ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 272
บทที่ 272
ในสายตาของเธอ นอกจากเงิน ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว!
สำหรับเธอแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดของลูกเขยก็คือมีเงิน และต้องให้เงินตัวเองอย่างไม่รู้สึกเสียดาย มิเช่นนั้น ต่อให้ลูกเขยจะดีแค่ไหนในสายตาของเธอก็เป็นเพียงแค่ก้อนขี้หมาเหม็นๆ
เหมือนผู้ชายอย่างเกาจวิ้นเว่ย คือผู้สมัครที่เป็นลูกเขยที่ดีที่สุด เพราะว่าเขาจ่ายเงินให้กับแม่ยายอย่างไม่รู้สึกเสียดายเงิน!
ตอนนี้เขายังไม่ได้คบหากันกับลูกสาวของตัวเอง ก็ใจกว้างขนาดนี้แล้ว มอบรถเบนซ์ราคาหนึ่งล้านหกแสนหยวนให้ตัวเอง ถ้าในอนาคตเซียวชูหรันได้อยู่ด้วยกันกับเขาจริงๆ งั้นเขาจะไม่ซื้อวิลล่า เรือยอร์ชให้ตัวเองเลยเหรอ?!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ในใจของเธอก็มีความสุขอย่างมาก!
แต่ว่า คำพูดที่เกรงอกเกรงใจก็ยังต้องมีอยู่ เธอจับไปที่แขนของเกาจวิ้นเว่ย พูดอย่างจริงจัง : “ไอ้หยา จวิ้นเว่ย คุณทำให้ป้าซาบซึ้งใจจริงๆนะ แต่ว่า รถคันนี้มันมีมูลค่ามากเกินไปจริงๆนะ ถ้าป้ารับไว้ละก็ เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่นะ?”
“ไม่เหมาะสมยังไงละครับ?” เกาจวิ้นเว่ยพูดออกไปอย่างจริงจัง : “คุณป้า สิ่งของที่ผมมอบให้มันเป็นความตั้งใจของผม คุณแค่กล้าที่จะรับไปอย่างสบายใจก็พอครับ!ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม!”
หม่าหลันเห็นเขาพูดอย่างแน่วแน่ขนาดนี้ ในใจก็ดีใจอย่างมาก ก็ไม่ได้เกรงอกเกรงใจอะไรเขาอีก นำกุญแจรถเก็บใส่เข้ากระเป๋าไปเลย พร้อมพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม : “งั้นป้าก็ไม่เกรงใจแล้วนะ เก็บแล้วนะ!ขอบคุณคุณจริงๆนะจวิ้นเว่ย!”
เกาจวิ้นเว่ยมองเห็นภาพโดยรวมว่าเธอเป็นคนที่เห็นแก่ทรัพย์สินเงินทอง แอบขำอยู่ในใจ มุ่งเป้าไปประจบสอพลอแม่ของเซียวชูหรัน ดูแล้ว แผนการของตัวเองและพ่อ จะต้องเป็นความจริงอย่างที่ใจหวังแน่นอน!
แต่ว่า ในใจของเขาคิดแบบนี้ ปากกลับพูดออกไปอย่างเกรงใจ : “คุณป้าครับ เราอย่ายืนที่หน้าประตูกันเลยครับ เข้าไปกินข้าวพลางคุยพลางดีกว่าครับ”
หม่าหลันตื่นเต้นอย่างมาก รีบพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง : “ได้ได้ได้ เข้าไปคุยกัน เข้าไปคุยกัน!”
ทั้งสองคนเดินเข้าไปยังร้านอาหารเทียนหัว เกาจวิ้นเว่ยให้พนักงานเดินนำพวกเขาสองคนไปยังที่ที่ได้จองล่วงหน้าไว้
หลังจากรอจนทั้งสองนั่งลง เกาจวิ้นเว่ยก็ได้สั่งอาหารอร่อยที่มีราคาแพงมาเต็มโต๊ะเลย
เมื่อทานข้าว เกาจวิ้นเว่ยก็แสร้งพูดด้วยความละอายใจ : “คุณป้าครับ ครั้งก่อนตอนที่ลุงเซียวอยู่โรงพยาบาล ที่ผมจ้างหมอต้มตุ๋นไป เรื่องนี้ผมได้ทำสิ่งที่แย่ไว้ ผมต้องขอโทษคุณป้าด้วยนะครับ!”
เมื่อหม่าหลันเห็นเกาจวิ้นเว่ย กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม : “คุณไม่ต้องทำแบบนี้ เรื่องก่อนหน้านี้ ป้าไม่เคยกล่าวโทษคุณเลย!คุณก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน!”
เกาจวิ้นเว่ยพยักหน้า มองไปที่หม่าหลัน พูดอย่างจริงจัง : “คุณป้า ผมขอพูดตรงๆเลยนะครับ ผมอยากจะจีบชูหรัน แต่งงานกับเธอ ไม่รู้ว่าคุณป้าจะยินยอมไหม?”
เมื่อหม่าหลันได้ยินประโยคนี้ พูดออกมาด้วยความดีใจ : “ยินดีจ๊ะยินดี!ป้าเห็นด้วยเป็นหมื่นๆครั้งเลย!พูดกับคุณตามตรงนะ ในใจของป้า เห็นคุณเป็นว่าที่ลูกเขยในอนาคตตั้งนานแล้ว!”
เกาจวิ้นเว่ยถอนหายใจอย่างโล่งอก พูดว่า : “คุณคิดแบบนี้ แต่ว่า ผมเกรงว่าทางฝั่งชูหรัน จนถึงตอนนี้ก็อาจจะยังโกรธผมอยู่ ถ้าเราสองคนยังคงเข้าใจผิดกันอยู่แบบนี้โดยที่ยังไม่ได้แก้ไข ผมเกรงว่าคงไม่มีทางที่จะได้อยู่ด้วยกับเธอไปตลอดชีวิต”
หม่าหลันรีบพูดออกมาทันที : “มีอะไรให้เข้าใจผิดกัน พูดออกมาให้ชัดเจนพอแล้วไม่ใช่เหรอ?ถ้าคุณไม่กล้าที่จะพูดออกมา ป้าจะไปช่วยพูดให้!”
เมื่อได้ยินคำนี้ เกาจวิ้นก็รู้ว่าใกล้จะถึงจุดอ่อนแล้ว พูดชี้แนะออกไป : “คุณป้า จริงๆแล้วผมอยากจะพูดขอโทษและสารภาพกับเซียวชูหรันซึ้งๆหน้า ไม่งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน ครอบครัวของเรามีวิลล่าติดริมแม่น้ำอยู่ คืนนี้จะจัดดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่นั่น แล้วก็จัดดอกไม้สดสักหน่อย จัดวางให้เป็นรูปหัวใจ ถึงตอนนั้นคุณป้าช่วยนัดชูหรันออกมาให้หน่อย ให้ผมได้ขอโทษกับเธอดีดี พร้อมทั้งสารภาพรัก ไม่แน่เธออาจจะซาบซึ้งใจ แล้วก็สำเร็จก็ได้ครับ!”
“ไอ้หยาจวิ้นเว่ย คุณนี่มีความตั้งใจจริงๆเลยนะ!” หม่าหลันแววตาเปล่งประกาย พูดอย่างรีบร้อน : “งั้นก็ได้ ฉันจะโทรหาชูหรันเดี๋ยวนี้เลย!”
พูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เตรียมที่จะกดโทรหาเซียวชูหรัน
เกาจวิ้นเว่ยมีความสุข รีบพูดออกไปทันที : “คุณป้าครับ อย่าบอกชูหรันเด็ดขาดนะ ว่าผมเป็นคนนัดออกมา ไม่งั้นเธอคงไม่มาเจอผมอย่างแน่นอน ”
พูดแล้ว เกาจวิ้นเว่ยก็พูดอีก : “คุณพูดกับเธอว่า คุณมีเพื่อนกำลังจะปรับปรุงวิลล่าหลังใหญ่ริมแม่น้ำ ต้องการอยากให้เธอออกแบบให้ เธอเป็นคนบ้างานขนาดนี้ เมื่อได้ยินว่ามีออเดอร์ เธอจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นคุณก็มาพร้อมกับเธอ ตอนที่ผมสารภาพรักเธอ คุณป้าก็จะได้ช่วยผมพูดสิ่งดีๆให้สักหน่อยครับ!”
หม่าหลันแววตาเปล่งประกาย โพล่งพูดออกไป : “ดีมากเลย!เอาตามที่คุณว่าแล้วกัน!”
นัยน์ตาของเกาจวิ้นเว่ยสาดส่องความชั่วร้ายออกมา แอบคิดในใจ : “คืนนี้ คืนนี้ฉันจะต้องเผด็จศึกเซียวชูหรันที่ร่ำลือเรื่องความงดงามไปทั่วทั้งเมือง แล้วค่อยลิ้มลองหม่าหลันที่ยังคงมีความงดงามอยู่ จากนั้นค่อยโทรศัพท์ไปหลอกให้เย่เฉินมาที่นี่ แล้วยิงเขาทิ้งซะ!”