ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 304
บทที่304
เว่ยฉางหมิงรับบัตรสมาชิกมาดู เขาขมวดคิ้วทันที
ไม่ต้องพูดถึง ฝีมือการทำของบัตรใบนี้ แม่งทำดีมากเลย!
ฝีมือการทำบัตรดีกว่าบัตรสมาชิกทั่วไปของตนเองมาก!
แต่ ยังไม่เคยได้ยินว่าคลับเฮาส์ฮุยหวงมีบัตรสมาชิกVIPพรีเมี่ยม! เห็นได้ชัดว่ามีเพียง 4 ระดับเท่านั้น!
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เว่ยฉางหมิงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
บัตรใบนี้ต้องเป็นของปลอมแน่นอน!
แม่งฉิบ ไอ้ยาจกคนนี้ มันช่างมีความกล้า!
กล้าปลอมบัตรสมาชิกคลับเฮาส์ของตระกูลซ่ง ทำแบบนี้มันก็ไม่แตกต่างจากการทำเช็คปลอมของธนาคาร?
ดังนั้น เขาจึงตะคอกทันทีและกล่าวว่า “ไอ้หนู รีบคุกเข่าขอโทษฉันแล้วยอมรับผิด แล้วก็รีบออกไปจากที่นี่! มิเช่นนั้น ฉันจะแจ้งลุงวีพ่อบ้านของตระกูลซ่ง แกรู้ไหมว่าฉันมีความสัมพันธ์อะไรกับลุงวี ลุงวีกับพ่อของฉันเป็นพี่น้องร่วมสาบาน!”
อันที่จริง พ่อของเว่ยฉางหมิงกับลุงวี ไม่ได้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกันแต่อย่างใด
พวกเขาสองคนเป็นคนบ้านเดียวกันเท่านั้น และเป็นเพราะว่ารู้จักกันมานาน ดังนั้นพวกเขาจึงมีความสนิทกันเล็กน้อย
ลุงวีทำงานให้ตระกูลซ่งมานาน เพราะฉะนั้นจึงมีตำแหน่งที่พิเศษ
อาจกล่าวได้ว่า นอกจากหลายคนที่เป็นคนใหญ่คนโตของตระกูลซ่งแล้ว เขาก็เป็นอีกคนที่มีอำนาจและฐานะสูง
ถ้าเทียบฐานะ ลุงวีมีฐานะเหนือกว่าราชาใต้ดินท่านหงห้าอยู่มาก
เพราะว่าท่านหงห้าไม่ได้ออกหน้า แตกต่างจากลุงวี ที่หลาย ๆงาน ก็ไปเป็นตัวแทนของตระกูลซ่ง
ฉะนั้น เว่ยฉางหมิงมักจะพูดชื่อลุงวีจนติดปาก ซึ่งมันก็เป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว
เมื่อเย่เฉินได้รู้ว่าเขารู้จักกับลุงวี เขายิ้มเยือกเย็นแล้วกล่าวว่า “ลืมบอกคุณว่า บัตรสมาชิกVIPพรีเมี่ยมใบนี้ ซ่งหวั่นถิงคุณหนูใหญ่ของตระกูลซ่งเป็นคนให้ผมมาเอง เมื่อสักครู่คุณได้ถามว่า ไอ้โง่คนไหนที่สร้างบบัตรชื่อนี้ให้ บัตรชื่อนี้ คุณหนูซ่งเป็นคนทำขึ้นมาเอง”
“แม่งฉิบหาย! ” เว่ยฉางหมิงเย้ยหยันและกล่าวว่า “ยาจกอย่างแก ไม่คู่ควรที่คุณหนูซ่งจะสร้างชื่อบัตรให้แก แกคิดจะโอ้อวดไปเรื่อยเปื่อยเหรอ? การโอ้อวดบางอย่างอาจต้องแลกด้วยชีวิต แกรู้ไหม?”
เย่เฉินถามอย่างสงสัย “ทำไมต้องแลกด้วยชีวิต หรือว่าโอ้อวดมันมีพิษเหรอ?”
“แม่งฉิบหาย………” เว่ยฉางหมิงระเบิดอารมณ์ และตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “แม่งฉิบยังมาต่อปากต่อคำกับฉัน? แกรู้ไหม ทำแบบนี้คือไม่ให้เกียรติคุณหนูซ่ง ถ้าหากคุณหนูซ่งรู้ ชีวิตหมา ๆ ของแกก็อาจตายได้!”
เย่เฉินยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ไม่ให้เกียรติคุณหนูซ่ง น่าจะเป็นคุณเสียมากกว่ามั้ง?”
เซียวเวยเวยที่อยู่ข้าง ๆได้กล่าวกับเว่ยฉางหมิงทันทีว่า “ฉางหมิง อย่าเสียเวลาพูดกับไอ้ยาจกคนนี้ เรียก รปภ. ของคลับเฮาส์ฮุยหวงมาโดยตรงเลย บอก รปภ. ว่าเมื่อสักครู่เขาพูดอะไรไปบ้าง? รปภ. พวกนั้นไม่ปล่อยเขาไว้อย่างแน่นอน! แล้วก็บอกลุงวีด้วยว่าให้บทเรียนที่รุนแรงกับไอ้ยาจกนี้ ทำให้มันพิการ สูญเสียความเป็นชายชาตรีไปเลย!”
ที่เซียวอี้เชียนไม่สามารถเป็นชายที่สมบูรณ์ได้ เหมือนเป็นฝีมือของเย่เฉิน เรื่องนี้ทำให้เซียวเวยเวยรู้สึกคับแค้นในใจตลอด ฉะนั้นเธอจึงหวังให้คนอื่นทำร้ายเย่เฉินจนสูญเสียความเป็นชายชาตรีไปเช่นกัน
เมื่อเว่ยฉางหมิงได้ยินประโยคนี้ ก็ตบมือเซียวเวยเวยเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “เวยเวยคุณวางใจได้ ผมจะเรียก รปภ. มาตอนนี้ แล้วทำร้ายมันให้ตายไปเลย!”
เมื่อพูดจบ เขารีบตะโกนเสียงดัง “รปภ. ไปตายที่ไหนหมดแล้ว? รีบมาเร็ว! มีคนแอบอ้างเป็นสมาชิกของคลับเฮาส์ฮุยหวง เป็นการลบหลู่คุณหนูใหญ่ของพวกคุณ!”
เมื่อสิ้นเสียงนี้ ได้มีเสียงที่เข้มแข็งและเคร่งขรึมดังขึ้น “ใครเอะอะเสียงดัง? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เย่เฉินเงยหน้าขึ้นมอง ดีแล้ว พ่อบ้านตระกูลซ่ง ตาแก่ที่แซ่วีมาแล้ว!