ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 63 อู่หลินเฟิง
บทที่ 63 อู่หลินเฟิง
มองดูฉินเอ้าตงที่ยังคงปากแข็ง เย่เฉินส่ายหน้าไปมา หัวเราะด้วยความเย้ยหยัน:“แม้แต่น้ำเต้าหยกกับฝ้าหยกนายยังแยกแยะไม่ออก? คำโบราณว่าเอาไว้ “หยกทองอยู่ในเก้าทวาร เพื่อไม่ให้คนตายเน่าเปื่อย” คำพูดนี้นายคงจะรู้อยู่มั้ง?”
“หยกทองอะไร คนตาย?” ฉินเอ้าตงมึนงง
เย่เฉินทำสีหน้า “เด็กคนนี้ไม่สามารถสอนได้” ส่ายหน้าแล้วพูด:“แม้แต่อันนี้ก็ไม่รู้หรอ? หยกเก้ากายทวารนายคงเคยได้ยินอยู่มั้ง?”
“หยกเก้ากายทวารอะไร?” ฉินเอ้าตงงงยิ่งกว่าเดิม มองดูเย่เฉินด้วยความมึนงง
ถึงแม้ฉินเอ้าตงจะชอบเล่นวัตถุโบราณ แต่เขาไม่มีความคิดไปศึกษาเรื่องพวกนั้น คนอื่นบอกว่าอะไรดี เขาก็ซื้ออันนั้น แล้วออกไปอวดรวยก็เท่านั้น
“คนโง่!”
เย่เฉินหัวเราะในลำคอแล้วพูด:“ หยกเก้ากายทวาร คือฝ้าหยกที่คนตายใช้ยัดทวารทั้งเก้า หู จมูก ปากและตามีทั้งหมดเจ็ดรู บวกกับรูตรงอวัยวะเพศ รูขับถ่าย รวมทั้งหมดเก้าทวาร”
“คนตาย!!” ฉินเอ้าตงอ้าปากกว้าง ดวงตาเบิกกว้างเป็นวงกลม
เขามองดูหยกที่แขวนอยู่บนคออย่างไม่เชื่อสายตา ขนที่อยู่ด้านหลังลุกซู่ขึ้นมากะทันหัน
ให้ตายสินี่มันเป็นของที่อยู่บนร่างกายคนตาย?
เย่เฉินพูดเย้ยหยัน:“ดูท่านายคงไม่รู้จริงๆ ของที่อยู่ในมือนาย เป็นหยกที่คนตายใช้ยัดรูขับถ่าย ซึ่งก็คือทวารหนัก แต่นายเอามาแขวนไว้บนคอ ไม่รู้สึกเหม็นหรือไง?”
ฉินเอ้าตงไม่พูดอะไรอีก เบิกตากว้างมองดูน้ำเต้าหยกในมือ ความสะอิดสะเอียนเอ่อล้นขึ้นมากะทันหัน
น้ำเต้าหยกนี้ ใช้สำหรับยัดตรงนั้น!
แต่ตนกลับมองมันเป็นของมงคล สวมเอาไว้ที่คอมานานกว่าสามปี……
สิ่งที่ทำให้เขาโมโหที่สุดก็คือ เพราะตนชอบจี้หยกชิ้นนี้มาก จึงชอบคาบเอาไว้ที่ปากเล่น……
ซึ่งมันก็เท่ากับว่า กิน(ขี้)ของคนโบราณ?
“แอว๊ะ!”
ฉินเอ้าตงไม่สามารถทนต่อไปได้แล้ว โค้งตัวลงอาเจียน
กลุ่มคนที่เมื่อกี้ยื้อแย้งกันดู ตอนนี้ต่างพากันมองดูเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน
ทั้งยังมีคนดีใจบนความทุกข์ของคนอื่น หัวเราะเยาะฉินเอ้าตงที่ตาบอด เสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อของอัปมงคลแบบนี้
เย่เฉินพูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก:“ยังมีอีก หยกชิ้นนี้ถูกยัดอยู่ในตัวศพเป็นเวลานาน ดึงดูดพลังชี่พิฆาตเอาไว้มาก ไม่ใช่หยกมงคลเปลี่ยนร้ายเป็นดีอีกแล้ว แต่เป็นของที่อัปมงคลมาก! ถ้าขืนนายยังใส่ต่อไป เวลาไม่ถึงหนึ่งปีต้องตายอย่างแน่นอน”
สิ้นเสียงของเขา คนที่อยู่รอบตัวฉินเอ้าตง “ครืด” ถอยห่าง กลัวว่าจะแปดเปื้อนความอัปมงคลจากตัวเขา
จางเอ้อเหมาที่ยืนอยู่ข้างฉินเอ้าตง รีบคลุกคลานพร้อมวิ่งไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
ถึงแม้เขาจะมีความรู้ไม่มาก หลอกลวงคนอื่นไปวันๆ แต่เขาก็เคยคบค้ากับนักขโมย รู้ว่าสิ่งที่เย่เฉินพูดไม่ได้พูดลอยๆ!
ฉินเอ้าตงเองก็ตกใจ เงยหน้าขึ้นมองเย่เฉิน
สีหน้าของเย่เฉินนิ่งสงบ เอ่ยพูด:“ปีนี้นายทำอะไรก็ไม่ราบรื่นเลยใช่ไหม? เคยประสบอุบัติเหตุจนได้เลือดมาก่อน?”
ฉินเอ้าตงมองดูเย่เฉินด้วยความตกตะลึง เขานิ่งงันไปแล้ว
ปีนี้เขาโชคไม่ดีเท่าไหร่ ตอนต้นปีเพิ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถ้าไม่ใช่เพราะวันนั้นขับรถฮัมเมอร์ที่รับการชนได้ดี ชีวิตน้อยๆของเขาคงจะเสียไปแล้ว
แต่ว่า คนขับรถตายในที่เกิดเหตุทันที ส่วนเขาซีโครงหักไปสองท่อน นอนโรงพยาบาลนานกว่าครึ่งเดือนถึงจะได้กลับบ้าน
เหงื่อเย็นไหลออกมาเต็มตัวฉินเอ้าตง กระชากสร้อยที่อยู่บนคอออกมา โยนไปให้ไกล
ทุกคนรีบถอยหลังหนี กลัวว่าปัญหาจะเกิดขึ้นกับตน
มองดูท่าทีร้อนตัวของฉินเอ้าตง เย่เฉินหัวเราะในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้ตนพูดเตือน ฉินเอ้าตงใส่จี้หยกนี้ต่อไป ไม่เกินปีนี้ ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“แกเป็นใครกันแน่!” ฉินเอ้าตงกัดฟันกรอด จ้องมองเย่เฉินด้วยความโกรธเคือง
คนๆนี้รู้มากเกินไปแล้ว หรือว่าเป็นคนที่ศัตรูส่งมา?
“ฉันเป็นคนที่นายไม่มีปัญญาหาเรื่อง”
เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก หมุนตัวหันหลังกำลังจะเดินจากไป
ฉินเอ้าตงเห็นว่าเขาจะจากไป นึกว่าเย่เฉินคิดอยากจะหนี จึงพูดตะโกนด้วยความโมโหทันที:“จับมันเอาไว้!กล้ามาหาเรื่องฉัน เจ้าหนุ่มคนนี้ต้องมีคนคอยบงการอยู่เบื้องหลังแน่นอน!”
“ไม่มีปัญญาหาเรื่อง? หึๆ ทั่วทั้งเมืองจินหลิง ไม่มีใครที่ฉันคุณชายฉินไม่มีปัญญามีเรื่องด้วย!”
“ล็อคตัวมันเอาไว้ ตีขามันให้หัก ถามให้รู้แน่ชัดว่ามันเป็นใครกันแน่ ถึงกล้ามาหาเรื่องตระกูลฉินของฉัน”
เขาคิดว่าเย่เฉินเป็นคนที่คู่แข่งส่งมา ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้เรื่องที่ตนประสบอุบัติเหตุได้ยังไง?”
บอดี้การ์ดสี่ห้าคนลงมือทันที ขวางหน้าเย่เฉินเอาไว้
บอดี้การ์ดอีกสองคน สาวเท้าไปตรงหน้าเซวียวฉางควน ยื่นมือไปคว้าตัวเขาด้วยความเหี้ยมโหด
เซวียวฉางควนตกใจมาก คิดไม่ถึงว่าออกมาหาวัตถุโบราณ จะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ขณะที่บอดี้การ์ดกำลังจะคว้าตัวเซียวฉางควน แววตาเย่เฉินเย็นยะเยือก เตะบอดี้การ์ดร่างใหญ่ที่ขวางอยู่ตรงหน้าทิ้ง พุ่งไปตรงหน้าเซียวฉางควน ต่อยไปที่หน้าของบอดี้การ์ด
“ผวัะ!”
บอดี้การ์ดกำลังจะคว้าตัวเซียวฉางควน ไม่ทันป้องกันตัวจึงถูกต่อยตรงกลางหน้า เลือดกำเดาไหลออกมาทันที กุมหน้าเอาไว้แล้วถอยหลังหลายก้าว
บอดี้การ์ดอีกคนเห็นเย่เฉินลงมือ จึงรีบคว้ากระบองไฟฟ้า พุ่งไปตีเย่เฉินด้วยความดุร้าย
“อ๊า!” เซียวฉางควนตกใจร้องเสียงหลง “เย่เฉิน หลบเร็วเข้า!”
ยังไม่ทันพูดจบ เห็นเพียงเย่เฉินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หลบกระบองที่กำลังพุ่งเข้ามา จากนั้นคว้าข้อมือของบอดี้การ์ด ใช้แรงเล็กน้อย
“ปั้ง!”
บอดี้การ์ดที่ถือกระบองไฟฟ้าเอาไว้ไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกจับทุ่มกระแทกลงบนพื้น เจ็บจนเม้มกัดฟัน นานครู่หนึ่งก็ยังลุกไม่ขึ้น
เซียวฉางควนมองดูจนพูดไม่ออก เกือบจำไม่ได้ว่าคนหนุ่มตรงหน้าเป็นลูกเขยตนเอง
ทำไมฝีมือการต่อสู้ของเขาถึงดีแบบนี้?
เย่เฉินก้มลง เก็บกระบองไฟฟ้า จับมันเอาไว้ในมือแล้วพูด:“ยังมีใครอีก? คนที่เหลือมาพร้อมกันเถอะ”
กลุ่มคนมองดูด้วยความเงียบ สายตาจดจ้องไปที่เย่เฉินตลอดเวลา
จางเอ้อเหมาเองก็ตาค้าง มองดูเย่เฉินแล้วพูดพึมพำ:“พี่ใหญ่ สุดยอดไปเลย!”
ตอนนี้เขารู้สึกว่าตนโชคดีมาก ที่เมื่อกี้ไม่ได้ทำให้เย่เฉินโมโห ไม่อย่างนั้นถูกทุ้มลงไป กระดูกของตนคงหลุดออกจากกันจนหมด
เซียวฉางควนดึงสติกลับมา อยู่ด้านหลังเย่เฉินแล้วเอ่ยถามด้วยความตกใจ :“เย่เฉิน นาย……วิชาการต่อสู้พวกนี้นายฝึกมาจากที่ไหน?”
“อันนี้หรอครับ……” เย่เฉินยิ้ม พูด:“พ่อครับ ตอนที่ชูหรันไปทำงาน ผมอยู่บ้านเบื่อๆก็เลยดูทีวี ทุกวันตอนเช้ามีรายการต่อสู้ไม่ใช่หรอครับ ผมฝึกมาจากในทีวีครับ”
ความเป็นจริงเย่เฉินฝึกหวิงชุนตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเป็นหวิงชุนที่แท้จริง ถึงอย่างไรหยิปหมั่นที่มีชื่อเสียง เป็นหนึ่งในทายาทสายหนึ่งที่แยกตัวออกไปของตระกูลเย่!
แต่ว่า เพื่อที่จะซ่อนตัวตน เป็นธรรมดาที่เขาไม่สามารถบอกพ่อตาได้
อีกทั้ง สิ่งที่ทำให้แม้แต่ตัวเย่เฉินตกใจก็คือ ความสามารถของตนในตอนนี้ พัฒนาไปไม่น้อย!
ความสามารถในการต่อสู้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ดูท่า น่าจะเป็นเพราะผลลัพธ์ของ《ตำราเก้าเสวียนเทียน》
รวมถึงก้อนหินทรงไข่ห่านที่เต็มไปด้วยเรกิเมื่อครู่ เรกิบางส่วนเข้าไปในร่างกาย รู้สึกว่าศักยภาพเพิ่มขึ้นจำนวนมาก!
กลุ่มคนร้องตะโกนด้วยความตกตะลึง
ต่อสู้เก่งระดับนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าอาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในสถาบันการต่อสู้ของเมืองจินหลิงเสียอีก แต่เขากลับฝึกด้วยตนเองจากการดูทีวี!!
พรสวรรค์ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง น่าตกตะลึงจริงๆ!
“ฝึกจากในทีวี!” จางเอ้อเหมาเบิกตากว้าง ต่อสู้ได้สุดยอดขนาดนี้ แต่กลับฝึกมาจากการดูทีวี รีบยิ้มแห้งๆให้กับเย่เฉินด้วยความนับถือ :“พี่ใหญ่ ขอถามหน่อยครับว่าพี่ฝึกมาจากช่องไหน ผมก็อยากฝึกด้วย”
เย่เฉินหันไปมองจางเอ้อเหมา พูดเสียงเรียบ:“ช่องCCTVรายการกีฬา อู่หลินเฟิง!”