ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2637
บทที่ 2637
เปิดถุงออก สิ่งที่อยู่ด้านในคือบรรจุภัณฑ์พลาสติกสองชิ้นที่แยกต่างหากไว้
ตาของเฮ่อจือชิวมองชุดสีดำสนิทที่เป็นลายลูกไม้ อายจนแทบจะไหม้ไปทั้งหน้า
แม้จะเดาได้อยู่แล้วว่าต้องเป็นชุดชั้นในแน่ๆ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสีดำและลายลูกไม้ด้วย
เฮ่อจือชิวไม่เคยใส่ชุดชั้นในที่มีลวดลายและโดดเด่นขนาดนี้ เธอเป็นพวกเน้นใช้งาน ชอบใส่พวกสีธรรมดา เนื้อผ้าสบายผิวมากกว่า ถึง
ยังไงในสายตาของเธอความสบายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
แต่ตอนนี้เย่เฉินซื้อมาแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่น เธอจึงได้แต่เปิดห่อออกและคิดในใจว่า “ไม่ว่ายังไงก็ใส่ออกไปก่อน ของส่วนตัวของฉันอยู่ที่
สหรัฐ เสื้อผ้าของใช้ส่วนหนึ่งอยู่ที่ซีเรีย กลับมาประเทศคราวนี้ไม่ได้เอาอะไรมาด้วย ได้แต่รอจนกว่าได้เจอพ่อแล้วค่อยหาซื้อมาเพิ่ม”
หลังจากนั้น เธอก็เปิดดูหนึ่งในชุดชั้นในที่เย่เฉินซื้อให้ด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ตัวนี้เอาไว้สวมท่อนบน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกหลังจากเฮ่อจือชิวเปิดดูก็คือดูขนาดก่อน
เธอไม่ค่อยชอบใส่เสื้อผ้าที่โชว์สัดส่วนมาก จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกเข้าใจผิดว่าหุ่นแบน แต่ในความเป็นจริงเธอที่สูงถึงร้อยเจ็ดสิบเรียก
ได้ว่าหุ่นร้อนแรงสุดๆ นูนทั้งหน้าทั้งหลังเป็นเพียงเรื่องพื้นฐาน เส้นโค้งเอว S ที่อยู่ทุกที่ดเทียมกับเหล่านางแบบแนวหน้าได้เลยล่ะ
และเพราะหุ่นของเขาเฮ่อจือชิวร้อนแรงเกินไป ตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัยก็ดึงดูดคนน่ารังเกียจที่เข้ามาจีบเพราะหุ่นดีจำนวนมาก บางคนถึง
ขนาดทำตัวติดเป็นต้งเม ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเรียนและการใช้ชีวิตของเธอ เพราะฉะนั้นตั้งแต่นั้นมาเธอจึงไม่เคยใส่เสื้อผ้าที่โชว์
สัดส่วนอีกเลย
อย่างเช่น หน้าร้อนเธอพยายามสวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่ใส่กระโปรงเหนือเข่าเด็ดขาด จะได้ไม่เป็นการเผยขาเรียวยาวสองข้าง
ส่วนหน้าหนาว เธอจะแต่งตัวให้บวมป่องไว้ก่อน และมองไม่เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย
เย่เฉินตกหลุมพรางนี้แหละ
ดูด้วยตาเหมือนว่าเฮ่อจือชิวหุ่นไม่ได้ดีอะไร เลยคาดว่าเธอไม่มีหน้าอกหน้าใจ จึงซื้อคัพเอที่เล็กที่สุด
แต่หุ่นที่แท้จริงของเฮ่อจือชิวอย่างน้อยๆใหญ่กว่านั้นสองขนาด…..
ดังนั้น เมื่อเธอลองใส่ชุดชั้นในที่เย่เฉินซื้อมาก็หมดคำพูดไปในบัดดล และพึมพำกับตัวเอง “ฉันพรางหุ่นของตัวเองได้ดีมากขนาดนั้นเลย
หรอ ถึงได้โดนประเมินต่ำไปได้ง่ายขนาดนี้ นี่ นี่จะให้ใส่ได้ยังไงกันล่ะเนี่ย… …ถ้าฝืนใส่คงโดนรัดจนหายใจไม่ออกแน่เลย”
คิดมาถึงตรงนี้เธอก็อดถอนหายใจไม่ได้ และคิดขึ้นมาอีก “ต้องเป็นเพราะฉันตั้งใจไม่โชว์สัดส่วนมาตลอด ถึงทำให้คุณเย่เข้าใจผิดไป
มากขนาดนี้ ดูท่าหลังจากนี้จะทำแบบนี้ไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นทุกคนได้คิดว่าฉันคือองค์หญิงราบแบนแน่นอน.
หลังจากเฮ่อจือชิวถอนใจเสร็จแล้วก็หันมองเสื้อตรงหน้า ตัดสินใจว่ากัดฟันลองใส่ดูก่อนค่อยว่ากัน
หลังจากนั้นเธอเปิดอีกห่อหนึ่งออก หยิบชุดที่บางเบาสุดๆในนั้นออกมา
เธอเอาสองมือยืดชุดออกดูแล้วก็ต้องกรี๊ดเสียงแหลมออกมาทันใด โยนเสื้อผ้าตันั้นทิ้งด้วยสัญชาตญาณ หลังจากนั้นก็กุมหน้าร้อนผ่าว
ของตัวเองไว้ หัวใจเต้นเร็วกว่าเดิมเกือบหนึ่งเท่า!
“คุณเย่เขา….ทำไมเขาถึง…..”
เฮ่อจือชิวจับใบหน้าร้อนผ่าวและพึมพำด้วยความเนอายถึงขีดสุด “ทำไมคุณเย่ถึงซื้อเสื้อผ้าแบบนี้ให้ฉันนะ….มันเซ็กซี่เกินไปหรือ
เปล่า?!”
“หรือว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจ? แต่ก่อนซื้อเขาต้องเห็นแบบก่อนสิ หรือดูไม่ออกว่าชุดนี้เซ็กซี่เกินไป?”
“หรือว่าเขาจงใจ?”
“แต่….เขาจงใจซื้อชุดชั้นในแบบนี้ให้ฉันทำไมล่ะ? เพื่อแกล้งหรอ หรือมีรสนิยมพิสดารบางอย่าง?”
เฮ่อจือชิวรู้สึกแปลกๆไปทั้งตัว เธอหันไปมองชุดที่ตัวเองโยนลงพื้น แทบจะมั่นใจได้เลยว่าชาตินี้ตัวเองก็ไม่มีวันใส่อะไรที่น่าขยะแขยง
ขนาดนี้
ทว่าไม่นานนักสมองเธอก็ล้มเลิกความตั้งใจเมื่อกี้ของตัวเอง
“ถ้าไม่ใส่ชุดนี้ ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วนะ จะใส่ที่สกปรกหรือจะไม่ใส่เลยก็รับไม่ได้ทั้งนั้น…..
“ดูท่ามีแค่ทางนี้แหละที่พอฝืนใจรับไว้ได้บ้าง…
คิดมาถึงตรงนี้ เธอไม่คิดจะไปคาดเดาจุดประสงค์ของเย่เฉินแล้ว เธอกัดฟันแล้วเก็บชุดที่เธอโยนทิ้งขึ้นมาใหม่
สิบนาทีต่อมา กริ่งหน้าห้องเย่เฉินดังขึ้น
เขาเปิดประตู คนที่ยืนอยู่หน้าประตูเป็นเฮ่อจือชิวที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริงๆ