ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 526
บทที่ 526
รถยังไม่ทันจอด อู๋ซินเงยหน้าขึ้นก็เห็น ชายคนหนึ่งอยู่ด้านนอกรีบเข้ามาต้อนรับทันที เขายืนอยู่ข้างกระจกรถ แล้วโค้งตัวทำความเคารพอย่างนอบน้อมให้กับพ่อของตัวเอง
อู่ตงไห่หันไปพยักหน้าให้เขา แล้วก็พูดกับอู๋ซิน: “คนนี้ ก็คือคนที่พ่อบอกว่าชื่อ หลิวกว่าง”
อู๋ซินตกใจจนตาค้าง
พอรถจอดนิ่งแล้ว หลิวกว่างก็รีบยื่นมือมาเปิดประตูรถให้อู๋ตงไห่ แล้วพูดขึ้นพร้อมยิ้มหน้าบาน: “หลิวกว่าง ทำความเคารพท่านประธานอู๋กับคุณชายอู๋…….”
อู๋ตงไห่ตอบรับ แล้วพูดเสียงเรียบ: “มาได้เร็วดีนี่”
หลิวกว่างรีบพูดขึ้นทันที: “กระผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะเชิญมางานเลี้ยงด้วย ดังนั้นเลยกลัวว่าจะมาสาย”
เดิมที ตลอดทั้งชีวิตนี้หลิวกว่างจะไม่มีทางมาเหยียบที่เทียนเซียงฝู่เด็ดขาด
เพราะหงห้าไม่ใช่แค่สักลงไปที่หน้าลูกชายคนเดียวของเขาเท่านั้น แถมยังมีข้อแม้ให้ทุกๆ วันศุกร์ ลูกชายเขาต้องมารายงานที่เทียนเซียงฝู่ด้วย เพื่อให้เขาได้ตรวจสอบว่ารอยที่หน้าผากไม่มีปัญหาอะไร ถ้าหากว่ารอยมันบางเกินไป ก็ต้องสักลงไปเพิ่ม ถือได้ว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานมาก!
ความน่าอับอายนี้ ทำให้หลิวกว่างเคียดแค้นหงห้าจนเข้ากระดูก ดังนั้น ถึงจะให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีทางมาในที่ของหงห้าเด็ดขาด
แต่ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
ถึงเขาจะฝันไปก็ไม่คาดคิดว่า คนใหญ่โตอย่างตระกูลอู๋ อู๋ตงไห่ จะโทรติดต่อเขา เพื่อจะเลี้ยงข้าวที่เทียนเซีงฝู่ แถมเขายังได้รับเชิญเป็นแขกในงานอีกด้วย
เขาเป็นถึงอู๋ตงไห่ ตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนานเลย!
หรือพูดได้ว่าเป็นตระกูลที่มีอำนาจอันดับหนึ่งในเจียงหนานเลยก็ว่าได้!
หลิวกว่างที่กำลังโมโหที่ตัวเองไม่มีอำนาจมาก พอได้รับโทรศัพท์เชื้อเชิญจากอู๋ตงไห่ ก็ถือเป็นการเชิญที่ให้เกียรติมาก และถึงเขาจะไม่ชอบหน้าหงห้ามากแค่ไหน เขาก็ต้องเก็บและอดทนเอาไว้ เพื่อให้ได้มาในงานนี้
และอีกอย่าง หลิวกว่างต้องการจะใช้โอกาสที่มางานนี้ ตีสนิทกับคนตระกูลอู๋ อย่างน้อยถึงเป็นแค่สุนัขรับใช้ก็ยังดี ถ้าเป็นแบบนั้นได้ ตัวเขาก็จะมีโอกาสแก้แค้นคืนหงห้าได้!
อู๋ตงไห่พยักหน้ารับอย่างพอใจ แล้วพูดขึ้น : “หลิวกว่าง ท่าทีของคุณถือว่าใช้ได้ ทำต่อไปนะ”
พอหลิวกว่างได้ยินแบบนั้น ก็ตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งตัว พร้อมกับรีบโค้งตัวให้กับอู๋ตงไห่ แล้วพูดขึ้นอย่างประจบ : “ท่านประธานอู๋ กระผมพูดตามตรง กระผมให้ความเคารพตระกูลอู๋มานานแล้ว และก็ชื่นชมชื่อเสียงของประธานอู๋มาตลอด ถ้าหากว่าท่านประธานไม่รังเกียจละก็ ให้โอกาสผมได้ทำงานให้จะได้ไหม?กระผมจะพยายามสุดความสามารถ ยอมทำตามที่ประธานสั่งทุกอย่าง ยอมเป็นทาสรับใช้ให้ท่านประธานเลย!”
อู๋ตงไห่มองเขาแวบหนึ่ง แล้วรู้สึกว่าท่าทีเขาดูใช้ได้เลยทีเดียว
แต่ว่า เขายังคิดจะลองใจดูอีกสักหน่อย จึงพูดขึ้น: “ยอมเป็นสุนัขรับใช้ตระกูลอู๋ คุณยังไม่มีความสามารถพอ แต่ดูจากท่าทางแล้วก็ถือว่าใช้ได้อยู่ แต่ถึงยังไงต่อไปผมก็ต้องการคนทำงานในจินหลิงให้สักคน คุณก็ลองตั้งใจทำงานให้ผมก่อน หลังจากนี้ผมไม่ทำให้คุณเสียใจแน่”
หลิวกว่างแสดงออกมาว่าดีใจมาก แล้วก็ยื่นมาคำนับเขาไม่หยุด พลางพูดขึ้น: “ขอบพระคุณท่านประธานมากๆ เพื่อรับใช้ท่านประธาน กระผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถ!”
อู่ตงไห่ตอบรับคำหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้น: “พอแล้ว เวลาก็น่าจะสมควรแล้ว ผมว่าหงห้าก็คงเตรียมทุกอย่างรอแล้ว คุณเข้าไปพร้อมกันกับผมละกัน”
พอได้ยินหงห้าสองคำ หลิวกว่างก็มีทีท่าโกรธแค้นอย่างมาก แต่เขาก็ยังต้องโน้มตัวลงอยู่ เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้อู๋ตงไห่เดินมา แล้วก็พูดขึ้นอย่างถ่อมตน: “เชิญท่านประธานอู๋!”