ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 605
บทที่ 605
คนในห้องอาหาร ก็ตกใจกับเสียงดังสนั่นที่ดังขึ้น
ทุกคนรีบไปดู ก็เห็นชายวัยกลางคนรูปร่างใหญ่คนหนึ่ง เดินหน้านิ่งเข้ามาให้ห้องอาหาร
ส่วนด้านหลัง ก็มีชายวัยกลางคน4คน เดินวางมาดองอาจเข้ามาด้านใน
5คนนี้ ก็คือบอดี้การ์ดประจำตัวของอู๋ตงไห่
หลิวกว่างและหลิวหมิง ก็เดินชูคออยู่ตามก้นชายพวกนี้ ใบหน้าแสยะยิ้ม อย่างบ้าระห่ำ
หงห้าเห็นหลิวกว่างและหลิวหมิงสองพ่อลูก ก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดเสียงเย็นว่า “พ่อแกสองพ่อลูกก็ชั่งกล้าดีจริงๆ เลยนะ ถึงกล้าบุกมาถีบประตูบุกเข้ามาที่เทียนเซียงฝู่ของผม? ”
หลิวหมิงก็พูดเสียงนิ่งว่า “ไอ้หงห้า จะตายห่าอยู่แล้ว ยังจะเสแสร้งอะไรอีกวะ? จะบอกให้ ก่อนหน้ามึงเหยียดหยามกู กูไม่เคยลืมเลย วันนี้กูมาเอาชีวิตมึง!”
พอพูดคำนั้นออกมา ทุกคนก็อึ้งไปตามๆ กัน!
ตนเองไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม?
ถึงได้มีคนหาญกล้า จะมาเอาชีวิตของท่านหงห้า?!
ในตอนนี้หงห้าก็พูดประชดว่า “อย่างจะได้ชีวิตผมรึ? คุณคิดว่าผมโง่รึไง? คุณรู้ไหม ว่าในจินหลิงผมมีลูกน้องเท่าไร? ”
หลิวกว่างก็พูดเสียงเย็นตอบไป “กูจะบอกให้นะหงห้า มึงจะมีลูกน้องเท่าไรก็ไร้ประโยชน์แล้ว ยามในเทียนเซียงฝู่ทั้งหมด10กว่าคน กูจัดการไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครช่วยมึงได้แล้ว!”
พูดไป เขาก็ชี้ไปทางจางจื่อโจว แล้วพูดด้วยใบหน้าอำมหิตว่า “ท่านนี้เป็นยอดฝีมือของตระกูลอู๋ วันนี้มีเขาอยู่ที่นี่ ต่อให้มึงมีปีกก็หนีไม่ได้แล้ว จะต้องตายอย่างไรที่ฝังอย่างแน่นอน!กูจะให้โอกาสมึง มาคุกเข่าตรงหน้าหู เลียรองเท้ากูให้สะอาด กูจะให้มึงมีศพครบ32 ไม่เช่นนั้นล่ะก็ วันนี้กูจะสับมึงให้เป็นหมื่นชิ้น!”
ท่านหงห้าได้ยินดังนั้น ในใจก็กังวลขึ้นมาเล็กน้อย
ดูเหมือนว่า ตนเองจะประมาทไปหน่อยแล้ว!
หลายปีมานี้ ตนเองอยู่ในจินหลิง ได้รับความเคารพให้เกียรติมาตลอด ทำให้เขาไม่เชื่อแล้วว่า ในจินหลิงมีคนที่กล้าทำอะไรกับตนเอง
ดังนั้น ข้างกายเขาก็เลยไม่มีบอดี้การ์ดติดตามตัวอยู่ตลอดเวลา
เพราะคิดว่า ยาม10กว่าคนในเทียนเซียงฝู่ก็มีฝีมือไม่ธรรมดา เพียงพอต่อการปกป้องตนเองให้ปลอดภัย
แต่ไม่คิดเลยว่า ตระกูลอู๋จะลงมือกับตนเอง!
อีกอย่าง บอดี้การ์ด5คนของตระกูลอู๋ ดูไปแล้วก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นยอดฝีมือ
ดูเหมือนว่า วันนี้ตนเองพาคนมา20คน ก็ไม่อาจสู้กับ5คนนี้ได้!
ในตอนนี้ หลิวหมิงก็ชี้ไปยังเซียวฉางควน แล้วถามเสียงเย็นว่า “มึงใช่ไหมที่เป็นพ่อตาของไอ้เย่เฉิน?!”
เซียวฉางควนก็ใจเต้น “คุณ…….คุณจะทำอะไร?!”
“กูจะทำอะไรงั้นรึ? ” หลิวหมิงหัวเราะเย็น แล้วพูดว่า “ไอ้เย่เฉินคนกระจอก ไม่เพียงเหยียดหยามกู ยังดูถูกพ่อกู คิดว่าพวกกูสองพ่อลูก
จะให้รังแกง่ายๆ หรอวะ? วันนี้มันไม่อยู่ถือว่าโชคดีไป ไม่เช่นนั้นล่ะก็ วันนี้ก็จะฆ่ามันด้วย ให้มันจบๆ ไป”
พูดจบ หลิวหมิงก็มองเซียวฉางควน แล้วพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “แต่ว่า ในเมื่อวันนี้ไอ้เย่เฉินไม่อยู่นี่ มึงเป็นพ่อตามัน ก็มาชดใช้แทนมันก็แล้วกัน!”
พอเซียวฉางควนได้ยินดังนั้น ก็ตกใจอ้าปาก ถามอย่างร้อนรนว่า “คุณ….คุณหมายความว่าอย่างไร……จะทำอะไร? ”
“กูจะทำอะไรงั้นหรือ? ” หลิวหมิงกัดฟันพูดว่า “กูก็จะฆ่ามึงไง!แล้วให้ลูกชายมึงมาเก็บศพมึง!”
เซียวฉางควนก็ตกใจ แล้วก็รีบเข้าไปหลบใต้โต๊ะ
บนโต๊ะ คนของสมาคมศิลปะจีนก็หวาดกลัวไปตามๆ กัน รีบไปหลบตามผนัง
ตอนนี้จางจื่อโจวก็เอ่ยปากขึ้นว่า “คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับไอ้หงห้าและเซียวฉางควน ไสหัวออกไปให้หมด!ไม่เช่นนั้นกูจะฆ่าให้หมด!”
พอสิ้นเสียง พวกของประธานเพ๋ยก็พากันวิ่งออกไป
สวี่เหวินหย่วน เพื่อนของเซียวฉางควนก็ทำอะไรไม่ถูก เขาอยากหนี แต่เห็นว่าเซียวฉางควนมีอันตรายอยู่ที่นี่ ไม่อาจจะทิ้งเขาไว้ที่นี่ได้