ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 626
บทที่626
เมื่อหัวหน้ารักษาความปลอดภัยของป่ายจินฮ่านกงเห็นเล่นนี้ ก็นำทีมมาทันที และรีบวิ่งไปหยุดพวกเขา พูดอย่างเย็นชาว่า:”พวกคุณ อย่าสร้างปัญหาหน้าประตูป่ายจินฮ่านกง มิฉะนั้นอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ!”
จางจื่อโจวรู้ว่าผู้จัดการของป่ายจินฮ่านกงเฉินจื๋อข่ายมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง จึงรีบหยุดทันที เรียกคนรอบข้างหยุดด้วย และพูดกับคนขับว่า:”วันนี้ถือว่านายโชคดี คราวหลังระวังตัวด้วย ไม่งั้นกูจะฆ่ามึง!”
พูดจบ ก็พาคนเข้าไปในป่ายจินฮ่านกง
ทันทีที่พวกเขากำลังจะเข้าไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยื่นมือเข้ามาห้ามพวกเขาทันที และผู้จัดการล็อบบี้ก็รีบเข้ามาและพูดว่า:”ขออภัยครับ พวกคุณแต่งตัวไม่เหมาะสม และใบหน้าไม่ดี ตามกฎระเบียบ ไม่สามารถเข้าไปในโรงแรมป่ายจินฮ่านกงของเราได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จางจื่อโจวก็ทำหน้านิ่ง และพูดอย่างเหยียดหยามว่า:”พวกเราเป็นคนของตระกูลอู๋ในซูหาง นายเป็นแค่ผู้จัดการเล็กๆ เป็นใคร ถึงกล้ามาขวางฉัน?!”
ผู้จัดการล็อบบี้ขมวดคิ้ว และยังคงพูดด้วยท่าทีที่หนักแน่นว่า:”คุณผู้ชายครับ ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะมาจากตระกูลอู๋ในซูหาง หรือคนของตระกูลไหน ตามระเบียบแล้ว คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในป่ายจินฮ่านกง!”
หลังจากพูดจบ เขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า:”ใบหน้าของพวกคุณ ทำให้แขกของเรากลัวหมดแล้ว และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของโรงแรมของเรา เชิญออกไปเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น คุณจะต้องรับผิดชอบทุกอย่าง!”
จางจื่อโจวโกรธมาก พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:”ฉันไว้หน้าประธานเฉินพวกนาย ไม่อัดนาย แต่ถ้านายหาเรื่องอีก งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนายแล้วกัน!”
ผู้จัดการล็อบบี้ก็ไม่ยอมสักนิด พูดออกมาว่า:”ขออภัย กฎก็คือกฎพวกคุณไม่สามารถเข้าป่ายจินฮ่านกงได้!”
จางจื่อโจวกัดฟันแน่น
อย่าว่าแต่ผู้จัดการล็อบบี้เลย ถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนี้เข้ามาพร้อมกัน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาทั้งห้าคนเลย ทุกคนพึ่งทักษะของขา ก็จัดการคนเหล่านี้ได้หมด
แต่ว่า อีกฝ่ายคือหมาของเฉินจื๋อข่าย นี่มันคงจะยากหน่อย ถ้าหากได้ทำผิดกับเฉินจื๋อข่าย มันคงจะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปสินะ?
และในเวลานั้นเอง เสียงเอะอะของพวกเขา ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายในล็อบบี้
มีหลายคนดูพวกเขาแล้วซุบซิบคุยกัน จางจื่อโจวตั้งใจฟัง แล้วเห็นว่าคนพวกนี้กำลังคุยกันว่าบนหน้าผากของพวกเขาสลักตัวอะไรกัน
เขาโมโหมากมันที ไม่อยากอยู่ที่นี่ให้ทุกคนล้อมดู จากนั้นก็หน้าบึ้งแล้วพูดกับผู้จัดการล็อบบี้ว่า:”ฉันให้เวลานายสามวิ ไปให้พ้นหน้าฉัน ไม่อย่างนั้น ก็อย่าหาว่ากูไม่เกรงใจมึง!”
ผู้จัดการล็อบบี้ก็โกรธเล็กน้อย พูดกับหัวหน้ารักษาความปลอดภัยว่า:”หัวหน้าจาง คนเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของป่ายจินฮ่านกงมาก ไล่พวกเขาออกไปให้หมด!”
จางจื่อโจวโกรธมาก ตะโกนด่าว่า:”ให้หน้าแล้วไม่เอา อัดมัน!”
พูดจบ เขาก็เข้าไปคนแรก เตะผู้จัดการล็อบบี้กลิ้งลงบนพื้นเลย เตะจนเลือดออกปากทันที
จางจื่อโจวถุยเสลดปนเลือดใส่หน้าเขา แล้วด่าว่า:”อยากหาที่ตายดีนัก ถ้ากล้าพูดมากอีก เชื่อไหมเดี๋ยวกูจะฆ่ามึงเอง!”
ผู้จัดการล็อบบี้ทนกับความเจ็บปวดอย่างมาก และสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนที่อยู่ข้างหลังว่า:”ไล่พวกเขาทั้งหมดที่กล้าก่อปัญหาในป่ายจินฮ่านกง ออกไปให้หมด!”
แต่พอสั่งออกไป เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังไม่ทันตอบสนอง ไม่คาดคิดเลยว่า บอดี้การ์ดอีกสี่คนของตระกูลอู๋ก็รีบวิ่งไปข้างหน้าทันที ก็เตะอย่างบ้าคลั่งในทันที!
คนกลุ่มนี้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมากต่อหน้าเย่เฉิน และพวกเขาก็อดกลั้นความโกรธไว้ตลอด แล้วทันใดนั้นก็มีเป้าหมายที่ทำให้โกรธเคือง พวกเขาก็เสียสติไป และระบายอารมณ์กับคนกลุ่มนี้อย่างดุเดือด แค่ต้องการอัดคนข้างหน้าจนตาย เพื่อคลายความแค้นในใจ
แม้ว่าเย่เฉินจะทำให้มือของพวกเขาหัก แต่พวกเขาก็ฝึกมาแต่เด็ก ขาและเข่าของพวกเขา สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ได้
ดังนั้น ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อ่อนแอเหล่านี้ทั้งหมดจึงถูกโค่นล้มลงกับพื้น ทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียประสิทธิภาพในการต่อสู้
เมื่อเห็นว่าคนเหล่านี้กำลังจะตาย และถ้าอัดต่อไปพวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน จางจื่อโจวจึงขอให้ทุกคนหยุดการโจมตีและพูดอย่างเย็นชาว่า:”ไอ้พวกหมาบ้า ยังกล้ามาสู้กับคนของตระกูลอู๋ ถุ้ย ก็ไม่ดูว่าตัวเองเป็นใคร!”
พูดจบ เขาก็พาคนตรงไปที่ลิฟต์ แล้วขึ้นไปชั้นบน