ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 666
บทที่ 666
“อะไรนะ?!” หม่าหลันเอ่ยถามด้วยความตกใจ : “มีเถ้าแก่ใหญ่เชิญนายไปดูฮวงจุ้ย?”
“อืม” เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า: “จะไปเที่ยงนี้”
“ดีมากเลย!” หม่าหลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที โพล่งพูดออกไปว่า : “รีบไปเลยรีบไป!พยายามฉ้อโกงเอาเงินมาให้เยอะๆหน่อย ทางดีที่สุดก็คือสามารถหาเงินเข้ามาให้เพียงพอกับที่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ของบ้านเรา!”
เย่เฉินพูดว่า : “ผมจะพยายามแล้วกัน”
จริงๆแล้ว เย่เฉินได้ทำการตัดสินใจแล้ว จะถอนเงินในบัตรของตัวเองออกมาสองล้านบาท กลับมาก็ค่อยบอกว่าได้เงินมาจากการดูฮวงจุ้ยให้คนเขา เอาเงินนี้มาซื้อเฟอร์นิเจอร์
เขาก็ไม่อยากให้ภรรยาของเขาอยู่บ้านที่เก่าคร่ำครึกไปตลอด แถมอยู่ที่นี่ อยู่ติดผนังห้องของหม่าหลัน แถมยังต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน อย่าพูดเลยว่ามันน่ารำคาญมากแค่ไหน
ถ้าย้ายไปที่คฤหาสน์ ตัวเองกับภรรยาอยู่ชั้นนึง ให้หม่าหลันอยู่กับเซียวฉางควนอีกชั้นนึง ทำแบบนั้นก็ทำให้รู้สึกสงบไม่น้อยเลย
ดังนั้น เขาถึงใช้ข้ออ้างพูดว่าไปดูฮวงจุ้ยให้คนอื่น จริงๆในใจคิดไว้เรียบร้อยแล้ว ไปทานข้าวกับคุณท่านซ่ง แล้วก็เลยไปทำบัตรใหม่ที่ธนาคาร โอนเงินเข้าไปสองล้าน แล้วก็มอบเงินนี้ให้กับภรรยา หรือไม่ก็เซียวฉางควน
สรุปได้ว่า ไม่มีทางที่จะมอบให้หม่าหลันหญิงชราผู้ใช้เงินล้างผลาญ
ไม่อย่างนั้น เป็นไปได้ว่าเมื่อเขาได้เงินแล้ว ก็รีบไปเติมเงินสองแสนที่สถาบันเสริมความงามเพื่อทำหน้า ทำให้รูปร่างสวย
เวลา 11:00 ซ่งหวั่นถิงก็ขับรถมาถึงหน้าคอนโดแล้ว
เธอโทรศัพท์หาเย่เฉินด้วยความเคารพ บอกเย่เฉินว่าถึงแล้ว เย่เฉินถึงจะลงมา
หน้าประตูคอนโด ซ่งหวั่นถิงลงจากเพื่อมาเปิดประตูรถให้เขาด้วยความเคารพ รอจนเขาขึ้นรถแล้ว ถึงจะพูดกับเขาว่า : “อาจารย์เย่ คุณปู่ไปรอคุณที่เทียนเซียงฝู่ล่วงหน้าแล้วค่ะ พวกเราก็ไปกันเถอะ”
“โอเค” เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มพร้อมพูดว่า: “เหนื่อยแล้วนะ ที่ต้องขับรถมารับฉันโดยเฉพาะ”
ซ่งหวั่นถิงค่อนข้างเขินอาย กล่าวด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อว่า : “นี่เป็นสิ่งที่หวั่นถิงควรทำค่ะ”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรมากมาย
……
เทียนเซียงฝู่ในเวลานี้
คุณท่านซ่งพร้อมด้วยบอดี้การ์ดสองคนเคียงข้าง ก้าวเกินเข้าไปในประตูใหญ่
วันนี้เชิญเย่เฉินมาทานข้าว เขาจึงไม่ได้พาลูกหลานตระกูลส่งมาด้วย นอกจากบอดี้การ์ดแล้ว ก็พาซ่งหวั่นถิงมาเพียงคนเดียว
เมื่อหงห้าได้ยินมาว่าคุณท่านซ่งมาถึงแล้ว ก็รีบออกมาต้อนรับ พูดด้วยความเคารพว่า : “ท่านซ่ง ขอโทษด้วยจริงๆนะครับ เมื่อกี้กำกับสั่งงานพวกลูกน้องที่ห้องเพชร ไม่ทันได้ออกมาต้อนรับคุณ”
คุณท่านซ่งเห็นหงห้า ก็เกิดสีหน้าที่ประหลาดขึ้นมาทันที
หงห้าที่อยู่ต่อหน้า จู่ๆก็ดูอายุน้อยกว่าเมื่อวานที่เห็นในงานเลี้ยงวันเกิดอีก!
หรือว่า เขาก็ได้รับยาอายุวัฒนะของอาจารย์เย่เหมือนกัน?!
คิดมาถึงตรงนี้ คุณท่านซ่งก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอนว่า : “หงห้า……คุณ……คุณก็ได้รับโอกาสจากอาจารย์เย่ใช่ไหม?!”
หงห้ารีบพยักหน้า พลางยื่นมืออีกข้างเข้าไปประคองคุณท่านซ่งด้วยความเคารพ พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า : “ท่านซ่ง พูดอย่างไม่ปิดบังคุณเลยนะ เมื่อคืนตระกูลอู๋ส่งคนมาที่เทียนเซียงฝู่ ทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของผมบาดเจ็บสิบกว่าคน เกือบจะเอาชีวิตผมไปแล้ว อาจารย์เย่มาช่วยชีวิตผมไว้ได้ทันพอดี แถมยังมอบยาอายุวัฒนะให้ผมหนึ่งเม็ด ไม่เช่นนั้น แม้ว่าตอนนี้จะมีชีวิตรอด ก็อาจจะเป็นคนที่ตายทั้งเป็นแล้ว!”
คุณท่านซ่งเอ่ยถามด้วยความตกใจว่า : “เกิดอะไรขึ้น?ทำไมฉันถึงไม่ได้ข่าวเรื่องนี้ล่ะ?”
หงห้าถอนหายใจพร้อมพูดว่า : “เมื่อวานตอนเที่ยงหลังจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิด อาจารย์เย่บอกว่ากลางคืนพ่อตาของเขาจะมาจัดงานเลี้ยงที่เทียนเซียงฝู่ ผมก็ไม่กล้าเมินเฉย หลังจากที่ออกมาจากงานของคุณแล้ว ก็มาเตรียมการที่นี่เลย แต่คิดไม่ถึงว่า หลิวกว่าง หลิวหมิงสองพ่อลูก พาบอดี้การ์ดห้าคนของอู๋ตงไห่บุกเข้ามาฆ่าทันที เกือบจะฆ่าผมตายแล้ว!แล้วยังจะฆ่าพ่อตาของอาจารย์อีกด้วย!จริงๆแล้วเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือ อาจารย์เย่! ”
“อะไรนะ?!” เมื่อวานคุณท่านซ่ง ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เลย เขามัวแต่หมกมุ่นอยู่ประสิทธิภาพที่ยิ่งใหญ่ของยาอายุวัฒนะจนถอนตัวไม่ขึ้น และคนอื่นๆในตระกูลซ่งต่างก็ใช้ความคิดของตัวเองทั้งนั้น เหมือนกับซ่งหวั่นถิง ที่มีความสุขอย่างมาก และซ่งเทียนหมิง ซ่งหรงวี่สองพ่อลูกกลับว่าเป็นกังวลอย่างมาก ทุกคนต่างก็ไม่ได้มีใครสนใจกับเรื่องภายนอก
ในเวลานี้เมื่อคุณท่านซ่งได้ยินว่าอู๋ตงไห่ต้องการฆ่าอาจารย์เย่ ทันใดนั้นก็โกรธอย่างมาก โพล่งพูดออกไปว่า : “ตระกูลอู๋สมควรตาย!”
พูดจบแล้ว เขาก็พูดกับบอดี้การ์ดคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายของเขาทันทีว่า : “รีบไปประกาศเลยนะ ถ้าตระกูลอู๋กล้าทำร้ายอาจารย์เย่แม้แต่ปลายผม จะให้คนทั้งวงศ์ตระกูลซ่งต่อสู้กับตระกูลอู๋จนตายกันไปข้างหนึ่ง!”