ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 33 พบปะกัน
บทที่ 33 พบปะกัน
ได้ยินภรรยาพูดอย่างนั้น เย่เฉินก็มีความสุขมาก
ดูเหมือนว่าที่ตนเลือกที่นี่ในวันครบรอบแต่งงาน จะสามารถทำให้ภรรยาพอใจแน่นอน!
ทั้งคู่มาถึงสวนดอกไม้กลางอากาศ นั่งตรงตำแหน่งที่จองไว้ ในไม่ช้าต่งรั่งหลินก็มาถึง
“ซูหรัน!”
“รั่งหลิน!”
สองสาวเพื่อนสนิทกอดกัน มีความสุขจนเกินบรรยาย
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็จับมือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวที่ผ่านมาครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ เงียบลง
ต่งรั่งหลินพูดว่า “ซูหรัน เธอสิ้นเปลืองเกินไปแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเลือกมาทานอาหารที่สวนดอกไม้กลางอากาศ!”
เซียวซูหรันยิ้มพลางพูดว่า “เธอมาทั้งที! ฉันก็ต้องขูดเลือดบ้างสิ!”
ต่งรั่งหลินหัวเราะฮิฮิ “สมควรแล้วที่เป็นเพื่อนสนิทของฉัน!”
เซียวซูหรันบอกว่า “บอกตามตรงนะ ฉันไม่มีคุณสมบัติพอจะสั่งอาหารที่นี่ทานหรอก ฉันขอให้รองประธานหวังตงเสวี่ยนของตี้เหากรุ๊ปช่วยจองให้น่ะ นี่เป็นการใช้บัตรสมาชิกของเธอ!”
ต่งรั่งหลินถอนหายใจ “สวนกลางฟ้าแห่งนี้ดูเหมือนว่าจะมีข้อกำหนดสูงเป็นพิเศษเลย น่าจะต้องเป็นสมาชิกระดับเพชรใช่ไหม”
“อืม” ต่งรั่งหลินพยักหน้าและบอกว่า “บอกตามตรงเลยนะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่!”
ต่งรั่งหลินยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณเธอมากจริงๆ รั่งหลินคนดีของฉัน!”
เมื่อพูดจบเธอก็พูดอีกว่า “จริงสิ เมื่อครู่ตอนที่ฉันมาที่นี่ เห็นป้ายประกาศข้างนอกบอกว่าสวนดอกไม้กลางอากาศถูกเหมาจองหลังจากนี้อีกสามวันเหรอ”
“ใช่” เซียวซูหรันบอกว่า “แปลกดีนะ แต่ไหนแต่ไรมาสวนดอกไม้กลางอากาศไม่เคยรับจองเหมามาก่อนเลย ครั้งนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
ต่งรั่งหลินพยักหน้าและพูดตามตรง “เมื่อไม่นานมานี้ ในติ๊กต็อกมีมหาเศรษฐีระดับเทพของเมืองจินหลินคนหนึ่ง ซื้อสร้อยคอแค่หนึ่งเส้นแต่นำรถโรลส์รอยซ์หลายสิบคันมา พร้อมด้วยชายชุดดำนับสิบ และเงินสดมากกว่าสิบล้าน คลิปวิดีโอนั้นพวกคุณดูหรือยัง”
เย่เฉินพยักหน้า ส่วนเซียวซูหรันพูดว่า “ฉันดูแล้ว เอิกเกริกใหญ่โตมากเลย”
ต่งรั่งหลินพูดว่า “ทุกคนต่างสงสัยคาดเดากันว่าเป็นใครกันแน่”
เซียวซูหรันพูดว่า “เดาว่าอะไรบ้าง…”
ต่งรั่งหลินยิ้มและพูดว่า “ซุบซิบ! ทุกคนต่างอยากรู้ว่าคนที่มีอำนาจขนาดนั้นเป็นใคร มีบางคนบอกว่าน่าจะเป็นประธานคนใหม่ของตี้เหากรุ๊ป!”
เย่เฉินที่อยู่ข้างๆ มีสีหน้าตกใจขึ้นมาฉับพลัน
แต่แล้วในไม่ช้าก็กลับมาเป็นปกติ
ต่งรั่งหลินพูดต่อว่า “วันนี้สวนดอกไม้กลางอากาศของแชงกรีล่าก็ถูกคนเหมา ฉันรู้สึกว่าที่เหมาสวนดอกไม้กลางอากาศกับคนที่อยู่ในคลิปวิดีโอ น่าจะเป็นคนคนเดียวกัน”
เซียวซูหรันถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “ไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ เธอยังขี้นินทาเหมือนเดิมเลยนะ!”
ต่งรั่งหลินยิ้มและพูดว่า “การนินทาเป็นแรงผลักดันให้ผู้หญิงมีชีวิตรอด!”
พูดอย่างนั้นแล้วต่งรั่งหลินก็พูดอีกว่า “อีกสามวันหลังจากนี้ฉันจะมาดูที่นี่ว่าใครกันมีหน้ามีตาใหญ่โตขนาดนี้ สามารถเหมาสวนดอกไม้กลางอากาศได้!”
เย่เฉินที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดนี้ ก็หัวโตมหึมาขึ้นมาทันที
เขาแค่อยากเซอร์ไพรส์ภรรยา อยากจัดงานแต่งงานให้เธอทดแทนตอนนั้นที่ไม่ได้จัด
แต่เขาไม่ได้อยากให้มีคนสังเกตเห็นในคราวเดียว
ทว่าดูเหมือนเขาจะประเมินอิทธิพลของสวนดอกไม้กลางอากาศาต่ำไป
คาดว่าตอนนี้ในเมืองจินหลิงมีคนจำนวนมากที่คิดแบบเดียวกับต่งรั่งหลิน ทุกคนล้วนอยากมาดูว่าคนที่เหมาสวนดอกไม้กลางอากาศเป็นใคร
เรื่องพวกนี้มันค่อนข้างยากจะจัดการ
ตนต้องไปกำชับเฉินจื๋อข่ายไว้ล่วงหน้า และเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก่อน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของตนได้
ตอนที่ทานอาหาร ต่งรั่งหลินพูดกับทั้งคู่ว่า “มาเมืองจินหลินครั้งนี้ ฉันมีนัดกับเพื่อนร่วมคลาสเก่าพวกเรา มีงานเลี้ยงรุ่น พวกคุณสองคนว่ายังไง”
เย่เฉินพูดขึ้นทันที “พวกคุณไปงานเลี้ยงรุ่นกันเลย ผมคงไม่เข้าร่วมด้วย”
“ทำไมล่ะ” ต่งรั่งหลินพูด “ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่เพื่อนร่วมคลาสมหาวิทยาลัยทั้งสี่ปี แต่ดีร้ายก็มีความผูกพันเป็นเพื่อนร่วมคลาสหนึ่งปีนะ!”
เมื่อตอนแรกเย่เฉินถูกคุณท่านใหญ่ตระกูลเซียวอุปการะ นายท่านใหญ่เซียวนั้นเพื่อที่จะให้เขารู้จักกับเซียวซูหรันก่อนล่วงหน้าสักหน่อย จึงส่งเขาไปที่มหาวิทยาลัยจินหลิง เป็นเพื่อนร่วมเรียนปีสุดท้ายกับเซียวซูหรัน
หลังจากจบการศึกษาสี่ปี ทั้งคู่ก็แต่งงานกันทันที
แต่เย่เฉินเป็นเพื่อนกับเหล่าเพื่อนร่วมคลาสเพียงปีเดียว และคนส่วนใหญ่ดูถูกตนตลอด ทุกคนไม่ได้มีมิตรภาพที่ดีนัก ดังนั้นเมื่อได้ยินเรื่องงานเลี้ยงรุ่น เขาจึงไม่สนใจเลยสักนิด
เซียวซูหรันเองก็ไม่อยากไปงานเลี้ยงรุ่น จึงพูดว่า “ฉันกับเย่เฉินจะไม่ไป หลังจากจบการศึกษาฉันไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนร่วมคลาสส่วนใหญ่เลย”
ต่งรั่งหลินรีบพูด “สาเหตุที่จัดงานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้ เหตุผลหลักเพราะหวังเต้าคุนเพื่อนร่วมคลาสคนนั้นเปิดร้านอาหาร จะเปิดในวันพรุ่งนี้ เขาพาทุกคนไปฉลองที่ร้านอาหารของเขา และร่วมทานอาหารด้วยกัน”
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วต่งรั่งหลินก็พูดอีกว่า “เธอว่าการที่เขาเริ่มต้นธุรกิจแล้วไม่ไปจะไม่เหมาะเหรอ”
เพิ่งพูดจบ โทรศัพท์มือถือของทั้งสามคนก็ดังขึ้น เป็นข้อความวีแชท
จากนั้นไม่นานตัวอักษรในวีแชทมากมายก็ผุดขึ้นมา
ทุกคนหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองขึ้นดู ที่แท้เป็นหวังเต้าคุนดึงกลุ่มเพื่อนร่วมคลาส ในไม่ช้ากลุ่มก็มีจำนวนมากกว่าสามสิบคน
หวังเต้าคุนพูดในกลุ่มว่า “เพื่อนร่วมคลาสเก่าทุกคน ร้านอาหารขนาดเล็กที่ฉันลงทุน จะเปิดอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้เที่ยง ร้านอาหารอยู่ในเมืองจินหลิง ขอเชิญเพื่อนร่วมคลาสจินหลิงให้เกียรติมาร่วมงาน ให้ทุกคนถือซะว่ามางานเลี้ยงรุ่นกัน!”
“พอดีเลย ต่งรั่งหลินหนึ่งในสองของดอกไม้ทองในชั้นเรียนเราก็มาทำงานในเมืองจินหลิง และถึงเวลาเธอก็จะมางานเลี้ยงรุ่นด้วย ว่ากันว่าตอนนี้รั่งหลินยังโสด เป็นคนโสดในกลุ่มที่พวกเราสามารถคว้าได้ต้องรีบลงมือแล้ว!”
หลังจากนั้นฝูงชนก็ตอบรับกันเกรียวกราว
“ว้าว! ยินดีๆ!”
“พระเจ้า รั่งหลินมาเมืองจินหลิงเหรอ ทำไมไม่ได้ยินเรื่องนี้เลย ถึงเวลาต้องไปแน่นอน!”
“แล้วดอกไม้ทองของเราอีกคนเซียวซูหรันล่ะ เธอจะมาไหม”
“ฉันได้ยินมาว่าซูหรันกับนักศึกษาที่ย้ายมากลางคันเย่เฉินอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม ได้ยินว่าเย่เฉินแต่งเข้าบ้านตระกูลเซียวด้วย”
“ฉันก็ได้ยินเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ เพราะตั้งแต่จบการศึกษาก็ไม่ได้เห็นพวกเขาทั้งสองเลย…”
“ได้ยินว่าภาพการเป็นสามีภรรยาของพวกเขาทั้งคู่มันแค่เพียงในนาม ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ”
เซียวซูหรันเห็นเนื้อหาเหล่านี้จึงพูดกับเย่เฉินว่า “คุณอย่าเอามาใส่ใจนะ”
เย่เฉินยิ้มบาง “ไม่เป็นไร สิ่งที่พวกเขาพูดก็เป็นเรื่องจริง ผมชินตั้งนานแล้วล่ะ”
ต่งรั่งหลินรีบพูดไปในกลุ่มว่า “พวกเธออย่านินทาคนอื่น! ตอนนี้ฉันกำลังทานอาหารอยู่กับทั้งคู่ พวกเขารักกันมาก!”
“พระเจ้า นี่รั่งหลินเหรอ!”
สุนัขสอพลอกลุ่มใหญ่รีบกรูกันเข้ามา
ตอนนี้มีคนในกลุ่ม@เย่เฉิน นั่นคือผู้ตั้งกลุ่มหวังเต้าคุน “เย่เฉิน ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในคลาสเรียนของเราค่อนข้างสั้น แต่ตอนที่เราพี่น้องอยู่ในสถานศึกษามีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน พรุ่งนี้คุณกับภรรยาของคุณต้องมางานนะ!”
เย่เฉินมีความรู้สึกที่ดีต่อหวังเต้าคุน คนคนนี้เป็นคนดีจริง เจอใครก็ใจดีต่อทุกคน และไม่เคยเยาะเย้ยถากถางคนอื่น เป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมคลาสไม่กี่คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดี
เห็นเขาพูดอย่างนั้น เย่เฉินจึงตอบกลับไปทันที “ได้ พรุ่งนี้จะไปร่วมงานแน่นอน”
หวังเต้าคุนรีบบอกทันที “งั้นก็เยี่ยมมากเลย! พรุ่งนี้เรามาพบปะกัน!”