื่อนหาที่อยู่ของเขา ถ้าฉันปล่อยให้ท่านและคุณชูจากไป คนของตระกูลซูจะต้องปักใจเชื่อ
ว่าการหายไปของซูโสว่ต้าเกี่ยวข้องกับทั้ง 2 คน ถึงตอนนั้นหวังว่าทั้ง 2 คนจะเก็บความลับไว้ให้ผมได้”
ตู้ให้ชิงพยักหน้าโดยไม่ลังเลและพูดว่า: “เย่เฉินคุณวางใจเถอะ ฉันและจือหยู ไม่มิทางเนรคุณได้แน่ ถ้ามีคนถามถึงที่อยู่ของพวกเรา
สองสามวันนี้ ฉันก็จะบอกว่าฉันได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลลึกลับซึ่งไม่รู้จักตัวตนของเขา ถั่พวกเขาคิดว่ามีส่วนเกี่ยวซ้องกับการหายไปของ
ซูโสว่เต้า ก็ให้พวกเขาเดาเอาเองแล้วกัน ยังไงฉันก็จะไม่ยอมรับจนถึงที่สุด”
เย่เฉินคารวะตู้ให่ชิง และมองไปที่จือหยูอีกครั้ง กล่าวอย่างจริงจ้งว่า: “ก็ขอให้คุณซูช่วยด้วย”
จู่ ๆ เย่เฉินคุยกับซูจื่อหยู ทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
แต่เธอกลับส้บสนในหัวใจของเธอไม่มากก็น้อย
ยังไงซะเธอก็คือคนของตระกูลซู ถ้เย่เฉินถือว่าตระกูลซูเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขา เดินหน้าบุกโจมตีตระกูลซูต่อไปในอนาคต ตนเป็น
ทายาทของตระกูลซู มันยากจริงๆ
คิดไปคิดมา เธอถามเยเฉินด้วยเสียงต่ำ: “ผู้มีพระคุณ…ฉันตกลงตามคำขอของคุณ แต่ ขอถามคำถามคุณสักข้อได่ไหม?”
เย่เฉินพยักหน้า พูดอย่างใจกว้าง: “ไม่มีปัญหา คุณว่ามาสิ”
ซูจือหยูรวบรวมความกลำและถามเขาว่า: “ต่อไป คุณจะจัดการกับตระกูลชูอย่างไร? ทำต่อไปไม่หยุดหย่อน หรือว่าจะวางมือแค่นี้?”
เย่เฉินพูด: “จะวางมือหรือทำต่อ ต้องดูตระกูลซูและการตายของพ่อแม่ฉัน ว่ามีความเกี่ยวข้องกันมากน้อยเพียงใด”
ในอนาคต