ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 456
บทที่ 456
“งานเลี้ยงรุ่นงั้นหรือ?” แม่ยายดูถูกว่า “ตัวเองแก่ปูนนี้แล้ว ยังจะจัดงานเลี้ยงรุ่นสังสรรค์อีกหรือ? ไม่เคยได้ยินหรอ ว่างานเลี้ยงรุ่นมันจัดเพื่อคนรักเก่าเขานัดกันไป!”
“คุณก็อย่าพูดไปทั่วสิ!” เซียวฉางควนพูดว่า “ที่พวกเรานัดกันครั้งนี้ มีแต่เพื่อนผู้ชาย ไม่ได้เชิญเพื่อนผู้หญิงเลย”
“จริงหรือ?” หม่าหลันเผยสีหน้าไม่เชื่อ
เซียวฉางควนก็รีบอธิบายว่า “จริงๆ ห้องของพวกเราเป็นอย่างไรในตอนนั้น คุณก็ไม่ใช่ไม่รู้ มีผู้หญิงแค่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็ไปต่างประเทศหมด ตอนนี้ก็ยังอยู่ต่างประเทศกัน ดังนั้น งานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้ มีแต่ผู้ชาย”
“ฉันไม่เชื่อ! คุณอย่าไปเชียวนะ!” หม่าหลันก็บอกว่า “คุณต้องแอบไปพบยัยคนรักเก่านั่นแหงๆ ! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ!”
เย่เฉินฟังแล้วก็อึ้ง ความหมายของแม่ยายก็คือ พ่อตาเซียวฉางควน ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องราวโรแมนติกอย่างนั้นหรือ?
เซียวฉางควนรีบตอบว่า “มีคนรักเก่าที่ไหนกัน มีแต่เพื่อนผู้ชาย!”
หม่าหลันก็ส่งเสียงไม่พอใจ แล้วก็ไม่สนใจเซียวฉางควน แต่สีหน้าไม่ค่อยดี
เซียวฉางควนก็รีบพูดว่า “ตอนบ่ายจะให้เย่เฉินไปกับผมด้วยพอดี ตอนนี้อาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเรา นั่งรถเข็นแล้ว ตึกเรียนวิทยาเขตเก่าไม่มีลิฟต์ ต้องหาคนวัยรุ่นหนุ่มๆ ไปช่วยยกเขาขึ้นอาคารชั้น5 ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ให้เย่เฉินกลับมารายงานแล้วกัน ถ้ามีผู้หญิงสักคนหนึ่งในงาน ผมจะยอมกลับมาคุกเข่ารับโทษ!”
หม่าหลันยืนกรานพูดว่า “ฉันไม่ให้ไป!”
เซียวฉางควนก็เริ่มโกรธ แล้วพูดว่า “เพื่อสมัยเรียนที่ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว ผมจะเทได้อย่างไรกัน? แล้วอีกอย่าง อาจารย์ที่ปรึกษาเราก็อายุ80กว่าแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตถึงวันไหน ถ้าไม่เจอครั้งนี้ ชีวิตนี้ก็คงจะไม่ได้พบแล้ว!”
เซียวชูหรันทางด้านข้าง ก็เหมือนจะทนดูต่อไปไม่ได้ แล้วพูดว่า “แม่คะ ให้พ่อไปเถอะ อายุปูนนี้กันแล้ว สามารถจัดงานเลี้ยงรุ่นได้นับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าให้คนหัวเราะเพราะผิดนัดเลยค่ะ”
หม่าหลันก็จ้องเธอ แล้วพูดว่า “แกพูดอะไรของแก ปีนั้นพ่อของแกไปยุ่งกับยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ของห้องตั้งหลายปี ถ้าไม่ใช่เพราะแม่หาวิธีจัดการจับพ่อแกไว้ พ่อแกก็คงไปอยู่กับยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้น ยังจะมีแกออกมาหรือ?”
เย่เฉินได้ยินดังนั้น ในใจก็แปลกใจไม่น้อย ฟังไปแล้ว เหมือนว่าแม่ยายตนเองเป็นมือที่สามเลย ทำไมทำเหมือนกับตนเองมีเหตุผลไปได้?
ตอนนี้เซียวฉางควนก็หน้าเสีย แล้วมองหม่าหลัน แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เรื่องอดีตก็อย่ามาเล่าให้เด็กมันฟัง!”
พูดจบ แล้วก็รีบพูดกับเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน อย่าไปฟังแม่แก ยัยแก่นี่วันๆ ปากไม่มีหูรูด เอาแต่หาเรื่องพ่อ……”
เซียวชูหรันก็ทำหน้าไม่ถูก เธอไม่อยากรับรู้เรื่องราวรักสามเส้าของพ่อกับแม่เธอในอดีต ก็เลยพูดกับหม่าหลันว่า “แม่คะ ตอนบ่ายแม่ไปเล่นไพ่นกกระจอก แล้วพ่อก็ไปงานเลี้ยงรุ่น ก็พอดีแล้วไม่ใช่หรือคะ? ให้พ่อไปเถอะ”
เซียวฉางควนก็หันขวับ แล้วพูดท้าทายว่า “ถ้าคุณไม่ให้ผมไปงานเลี้ยงรุ่นละก็ คุณเองก็ไม่ต้องไปเล่นไพ่นกกระจอก เราสองคนก็มานั่งจ้องกันอยู่ที่บ้านนี่แหละ ตาใหญ่จ้องตาเล็ก!”
พอหม่าหลันได้ยินว่าเซียวฉางควนไม่ให้ตนเองไปเล่นไพ่ ก็รีบร้อน แล้วพูดว่า “ไอ้แก่นี่ ไม่ให้ฉันไปเล่นไพ่นกกระจอก มันขัดทางหาเงินของฉันสิ? เฉินซูอี๋ใกล้จะไปอเมริกาแล้ว อาศัยที่เธอยังไม่ไป ฉันต้องเล่นกับเธอหลายๆ ตาหน่อย ฉันเล่นกับเธอตาหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้3-5พัน”
พูดจบ เธอก็มองเย่เฉิน แล้วพูดว่า “เย่เฉิน ตอนบ่ายก็ไปกับพ่อแกซะ ถ้าในงานมีผู้หญิงสักคนละก็ ก็รีบโทรหาฉันเลย ฉันจะรีบเข้าไปฉีกหน้าตาแก่นั่นเสีย!”