ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 524
บทที่ 524
และอีกอย่าง แม้ว่าพวกนั้นจะชอบเขา แต่ไม่แน่ว่าคนในตระกูลจะชอบด้วย
อู๋ตงไห่ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง แล้วพูดขึ้น : “ที่บ้านบอกว่า อาการน้องชายแกไม่ค่อยดี”
“เป็นอะไรเหรอ?” อู๋ซินถามขึ้นอย่างกังวล: “อาการเลวร้ายกว่าเดิมเหรอ?”
“ไม่ขนาดนั้น” อู่ตงไห่พูดขึ้น: “ก็เหมือนเมื่อก่อนแหละ ต้องกินเว้นชั่วโมง แต่ว่าอารมณ์ของน้องชายแกค่อนข้างบ้าคลั่ง เมื่อก่อนตอนที่อาการกำเริบ ถ้าไม่ให้กินก็จะฆ่าตัวตาย พอตอนนี้ให้กิน กินหมด แล้วก็จะเริ่มมีสติ หลังจากนั้น ก็อยากจะฆ่าตัวเองอีก เลยรู้สึกว่าแบบนี้มันทรมานมากเลย”
พูดจบ เขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าอู๋ฉีไปทำอะไรให้ใครไว้ ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ได้
อู๋ซินกัดฟันกรอด : “ถ้าหากผมจับตัวคนที่ทำร้ายน้องชายได้ จะฆ่ามันให้ไม่มีชิ้นดีเลย!”
ที่จริงนั้น
ถึงอู๋ซินจะพูดออกไปแบบนั้น แต่สิ่งที่เขาต้องการที่สุดในใจนั้น ไม่ใช่การล้างแค้น และก็ไม่ใช่การรักษาน้องให้หาย แต่คือการคว้าตัวซ่งหวั่นถิง
สำหรับเรื่องน้องชายเขา ที่จริงเขาไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด
เขากลับรู้สึกว่า สิ่งที่น้องชายเป็นอยู่ตอนนี้ มันดีมากสำหรับเขา
เพราะว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ตัวเขาเองก็จะลดคู่แข่งลงไปคนหนึ่ง
อาการของอู๋ฉีที่เป็นอยู่ตอนนี้ ถ้ารักษาไม่หาย ทั้งชีวิตนี้คงไม่สามารถสืบทอดกิจการอะไรได้ สิ่งเดียวในชีวิตที่เขาจะได้ก็คือถูกเก็บซ่อนไว้ในบ้าน เพื่อให้มีชีวิตต่อไปได้
ถ้าเป็นอย่างนี้ เขาก็จะเป็นคนเดียวที่สามารถสืบทอดทุกอย่างในตระกูลอู๋
อู๋ตงไห่ถอนหายใจยาวๆ อีกครั้งแล้วพูดขึ้น : “เรื่องของน้องแก แกไม่ต้องเป็นห่วง พ่อจะเป็นคนสืบหาเอง แกพยายามตามซ่งหวั่นถิงให้ได้ ต้องเอาหล่อนให้อยู่หมัดให้ได้ เข้าใจไหม?”
อู๋ซินรีบพยักหน้ารับ: “เข้าใจแล้ว!”
อู๋ตงไห่ตอบรับ แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง: “วันนี้ที่ฉันจัดงานขึ้นที่เทียนเซียงฝู่ ได้เชิญคนดูแลตระกูลหวัง ตระกูลฉิน ตระกูลหลิว ตระกูลจ้าวและก็ตระกูลขง กลุ่มคนพวกนี้ล้วนแต่มีอิทธิพลในจินหลิงมานานหลายปีแล้ว ทั้งสายเลือด ทั้งฐานะ ล้วนแต่เป็นตระกูลดีๆทั้งนั้น
“และก็หัวหน้าจินหลิงอย่างหงห้า ก็ได้รับเชิญมางานนี้ด้วย เขาเป็นคนที่จัดการทุกอย่างในจินหลิง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกงาน แต่ทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของเขาหมด ไม่ว่าเรื่องอะไรสำคัญแค่ไหนในจินหลิงก็ไม่รอดพ้นสายตาของเขาไปได้ ดังนั้นวันนี้แกก็เข้าไปตีสนิทกับคนพวกนี้ให้มากๆ เพราะมันจะเป็นประโยชน์ในการตามซ่งหวั่นถิงอย่างมากเลย”
อู๋ซินรู้จักเพียง ตระกูลหวังกับตระกูลฉิน และคนที่คอยดูแลทั้งสองตระกูลนี้คือหวังเจิ้งกางกับฉินกาง พอจะรู้เรื่องอำนาจของพวกเขาอยู่บ้าง แต่สำหรับตระกูลอื่นนั้นเขาไม่ค่อยรู้เลย จึงได้ถามขึ้น: “พ่อ นอกจากตระกูลหวังกับตระกูลฉินแล้ว ตระกูลที่เหลืออย่างตระกูลหลิว ตระกูลจ้าว แล้วก็ตระกูลขงนี่ทำธุรกิจอะไร?”
อู๋ตงไห่ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ตระกูลจ้าวกับตระกูลขงนั้นทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เป็นแค่ตระกูลทั่วๆ ไป ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมาก แต่ว่าตระกูลหลิวนี่น่าสนใจ ตระกูลหลิวทำเกี่ยวกับธุรกิจการเงิน แถมยังทำแบบผิดกฎหมาย เกี่ยวกับการกินดอกเบี้ยสูง สองปีมานี้จึงโดดเด่นมาก ในมือเขายังมีพวกที่คอยเก็บเงินและทำงานให้อยู่มาก”
อู๋ซินตะลึงจนพูดขึ้น : “ถ้างั้นก็มีลักษณะคล้ายกับหงห้าเหรอ?”
“คล้ายๆ กัน” อู๋ตงไห่พยักหน้ารับ แล้วพูดขึ้น: “แต่ว่ายังด้อยกว่าหงห้าเยอะ หงห้ามีคนในจินหลิงมากมาย เยอะว่าคนของหลิวกว่างเป็นสิบเท่า ดังนั้นหลิวกว่างเลยเกลียดหงห้าเข้ากระดูก แต่ก็ทำอะไรหงห้าไม่ได้”
“หลิวกว่างเกลียดหงห้าเหรอ?” อู๋ซินถามขึ้นอย่างอึ้งๆ : “พวกเขาสองคนมีเรื่องขัดแย้งกันเหรอ?”
อู๋ตงไห่หัวเราะออกมา: “ขัดแย้งกันมาก หลิวกว่างมีลูกคนเดียว ชื่อหลิวหมิงไม่กี่วันก่อนไม่รู้ไปทำอะไรให้หงห้าโกรธ หงห้าเลยใช้มีดสักลงบนหน้าผากเป็นคำ”
“คำว่าอะไร?”
“จนจนตาย!”
——–