ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 407
หลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลานาน ตอนนี้เซียวอี้เชียนอยากจะกลับบ้านจริง ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ว่า ไม่สามารถหาวิธีฟื้นฟูบริเวณนั้นในเมืองจินหลิงได้ ดังนั้นเขาจึงต้องกลับไปที่เมืองเย่นจิง เพื่อดูว่าที่นั่นเขาจะสามารถหาหมอที่เก่ง ๆได้หรือไม่
และมีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ ใกล้ถึงวันเกิดอายุ 84 ปีของแม่ของเขา ตนเองในฐานะลูกชายคนโต จำเป็นต้องกลับไปเพื่อฉลองวันเกิดให้เธอ
อย่างไรก็ตาม แม่ได้ขอให้เขาเชิญซือเทียนฉีไปด้วย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ซือเทียนฉีจะยังไม่ให้อภัยตนเอง
อย่างไรก็ตาม เขายังคงถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณลุงซือ หลังจากนี้อีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดของแม่ผม ไม่ทราบว่าคุณจะไปเมืองเย่นจิงเพื่อเป็นเกียรติในงานฉลองวันเกิดของแม่ผมได้หรือเปล่า? ”
ซือเทียนฉีกล่าวอย่างเรียบ ๆว่า “ประธานเซียว ผมได้บอกคุณไปแล้วว่า ระหว่างผมกับตระกูลเซียว ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ฉะนั้นเรื่องไปงานฉลองวันเกิดของแม่คุณ คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดอีก”
เขาถอนหายใจเบา ๆ แล้วพยักหน้า
แม้ว่าตอนนี้ในใจของเขาอยากจะจับตาเฒ่าซือเทียนฉี กดลงบนพื้นและทุบตีเขาสักครั้ง แต่เขาก็กล่าวอย่างถ่อมตัวว่า “เมื่อมันเป็นการตัดสินใจของคุณลุงซือแล้ว อี้เชียนก็ไม่สามารถบังคับได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น อี้เชียนก็จะกลับไปเมืองเย่นจิงก่อน”
ซือเทียนฉีพยักหน้า
เซียวอี้เชียนเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่เย่เฉิน ในใจเขารู้สึกแค้นมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ แล้วเขาก็พาบอดี้การ์ดของเขา ก้าวเดินออกไปจากตระกูลเว่ย
เมื่อเห็นว่าภัยพิบัติอย่างเซียวอี้เชียนจากไป เว่ยหย่งเจิ้งก็รู้สึกโล่งอกอย่างสิ้นเชิง
ยิ่งไปกว่านั้น เขาค้นพบว่า เคราะห์ร้ายในคราวนี้ก็ทำให้ตนเองได้โชคมาด้วย ที่ได้สูตรยาที่ดีมาอีกหนึ่งสูตร
ที่แท้ แผลเน่าที่บริเวณนั้น สามารถรักษาได้ด้วยยาจีนหลายสิบชนิด และรวมกับน้ำปัสสาวะของตนเอง นี่มันช่างวิเศษมาก ต่อไปถ้าใครมีอาการแบบนี้ ตนเองก็สามารถรักษาเขาได้อย่างสมบูรณ์!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าและกล่าวด้วยความเคารพว่า “อาจารย์เย่เป็นหมอเทวดาในเมืองจินหลิงจริงๆ ทักษะทางการแพทย์น่ายกย่องยิ่ง วันนี้ต้องขอบคุณอาจารย์เย่ที่ลงมือช่วยเหลือ ทำให้ตระกูลเว่ยของผมสามารถอยู่รอดได้ ตระกูลเว่ยจะจดจำบุญคุณของอาจารย์เย่ตลอดไป”
คนอื่น ๆ ก็พนมมือและโค้งคำนับให้เย่เฉิน “ขอบคุณอาจารย์เย่ ที่ช่วยตระกูลเว่ยให้พ้นจากวิกฤตในครั้งนี้ ทำให้พวกเรารู้สึกตื้นตันอย่างสุดซึ้ง”
เย่เฉินมองไปที่พวกเขาแวบหนึ่งและกล่าวอย่างเรียบ ๆว่า “ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อรับฟังคำขอบคุณ”
ขณะพูด เย่เฉินชี้ไปที่เว่ยเลี่ยงแล้วกล่าวกับเว่ยหย่งเจิ้งว่า “เนื่องจากเว่ยเลี่ยงได้แก้ไขปัญหาของตระกูลเว่ยของคุณแล้ว อย่างที่คุณเคยพูดสัญญาไว้ ตอนนี้เขาควรจะเป็นประธานของบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อแล้วใช่ไหม? คุณเตรียมตัวจะประกาศเรื่องนี้เมื่อไหร่?”
เมื่อเว่ยหย่งเจิ้งได้ยินประโยคนี้ ปรากฏร่องรอยความไม่พอใจอยู่ในแววตา ตนเองเป็นผู้นำตระกูล เขาเป็นแค่คนนอกทำไมถึงได้กล้ามาก้าวก่ายเรื่องนี้?
อีกอย่าง ตำแหน่งประธานของบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะให้ไอ้ลูกนอกคอกมาดำรงตำแหน่งนี้?
เว่ยฉางหมิงที่อยู่ด้านข้างก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไอ้เย่เฉินมันเกินไปแล้ว! ที่ช่วยไอ้ลูกนอกคอกมาแย่งตำแหน่งประธาน? แกไม่รู้เหรอว่าตนเองเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเว่ย?
เว่ยเลี่ยงที่ถูกดูหมิ่นมาครึ่งชีวิต ตอนนี้ในใจรู้สึกตื่นเต้นมาก เขามองไปที่เย่เฉินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ
ขณะนี้ เขาได้ถือว่าเย่เฉินเป็นพ่อแม่คนที่สองแล้ว
อย่างไรก็ตาม……
ขณะนี้เว่ยหย่งเจิ้งยิ้มแล้วกล่าวว่า “อาจารย์เย่ พูดตรง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของตระกูล เรื่องแต่งตั้งประธาน เป็นเรื่องใหญ่ที่มีความสำคัญมาก เราจำเป็นต้องใช้เวลานานในการพิจารณา”
————