ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 611
บทที่ 611
ในตอนนี้จางจื่อโจวก็แทบจะพิการ เจ็บตัวไปทั่วร่าง ความกล้าและพละกำลังก็มลายหายสิ้นไปหมด!
เขามองเย่เฉินอย่างสิ้นหวัง ที่ในใจคิด ก็มีแต่ผู้อ่อนแอที่ถูกตนเองฆ่าตาย
หรือว่า วันนี้ตนเองจะต้องมีจุดจบเดียวกับผู้อ่อนแอพวกนั้นแล้ว? ถูกยอดฝีมือที่ไม่สามารถประมือได้ เข่นฆ่างั้นหรือ?!
พอคิดถึงจุดนี้ ในใจจางจื่อโจวก็กลัวอย่างสุดขีด!
พลังของเขานั้นก็มากอยู่ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่กลัวตาย
กลับกัน
เขายิ่งฆ่าคนมามาก เขายิ่งรักชีวิต
เขาอยากมีชีวิตรอด เขาอยากมีชีวิตที่สบายๆ มีอยู่มีกิน ใช้ชีวิตชิลๆ
ดังนั้น เขาก็เลยมาอยู่กับตระกูลอู๋ เพื่อช่วยกันทำชั่ว
ศัตรูของตระกูลอู๋ เขาฆ่าเอง พอฆ่าแล้ว ก็จะได้รับเงินจากตระกูลอู๋จำนวนมาก
หลายปีมานี้ ที่มีชีวิตสุขสบาย เขายิ่งคิดว่ามีชีวิตอยู่มันดีเพียงใด
ดังนั้น ตอนนี้จะให้เขาตายไป ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รับมันไม่ได้
ดังนั้น เขาก็ร้องไห้พูดกับเย่เฉินว่า “อาจารย์เย่ครับ ผมมีตาแต่ไร้แววเองครับ ไม่รู้ว่าคุณมีพลังมากมายขนาดนี้ ขอให้คุณคิดว่าผม
ทำงานให้กับตระกูลอู๋เท่านั้น คิดว่าผมรับคำสั่งมาจากตระกูลอู๋เท่านั้น ปล่อยผมไปเถอะครับ!”
เย่เฉินพูดเสียงเย็น “ก็เพราะว่ามึงทำงานให้ตระกูลอู๋นี่แหละ กูเลยยิ่งรู้สึกว่ามึงสมควรตาย!”
พูดไป เย่เฉินก็กระทืบลงไปที่หัวไหล่ขวาของเขา ทำให้แขนขวาของเขาใช้การไม่ได้!
จางจื่อโจวเจ็บปดจนร้องโอดโอย เย่เฉินก็พูดอย่างรังเกียจว่า “ใครมีความแค้นกับกู แล้วมาฆ่ากู กูยังพอเข้าใจ แต่มึงไม่มีความแค้น
กับกู แต่มึงมาฆ่ากูเพราะเงิน มึงว่า มึงสมควรตายมากกว่าศัตรูของกูไหม? ”
“ผมขอโทษครับ อาจารย์เย่……”
จางจื่อโจวไม่คิดเลยว่า พออยากจะอธิบายให้ตนเอง กลับทำให้เย่เฉินยิ่งไม่พอใจ ตอนนี้แขนทั้งสองข้างของตนเองแหละกละเอียด ต่อไปนี้ แขนทั้งสองก็จะกลายเป็นเหมือนกับแขนเสื้อ ห้อยต่องแต่ง ส่ายไปมาพร้อมกับร่างกาย ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ!
ตอนนี้เย่เฉินก็หันหน้ามา แล้วมองหลิวกว่างสองพ่อลูกที่กำลังตกใจจนเอ๋อ พร้อมพูดว่า “มึงสองคนที่ก็โอหังไม่เบานะ พ่อตาของกู มึงยังกล้าทำร้ายงั้นรึ? ”
หลิวกว่างสองพ่อลูกที่เดิมทียังโอหังใหญ่โต ตอนนี้ก็ตกใจจนเอ๋อไปแล้ว!
ต้องรู้ก่อนว่า ทั้ง5คนที่ถูกเย่เฉินจัดการไป ถึงแม้จะยังเป็นหนุ่ม แต่ก็ยังเป็นบอดี้การ์ดคนสนิทของอู๋ซิน มีพลังไม่น้อย
แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่า คนพวกนี้จะถูกโจมตีเช่นนี้ ถึงขั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เฉินเลย!
พอคิดถึงจุดนี้ ในใจของหลิวหมิงก็ร้อนรน
เขาเอามีดพกจี้ไปยังลำคอของเซียวฉางควน แล้วพูดเสียงสั่นว่า “เย่เฉิน มึงหยุดเลยนะ!ไม่เช่นนั้น กูจะฆ่าพ่อตามึงเสีย!”
เซียวฉางควนก็ตกใจแทบจะตาย แล้วรีบพูดกับเย่เฉินว่า “เย่เฉิน ช่วยพ่อด้วยเย่เฉิน!”
ในตอนนั้นเอง หลิวกว่างก็ยกมือ ตบบ้องหูไปที่หลิวหมิงอย่างแรง จนหลิวหมิงมึน
หลิวหมิงยังตั้งสติมาไม่ได้ จับหน้าป้าปากค้างถามว่า “พ่อครับ ตบผมทำไม?!”
หลิวกว่างก็ตะหวาดว่า “ไอ้ลูกโง่ กล้าเอามีดไปจี้คอของพ่อตาอาจารย์เย่ได้อย่างไร อยากตายรึไง?!ยังไม่รีบคุกเข่าให้อาจารย์เย่อีก!”
พอด่าลูกตนเองเสร็จ หลิวกว่างก็หันตัว คุกเข่าลงที่พื้น แล้วก็รีบร้องไห้พูดว่า “อาจารย์เย่ครับ ผมถูกพ่อลูกตระกูลอู๋หลอกลวง พวกเขาให้ผมมาฆ่าหงห้า จากนั้นมันก็จะช่วยยกผมขึ้นตำแหน่งของหงห้า แล้วยังบอกว่าให้ฆ่าคุณด้วย เพื่อแก้แค้นให้กับลูกชายเขา ขอให้คุณคิดเสียว่าผมเลอะเลือน แล้วปล่อยผมไปเถอะครับ!”
หลิวหมิงเป็นคนไม่มีสมอง แต่หลิวกว่างไม่ใช่
เขารู้ดีว่า สถานการณ์ตอนนี้ถูกเย่เฉินควบคุมไว้หมดแล้ว ถ้าตอนนี้ยังหาเรื่องกับเย่เฉินอีกล่ะก็เหมือนกับการรนหาที่ตาย!
ถึงแม้เขาจะอยากนั่งตำแหน่งของหงห้ามาก แต่ก็ต้องมีชีวิตมานั่งด้วย ดังนั้น ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลอู๋ หรือตระกูลใหญ่ในเจียง
หนาน หรือราชาใต้อะไรของจินหลิง ก็ไม่สนสำหรับเขาแล้ว ขอเพียงมีชีวิตรอดก็พอ มีชีวิตรอดอย่างเดียว
ไม่เช่นนั้น ต่อให้เย่เฉินใจดี แล้วปล่อยตนเองมีชีวิตรอด ก็คงจะกระทบตนเองจนเหมือนกับจางจื่อโจวแน่