ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 43 คนที่มานั้นไม่ได้มาดี
บทที่ 43 คนที่มานั้นไม่ได้มาดี
เซียวชูหรันก็รู้สึกสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เหมือนกัน
อันแรกคือBMW520 ของเย่เฉิน ทำไมถึงแรงกว่าBMW540ของหวังเถิงเฟยถึงเท่าหนึ่ง?
และก็รูปเก่าๆ ของเย่เฉินที่มีมูลค่าหลายแสนหยวน!
แล้วยังเรื่องที่ทำไมเขาถึงรู้จักกับคนพวกนี้อีก แถมคนพวกนี้ยังต้องเกรงใจเขามากด้วย
ขณะกำลังกลับนั้น เย่เฉินก็ได้อธิบายกับเธออธิบายกับเธอ เขาบอกเซียวชูหรันว่า BMW520 คันนี้ ร้าน 4Sได้ดัดแปลงระบบติดตั้งของรถ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าเครื่องยนต์มันแรง ดังนั้นจึงได้ดัดแปลงนิดหน่อย
เซียวชูหรันเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถ พูดอะไรนิดหน่อยเธอก็เชื่อแล้ว
รวมถึงรูปเก่าใบนั้น เขาก็ได้อธิบายก่อนหน้านี้แล้ว เพราะคนอื่นแสดงมิตรภาพ ก็เลยขายให้เขาในราคาต่ำ และตัวเองก็เพราะมิตรภาพระหว่างเพื่อน ก็เลยส่งต่อให้กับหวังเต้าคุน
แต่ว่า เรื่องชายหน้าบากนั้นค่อนข้างพูดยากหน่อย
เพราะแค่คำแรกเขาก็เรียกว่าคุณชายเย่แล้ว แถมยังเรียกแบบเกรงใจ เย่เฉินจึงยากที่จะอธิบายเรื่องนี้
สุดท้ายเขาจึงพูดแค่ว่า พี่ชายหน้าบากคนนี้ เป็นญาติของเพื่อนตัวเอง เคยเจอกันตอนไปงานเลี้ยงของเพื่อน พี่เขาเองก็เห็นว่าตัวเองเป็นเพื่อนของญาติ ก็เลยรู้สึกเกรงใจ
เซียวชูหรันรู้สึกไม่ชอบมาพากล แต่พอเห็นเขาพูดออกมาอย่างมั่นใจ ถึงจะไปถามย้ำๆ ก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเธอเลยไม่ถามให้มากความ
ต่งรั่งหลินที่เอาแต่สืบเรื่องของเย่เฉินมาตลอด ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขานั้นไม่ธรรมดา ดังนั้นหลังจากนี้ต้องระวังเขาไว้ให้มาก และคอยจับตาดูว่าเขามีความลับอะไรซ่อนอยู่!
……
และตามที่ดูแล้วหวังเถิงเฟยนั้นน่าสงสารมาก ตอนที่ส่งถึงโรงพยาบาลนั้นเขาก็หมดสติไปแล้ว
พ่อของเขาก็ถูกให้ออกจากบริษัท แถมยังถูกตรวจสอบเรื่องการหาผลประโยชน์ส่วนตนอีก และก็ถูกทางบริษัทฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็ถูกตำรวจมาควบคุมตัวทันที
พูดได้ว่า ตอนนี้ตระกูลของหวังเถิงเหยได้ถูกกำจัดไปหมดแล้ว
แต่ว่า ครอบครัวหวังเถิงเฟยในจินหลิงไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมาก ทุกคนเลยไม่ได้ให้ความสนใจกับความเป็นตายของเขาเท่าไหร่
และคนที่ทุกคนต่างพากันจับจ้อง ก็คือคนที่ร่ำรวยและดูลึกลับในติ๊กต็อก แถมยังเป็นคนลึกลับที่จองสวนดอกไม้กลางอากาศของโรงแรม ป๋ายจินฮ่านกงอีก
ทุกคนต่างอยากจะรู้ ว่าแท้ที่จริงแล้วเขาคือใคร? และพวกเขานั้นจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่!
ไม่นาน ก็มาถึงว่าครบรอบวันแต่งงาน
เพราะว่าเขาเคยพูดกับเซียวชูหรันก่อนหน้านี้ ว่าจะเซอร์ไพรส์เธอ ดังนั้น ตอนที่เย่เฉินจะออกจากบ้าน ก็ได้บังคับให้เธอเปลี่ยนใส่ชุดราตรีสีขาวที่ดูคลาสสิคและเลอค่า
เซียวชูหรันรำคาญที่จะพูด พลางเบะปากแล้วพูดขึ้น : “แค่ออกไปกินข้าวเอง ทำไมต้องให้ฉันแต่งอลังการขนาดนั้นด้วย ถึงวันนี้จะเป็นวันครบรอบแต่งงานก็เถอะ แต่ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะ?”
เย่เฉินยิ้มอ่อน แล้วพูดขึ้น : “วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานปีที่3 ของเรานะ มันก็ต้องจัดให้ดีหน่อย สถานที่กินข้าวผมก็จองไว้เรียบร้อยแล้ว งานคืนนี้ผมรับประกันว่าคุณต้องพอใจมาก”
ช่วงนี้เขากุมความลับได้ดีมาก โดยที่เธอไม่สงสัยอะไรเลยสักนิด
เซียวชูหรันยิ้มอ่อนๆ และรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก
วันครบรอบแต่งงานสองปีก่อน ทั้งสองคนก็แค่อยู่ในบ้านเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรมากมาย ตอนนั้นเย่เฉินจนมาก แต่ก็ยังมีของขวัญเล็กๆ มาให้เธอได้ยิ้ม เพื่อเอาใจเธอ
แต่ว่า แต่ว่าปีนี้นั้นต่างกันมาก เพราะมันดูเป็นความลับที่มิดชิด และทำให้เธอนั้นคาดเดาไม่ออกว่าเขาเตรียมอะไรไว้ให้
ผ่านไปสักพัก ทั้งสองคนเปลี่ยนชุดเสร็จ แล้วก็ออกมาเรียกรถแท็กซี่สองคัน พลันตรงไปที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงทันที
เย่เรนหาที่เดินลงมา พร้อมกับหันไปมองเซียวชูหรันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่ดูอ่อนโยน พลันพูดขึ้น : “ชูหรัน คืนนี้พวกเรามาฉลองครบรอบแต่งงานกันที่นี่เป็นไง คุณคิดว่ายังไง?”
สายตาเซียวชูหรันเปลี่ยนไปทันที คืนนี้เย่เฉินจองที่นี่ไว้งั้นเหรอ?
เธอจึงถามขึ้น : “คุณไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ย?”
เย่เฉินหัวเราะพลางพูดขึ้น : “ไม่ได้โกหกอยู่แล้ว!”
พูดไปพลาง เย่เฉินก็อธิบายไปพลาง : “วันก่อน ผมก็ได้จองที่นี่ไว้แล้ว ถ้าคุณไม่เชื่อ เราลองไปตรวจสอบดูก่อนก็ได้”
เซียวชูหรันส่ายหน้า แต่งงานมาแล้วสามปี เย่เฉินไม่เคยโกหกเธอเลยสักครั้ง และยิ่งเป็นวันสำคัญแบบนี้อีก จากนั้นเธอเลยพูดขึ้น : “ไม่ต้อง ฉันเชื่อคุณ”
พูดไปพลาง เธอก็ถามขึ้นอีกรอบ : “คุณคงไม่ได้จองตรงสวนดอกไม้กลางอากาศหรอกนะ? วันนี้ไม่ใช่ว่าเขาเหมาตรงนั้นเหรอ?”
เย่เฉินรีบตอบทันที : “ผมจองตรงข้างๆ สวนดอกไม้กลางอากาศ และเป็นที่ที่สามารถมองเห็นสวนดอกไม้กลางอากาศพอดี แล้วใครกันแน่ที่เป็นคนเหมาตรงนั้น คุณรู้มั้ย?”
เซียวชูหรันหัวเราะแล้วพูดขึ้น : “ฉันไม่ใช่คนที่ชอบซุบซิบเรื่องคนอื่นเหมือนคุณ!”
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เข้าไปในโรงแรม
และตอนที่กำลังจะขึ้นไปข้างบน ทั้งสองคนก็ได้ยินเสียงร้องทักของผู้หญิงดังขึ้น : “เฮ้ย ดาวโรงเรียนเซียวชูหรัน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?!”
เซียวชูหรันเงยหน้าขึ้น ก็พลันมองเห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาหา
ผู้ชายนั้นสวมชุดสูทราคาแพง มองแค่แวบเดียวก็พอดูออกว่าเป็นลูกชายตระกูลเศรษฐี ส่วนผู้หญิงนั้นดูเป็นคนมีชื่อเสียง แต่งตัวดูดี เพียงแต่ดูท่าทางหยิ่งยโส และยิ่งแต่วตัวก็ยิ่งดูราศีจับ และหุ่นดีมาก
ผู้หญิงคนนี้เซียวชูหรันรู้จักเป็นอย่างดี เป็นเพื่อนรูมเมทตัวเองสมัยมหาวิทยาลัย ชื่อจ้าวลี่ฉิง
แต่ถึงแม้ว่าหล่อนจะเป็นเพื่อนรูมเมทของเซียวชูหรัน แต่ทั้งสองคนก็ไม่ใช่เพื่อนห้องเดียวกัน
และแม้ว่าจะพักด้วยกัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนกลับไม่สนิทกันมาก
นี่เป็นเพราะว่าหล่อนเป็นคนถือตน แถมยังขี้อิจฉาริษยา
และหล่อนก็เอาแต่คิดว่าเซียวชูหรันนั้นไม่เหมาะสมกับตำแหน่งดาวโรงเรียนเลย และคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้นควรจะเป็นตัวเองมากกว่า
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา ความสง่าหรือคุณสมบัติต่างๆ หล่อนก็สู้เซียวชูหรันไม่ได้เลย
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือยั่วยวนผู้ชาย ตามที่เห็นจากก่อนหน้านี้ที่หล่อนได้ยั่วยวนคนรวยๆ ไปแล้วไม่น้อย และกุญแจที่ไขตลอดสี่ปีนั้นล้วนแต่เป็นผู้ชายให้
เซียวชูหรันขมวดคิ้วแน่น พอรอให้พวกเขาเดินมาถึง เธอจึงทำหน้าธรรมดา และพยายามพูดเสียงสุภาพ : “ลี่ฉิง ไม่เจอกันนานเลยนะ ฉันมากินข้าวกับสามี พวกเธอล่ะ?”
จ้าวลี่ฉิงตะลึงแล้วพูดขึ้น : “เฮ้ย งั้นก็บังเอิญมาก ฉันกับสามีก็มากินข้าวกับสามีเหมือนกัน!”
พูดจบ หล่อนก็ทำเป็นถามขึ้นมาเหมือนสงสัย : “เออใช่ เธอจองตรงไหนไว้เหรอ ห้องธรรมดา ห้องชั้นดีหรือห้องพรีเมี่ยม?”
เซียวชูหรันหันไปหาเย่เฉิน แล้วก็พูดขึ้น : “อันนี้ฉันไม่แน่ใจ สามีฉันเป็นคนจองน่ะ”
และในเวลานี้ จ้าวลี่ฉิงถึงได้หันไปเห็นเย่เฉิน พลันเอามือปิดปากแล้วหัวเราะ : “โอ้ คนนี้คงเป็นเย่เฉินสามีของเธอเหรอ? ตอนสมัยมอปลาย เขาเป็นถึงไอ้แมงดา!”
คำพูดนั้นมีความในแฝงอยู่ แถมยังเหมือนเหน็บแนมด้วย
เซียวชูหรันรู้สึกอายมาก
พอจ้าวลี่ฉิงได้สติ ก็รีบพูดออกมาด้วยความเกรงใจทันที : “โอ้ ขอโทษทีนะ ฉันพูดตรงไปหน่อย ชูหรันอย่าถือสาเลยนะ……”
เย่เฉินขมวดคิ้วทันที จ้าวลี่ฉิงคนนี้ เหมือนจะมาแบบไม่ดี!